ตัวแทน 2 บริษัทชิปปิ้งรายใหญ่เข้าพบ DSI รับทราบข้อกล่าวหา พร้อมชี้แจงนำเข้าหมูถูกต้อง อ้างเจตนาส่งออกขายประเทศที่สาม แต่ถูก"ปศุสัตว์"กลั่นแกล้งอายัด 41ตู้ เหมารวมในล็อตหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ด้านหน.แฉเจอขบวนการกลุ่มใหม่ใหญ่กว่าเดิมกว่า 10,000 ตู้ เตรียมเปิดปฏิบัติการค้นสัปดาห์หน้า
วันนี้ ( 1ธ.ค.66) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ราชการอาคารเอ ห้องประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ 2 บริษัท คือ บ.ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และบ.สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พร้อมทีมทนายความ เข้าพบพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เพื่อชี้แจงการนำเข้าหมู 41 ตู้ ในช่วงส.ค. ปี 2565 ซึ่งอยู่ในส่วนของคดีพิเศษ 161 ตู้
โดยภายหลังจากช่วงเช้านายบริบูรณ์ เข้าให้ปากคำชี้แจงถึงสาเหตุการนำเข้าตู้หมู โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม. นั้น นายบริบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนมาพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่ได้มาตามหมายเรียกหรือหมายจับ แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ โดยบริษัทได้นำสินค้าชิ้นส่วนสุกรเข้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถูกทำให้กลายเป็นตู้หมูเถื่อน จนทำให้เนื้อหมูที่บริษัทตนนำเข้ามาเพื่อเตรียมส่งขายไปยังประเทศที่สาม อาทิ ประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชา ชนลาว เป็นต้น ถูกอายัดตกเป็นของกลางในคดีของดีเอสไอ
อีกทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่าเนื้อหมูของตน เป็นกลุ่มเดียวกับเนื้อหมูเถื่อนที่ได้มีการนำเข้าตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) จึงต้องถูกอายัดไว้ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ไม่ให้นำเปิดตู้ออกจำหน่าย ทำตามขั้นตอนกฏหมายทุกประการ ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานรัฐครบทั้งหมด แต่ถูกกลั่นแกล้ง พยายามยัดเยียดให้เป็นหมูเถื่อน โดยกรมปศุสัตว์พยายามที่จะถามหาเอกสารที่ไม่ได้อยู่ในคู่มือประชาชนหรือไม่มีอำนาจมาขอ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างร้องเรียนต่อศาลปกครอง โดยยื่นเรื่องช่วงมิ.ย.66 กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ ยืนยันบริษัทมีเจตนาชัดเจนที่จะส่งออกและมีเอกสารผู้รับปลายทางชัดเจน โดยจาก 41 ตู้ มี 2 ตู้เป็นมันหมูที่สามารถนำเข้าได้ แต่ถูกใช้เหตุผลต่างๆนาๆยับยั้งไม่ให้นำเข้า และทำให้เป็นของเถื่อน ดังนั้น ตนจึงนำเอกสารคำฟัองศาลและหนังสือยืนยันความบริสุทธิ์มามอบให้พนักงานสอบสวน
พร้อมกันนี้ ระบุว่าบริษัทเคยฟ้องร้องกรมปศุสัตว์มาด้วยเรื่องอื่นตั้งแต่ปี '62 จึงถูกหมายหัวจากกรมปศุสัตว์ นอกจากนี้ อีกทั้งที่ผ่านมายังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากบรรดาผู้ประกอบการอีกด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทของตนได้มีการนำเข้าสินค้าหลายประเภท ทั้งประเภทอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) ไม่เพียงแค่ชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง และก็ได้จำหน่ายไปยังประเทศที่สาม เช่น นำเข้าพริกจากอินเดียไปขายที่ลาว ก็สามารถดำเนินการได้ปกติจนมาถูกกลั่นแกล้งกันดังกล่าว
นายบริบรูณ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับหมู 41 ตู้มีมูลค่าหมูกว่าร้อยล้าน ค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟห้องเย็นวันละ 5 แสนบาท บริษัทก็ต้องจ่าย เพราะถูกอายัดไม่ให้ขนย้ายบริษัทก็รอคำสั่งศาลปกครองอยู่ ดังนั้นถือว่าของอยู่ในกระบวนการชั้นศาลแต่กลับถูกเอาไปทำลายทิ้ง ทำให้ตนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมไม่รอให้ศาลวินิจฉัยก่อนค่อยทำลาย
ขณะที่นายผดุงศักดิ์ เทียนไพโรจน์ ทนายความของนายบริบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับเอกสารที่จะต้องนำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนในครั้งหน้า จะเป็นเอกสารที่ระบุถึงการนำสินค้าจากประเทศต้นทางเข้ามายังประเทศไทย และเจตนาที่จะนำออกจำหน่ายประเทศที่สาม รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการสำแดงสินค้าว่าถูกต้องอย่างไร เพื่อแสดงว่าเราไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา และขอขอบคุณดีเอสไอที่ได้ให้เรามีพื้นที่ชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งวันนี้และได้ปฏิเสธ คือ ความผิดฐาน นำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ได้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับให้ข้อมูลและเอกสารบางส่วนแก่พนักงานสอบสวน เบื้องต้นปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งดีเอสไอให้นำเอกสารชี้แจงอย่างละเอียดภายใน 15 วัน ซึ่งเป็น 2 บริษัทสุดท้ายที่เข้ารับทราบข้อหาของสำนวน 161 ตู้ ที่ดีเอสไอออกหมายจับ 10 บริษัท
ส่วนการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายคดีหมูเถื่อนนั้น พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าต่อโดยจะเริ่มปฎิบัติการในสัปดาห์หน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะเราได้ตรวจพบขบวนการกลุ่มใหม่ขนาดใหญ่ที่มีการลักลอบนำเข้าหมูกว่า 10,000 ตู้ ตามที่แจ้งไปแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ดีเอสไอจะเข้าตรวจค้นโลตัสนั้น ยืนยันว่า ในคดีนี้โลตัสไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเราจะไม่ได้เข้าตรวจค้นแต่อย่างใด มีเพียงการดำเนินการตรวจสอบกับทางแม็คโครเท่านั้น เพราะทางแม็คโครได้มีการรับซื้อชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งจากผู้ต้องหาของดีเอสไอ ซึ่งทางแม็คโครจะต้องนำส่งเอกสารต่างๆภายใน 1 เดือน คาดว่าจะเข้ามอบเอกสารในช่วงสัปดาห์หน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี