กทม.ตั้งโต๊ะแถลง แจงผังเมืองใหม่ กทม.เอื้อนายทุนจริงหรือ! ขยายเวลารับฟังความเห็น ปชช.ไปถึง ก.พ.67
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายนพนันท์ ตาปนานนท์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นางชูขวัญ นิลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง แถลงข่าวกรณีกระแสข่าวผังเมืองใหม่ กทม.เอื้อนายทุน ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)
นายวิศณุ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการตั้งโต๊ะแถลงข่าวในวันนี้ เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวหลายสำนักตั้งคำถามมายัง กทม.ถึงเรื่องผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) ว่า กทม.เอื้อนายทุนจริงหรือไม่ จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวตอบทุกคำถามในวันนี้
สำหรับผังเมืองรวมของ กทม.ฉบับปัจจุบันที่ใช้กันอยู่คือของปี 2556 ซึ่งใช้มานานร่วม 10 ปีแล้ว และตามหลักของการพัฒนาเมือง จะต้องมีการทบทวนวางผังเมืองใหม่ ทุกๆ 5 ปี ซึ่งปัจจุบันล่วงเลยมาเป็น 10 ปีแล้ว และเมื่อปี 2562 มี พ.ร.บ.ผังเมืองฉบับใหม่ออกมา กำหนดให้มีการทำผังน้ำและผังทรัพยากรสำรองเพิ่มเติม โดยมติของคณะกรรมการจัดทำร่างผังเมือง กำหนดให้ กทม.เป็นผู้จัดทำ โดยผังใหม่นี้จะปรับให้ใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียว และพื้นที่สาธารณะได้เต็มที่ และอัปเดตให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น เน้นให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และรองรับการอยู่อาศัยของประชากรเมืองที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น พื้นที่ชานเมือง
ส่วนพื้นที่หลักๆ ที่จะเปลี่ยนไป เช่น พื้นที่ศรีนครินทร์ จะปรับจากที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีแดง และสายสีเหลือง ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว รวมทั้งทางน้ำหลาก (ฟลัดเวย์) ด้านตะวันออกที่เขตมีนบุรี หนอกจอก คลองสามวา และลาดกระบัง เดิมเป็นพื้นที่สีเขียวเกษตรกรรม ซึ่งใช้เป็นฟลัดเวย์ หรือพื้นที่รองรับน้ำหลากขนาด 250 ตารางกิโลเมตร จะถูกปรับเปลี่ยนให้เหลือเพียง 50 ตารางกิโลเมตร เพื่อลดภาระประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว แต่ทางแก้ของผังรวมใหม่ จะพัฒนาระบบคลองแนวเหนือ - ใต้อย่างเป็นระบบ มีการขยายคลองเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ กระบวนการทำผังเมืองนั้น ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาแล้วประมาณ 7 ครั้ง และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการรับฟังความคิดเห็นครั้งใหญ่ เมื่อประชาชนหลายคนเห็นผังเมืองแล้ว ส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องแนวเขตทาง จากผังเมืองที่มีการขีดเส้นระบุความกว้างถนน เช่น ถนนสาย ก.กว้าง 12 เมตร ถนนสาย ข.กว้าง 16 เมตร เป็นต้น ประชาชนจึงกลัวว่าจะถูกเวนคืนพื้นที่อาศัย จึงขอชี้แจงว่า ไม่มีการเวนคืน แต่การขีดเส้นระบุแนวความกว้างของถนนเพื่อให้การก่อสร้างใหม่ในอนาคตไม่รุกล้ำแนวเส้น ต้องถอยร่นเปิดพื้นที่ความกว้างของถนนที่กำหนดไว้ ไม่ให้เกิดความแออัด ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะเวนคืนสิ่งก่อสร้างหรือบ้านเรือนที่สร้างแล้วในปัจจุบัน ยืนยันว่า ไม่มีการเวนคืนพื้นที่ที่สร้างแล้วคืน
กรณีมีผู้ตั้งคำถามว่า กทม.จัดทำร่างผังเมืองเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนหรือไม่ ซึ่ง กทม.ยืนยันว่า ไม่มีการจัดทำร่างผังเมืองเพื่อเอื้อนายทุนตามที่มีการตั้งข้อสงสัย เนื่องจากแต่เดิมมีแนวคิดปรับผังที่ดินเพื่อให้เจ้าของที่ดินได้ประโยชน์จริง แต่ปัจจุบันในการปรับผังใหม่ ระบุว่า เจ้าของที่ดินผู้ได้ประโยชน์จากการปรับผังที่ดินต้องปันประโยชน์ให้แก่สาธารณะด้วย เช่น ให้พื้นที่สีเขียวที่ประชาชนเข้าถึงได้ หรืออนุญาตให้จัดตั้งระบบสาธารณูปโภค ทางเท้า เสาสะพานทางเดินลอยฟ้าในที่ดินของตนเอง เป็นต้น ถือว่าได้ประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากเจ้าของที่ดินได้ประโยชน์จากการปรับผังแล้ว ยืนยันว่า กทม.ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ให้ประชาชนสามารถแสดงสิทธิ์ได้ เพื่อหาทางออกร่วมกันในการปัญหา กทม.พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น
นายวิศณุ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เดิม กทม.จะเปิดรับความคิดเห็นถึงวันที่ 22 ม.ค.นี้ จึงได้ขยายเวลาออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.67 หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการประมวลผลความคิดเห็นของประชาชนที่ได้เสนอมา พร้อมปรับแก้ไขร่าง ก่อนจะผ่านคณะกรรมการอีกหลายขั้นตอน ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมือง โดยมี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน 2.คณะกรรมการจากกรมโยธาธิการและผังเมือง 3.คณะกรรมการจากกระทรวงมหาดไทย โดยมี ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน หลังจากนั้น จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นอีก 1 ครั้ง หลังจากผ่านความเห็นจากคณะกรรมการทั้งหมดแล้ว เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถคัดค้านและแสดงความเห็นได้
ส่วนเรื่องผังสีต่างๆ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร https://cpudapp.bangkok.go.th/cityplandraft4/ ซึ่งสามารถระบุได้ว่าที่อยู่อาศัยของประชาชนแต่ละรายอยู่ในเขตผังสีใด ได้รับผลกระทบหรือไม่ และสามารถคัดค้านหรือแสดงความคิดเห็นตามกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไปได้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี