เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง.พร้อม นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และโฆษก ปปง.และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงผลการดำเนินคดีเอาผิดขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน กับพวก (คดีพิเศษเลขที่ 59/2566)

พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับกลุ่มบริษัทชิปปิ้ง 10 หมาย มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 8 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 2 ราย กลุ่มนายทุนออกหมายจับแล้ว 2 ราย คือ นายวิรัช ภูริฉัตร อายุ 69 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด WEALTY & HEALTHY FOODS CO.,LTD. และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด THE GOOD SHOP CO.,LTD และ นายธนกฤต ภูริฉัตร อายุ 42 ปี สองพ่อลูก ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบคัดแยกทรัพย์สินที่ได้มาช่วงระหว่างการกระทำผิดหรือนำไปใช้เพื่อกระทำผิด โดยต้องให้สองพ่อลูกนำหลักฐานมาชี้แจง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้รับทรัพย์สินหรือฟอกเงินและเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดด้วย

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า ส่วน นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด) เป็นกลุ่มนายทุนหรือผู้จ้างวานบริษัทชิปปิ้ง นำเข้าหมูเถื่อน จะมาพบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 21 พ.ย.และเป็นผู้ต้องหาคดีหุ้น MORE ความเสียหาย 4 พันกว่าล้านบาท ซึ่งคดีหุ้นฯ กลต.มาร้อง ตำรวจ บก.ปอศ.

ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ เผยว่า คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีคำสั่งให้ยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 24 รายการ เป็น บ้าน ที่ดิน ยานพาหนะ 31 ล้านบาท และเงินในบัญชีฝากธนาคาร 22 ล้านบาท มูลค่าประมาณ 53 ล้านบาท

ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาก DSI ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานและส่งให้ปปงพิจารณา หรือ ปปง.พบเข้าข่ายความผิดจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 และกฎหมายฟอกเงิน ยืนยันใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะเอาผิดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปปง.มีพยานหลักฐานในการกระทำความผิดและเส้นทางการเงินหรือทรัพย์สินครบถ้วนแล้ว รอเพียงดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ในช่วงระหว่างการกระทำผิด ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ในเดือน ธ.ค.นี้ จะสามารถพิจารณายึดอายัดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มเติม ซึ่งในล็อตต่อไปจะเป็นการยึดทรัพย์ของนายทุน 2 พ่อลูกที่ DSI พึ่งดำเนินการจับกุมตัวและกรณีของนายสมนึกที่จะเข้ามาพบกับ DSI ในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจะเป็นการเตรียมยึดอายัดทรัพย์สินของผู้จัดจำหน่ายเนื้อหมูเถื่อนซึ่งทาง DSI จากรวบรวมพยานหลักฐานและส่งรายการทรัพย์สินมาให้ในล็อตต่อไปเพราะชั่วคราว

สำหรับปัญหาการเอาผิดขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน คือ กลุ่มบริษัทชิปปิ้งลักลอบนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2563-2565 กว่า 2,385 ตู้ ซึ่งผ่านด่านกรมศุลกากรสำแดงเท็จออกไปได้อย่างไร และกระจายไปยังห้องเย็นจังหวัดต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้พบว่าเส้นทางการเงินและการโยกย้ายทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำความผิดไม่ได้มีความซับซ้อนแต่มีจำนวนทรัพย์สินและสิ่งผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก โดยเห็นได้จากเนื้อหมูเถื่อนจำนวนมากกว่า 2,000 ตู้ที่กระจัดกระจายไปทั่วประเทศในช่องทางการจำหน่ายและการจัดเก็บไว้ตามสถานที่ต่างๆ จึงทำให้การตรวจสอบอายัดทรัพย์สินและตามเส้นทางการเงินค่อนข้างยาก

ต่อข้อถามผู้สื่อข่าวกรณีที่อธิบดีดีเอสไอ ถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิในระหว่างการประชุมที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอธิบดี DSI ระบุว่าการดำเนินการเกี่ยวกับคดีหมูเถื่อนเป็นไปด้วยความล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากการตรวจยึดทรัพย์สินของ ปปง.ที่ค่อนข้างล่าช้านั้น ทาง ปปง.จะมีการปรับปรุงเรื่องการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.ซึ่งจะมีการประชุมเพียงเดือนละ 1 ครั้ง จะพิจารณาให้มีการประชุมมาก กว่า1ครั้งต่อเดือนหรือไม่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ชี้แจงว่า ปัญหาดังกล่าวทาง ปปง.ได้รับทราบแล้วอีกทั้งเลขาธิการ ปปง.ได้รับการประสานจากทางนายกรัฐมนตรี และ DSI ให้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว ว่าหากมีเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นต้องยึดทรัพย์เพิ่มเติมในคดีต่างๆ เลขาธิการ ปปง.สามารถดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ในมาตรา 48 วงเล็บ 2 หรือที่เรียกกันว่าการเซ็นยึดทรัพย์เร่งด่วน ซึ่งเลขาธิการ ปปง.สามารถอนุมัติให้ยึดทรัพย์ก่อนได้ แต่ก็ต้องรับผิดชอบหากเจ้า ของทรัพย์สินจะฟ้องร้องดำเนินคดีในภายหลัง อีกทั้งการประชุมของคณะกรรมการดังกล่าวไม่สามารถเพิ่มรอบการประชุมได้เนื่องจากติดกฎหมายของทาง ปปง.ทราบว่าทางเลขาธิการ ปปง.อยู่ระหว่างการพิจารณานำเสนอเรื่องดังกล่าวให้สำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแก้กฎหมายเพิ่มรอบในการประชุมให้สอดคล้องกับปริมาณของทรัพย์สินและคดีที่ต้องยึดทรัพย์

- 006