รวมพลังกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก จับมือเอกชนสานต่อ “ไม่เทรวม” ให้ยั่งยืน
นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและ Chief Sustainability Officer(ผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร)เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมความร่วมมือการจัดการขยะมูลฝอย “ไม่เทรวม”กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก ณ โรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) ถนนฉลองกรุงเขตลาดกระบัง
สำนักงานเขตลาดกระบัง มีพื้นที่ทั้งหมด 123 ตร.กม. มีจำนวนประชากร179,646 คน เป็นเขตที่กำลังขยายตัวทำให้เกิดปัญหาขยะล้นถัง ขยะตกค้าง และการลักลอบทิ้งขยะ ซึ่งปริมาณขยะมูลฝอยที่ต้องจัดเก็บเฉลี่ย 274 ตัน/วัน หรือ 8,339 ตัน/เดือน เพื่อลดปัญหาดังกล่าว สำนักงานเขตลาดกระบังร่วมกับ บริษัทสถานีรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์ สุวรรณภูมิ จำกัด ดำเนินการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะมูลฝอยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะมูลฝอย (ขยะเปียก) บริเวณใต้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ถนนหลวงแพ่ง และศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะมูลฝอย (ขยะแห้ง) บริเวณสถานีรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์สุวรรณภูมิ และดำเนินการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของหน่วยงานโครงการลดขยะโดยการใช้แอปพลิเคชั่น Waste Buy เพื่อสร้างมูลค่าสู่ชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการ โดยได้รับความร่วมมือจากดร.อิทธิกร ศรีจันบาล ประธานกรรมการบริษัท สถานีรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์สุวรรณภูมิ จำกัด สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมด้วย Waste Buy แอปพลิเคชั่น“การซื้อขยะถึงบ้าน” ทำให้ปริมาณขยะลดลง รวมถึงสร้างรายได้ให้กับประชาชน ประกอบกับนโยบาย“ไม่เทรวม” ของผู้ว่าฯกทม. จึงเกิดความร่วมมือในการจัดการขยะมูลฝอยของกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก จำนวน9 เขต ได้แก่ ลาดกระบัง หนองจอก ประเวศ บางกะปิ คลองสามวา สะพานสูงมีนบุรี บึงกุ่ม และคันนายาว
นายพรพรหมกล่าวว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากทุกเขต และหน่วยงานภาคเอกชนที่ร่วมส่งเสริมการคัดแยกขยะจากต้นทาง ปีที่ผ่านมาขยะของกทม. ก็ลดลงเฉลี่ยวันละ 200-500 ตัน ทำให้ลดงบประมาณไป141 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปสนับสนุนในด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข ถือเป็นผลสำเร็จอย่างยิ่งไม่ใช่แค่ของกทม. แต่เป็นของทุกภาคส่วนที่ร่วมรณรงค์การแยกขยะด้วยกัน ถามว่าท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ กำหนดนโยบาย “ไม่เทรวม” ขึ้นมาทำไม หลักคิดไม่เทรวมง่ายๆ คือ แยกขยะ 2 ประเภท คือ “เปียก” กับ “แห้ง” เพราะชีวิตเราอาจไม่ได้มีเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้งสำคัญที่สุด แต่มีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายให้ต้องคิด การขอให้แยกขยะอย่างละเอียดอาจจะไม่ใช่เรื่องสะดวกสำหรับทุกคน การแยกขยะเปียก เศษอาหารกับขยะแห้งจึงเป็นเรื่องทำได้ง่ายที่สุด ซึ่งแค่การแยกขยะเปียกออกไปแล้ว ที่เหลือเป็นขยะแห้งที่สามารถแยกไปทำประโยชน์ต่อได้อีกมากมายซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย วันนี้ดีใจอย่างยิ่งที่กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออกได้สานต่อจากแค่ในมิติของการแยกขยะเปียกออกมา ต่อยอดสู่การจัดการขยะแห้งให้กลับคืนสู่ระบบ จัดการอย่างถูกวิธีและเข้าสู่กระบวนการเศรษฐกิจหมุนเวียน และโครงการนี้ยังตรงกับแนวคิดผู้ว่าฯ ชัชชาติคือ เราเริ่มก่อนจาก 1 เขต ว่าได้ผลดีหรือไม่อย่างไร จากนั้นค่อยขยายต่อไปสู่กลุ่มเขตและจะได้ขยายไปสู่ทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานครต่อไป
ในการนี้มี นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล ผู้ช่วยปลัดกทม. นายประพาสเหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นายชัชชญา ขำจันทร์ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง และประธานกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก ดร.อิทธิกร ศรีจันบาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สถานีรีไซเคิลฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออกผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตลาดกระบัง ผู้ประกอบการร้านค้า ประธานกรรมการชุมชน คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตลาดกระบัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี