เมื่อถึงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวนิยมไปวนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ยอดนิยม ของจังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 15 กิโลเมตรตามถนนอรุณประเสริฐ ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองอำนาจเจริญ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่สวยงาม จึงมีนักปีนเขา ไตเขา เตี้ยๆไม่สูงมากนัก เดินทางขึ้นไปชมทิวทัศน์ทัศนียภาพบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง
วนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านป๋าเจริญ ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ โดยคาบเกี่ยวพื้นที่ 3 ตำบล คือตำบลคึมใหญ่ ตำบลเหล่าพรวน อ.เมืองอำนาจเจริญ รวมถึง ตำบลโนนงาม อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงบักอี่ ดงหัวกองมีเนื้อที่ 10,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2539
วนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนกันเป็นเทือกยาว ในชั้นระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200-300 เมตร บางส่วนเป็นลานหินกว้างและหน้าผาสูงชัน มีถ้ำขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่ง และยังเป็นแหล่งต้นน้ำห้วยสีโทและห้วยทรายด้วย
วนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้สะดวกสามารถเป็นเส้นทางเดินเท้า ขึ้นเขา ชมธรรมชาติ โดยไม่หลงป่า เพราะมีแนวชี้บอกทางเดินที่แน่ชัด ระยะเวลาในการเดินเท้าท่องเที่ยวชมธรรมชาติ โดยรอบจนกลับมาที่เดิม ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
การที่จะเข้าไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม จะต้องเดินเท้าอย่างเดียว โดยจุดเริ่มต้นที่วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง ทางทิศใต้ เพื่อจะไปมนัสการ “พระเทพรัตนโกสินทร์” แบบปางห้ามญาติ ประดิษฐานอยู่บนหินผาสูง คล้ายหน้าผาพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันออก ด้านล่างเป็นลานหินกว้างท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนชั่วคราวของนักท่องเที่ยว และกราบขอพรบูชา “พระเทพรัตนโกสินทร์” เพื่อความเป็นสิริมงคล
ลานควายตู้ อยู่ห่างจาก พระเทพรัตนโกสินทร์ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างใหญ่ ว่ากันว่า สมัยโบราณ นายฮ้อยวัว หรือ พ่อค้าวัว ควาย มักจะเดินทางค้าขายข้ามจังหวัด ผ่านป่าเขาลำเนาไพร หากมืดค่ำ จะพักค้างแรม บริเวณนี้จึงเป็นที่สำหรับพักค้างแรมของบรรดานายฮ้อยวัว จึงเป็นที่มาของลานควายตู้ ให้เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
ห่างกันไม่ไกล จะเป็นลานหินกว้าง 10 เมตร ซึ่งหินคล้ายตะพาบน้ำตั้งอยู่บนลาน เกิดจากการกัดเซาะของน้ำลมและแสงแดด ถัดไปทางทิศเหนือ จะพบเห็น ผาผึ้ง มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง มีรังผึ้งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ใกล้กันจะเป็นผาส่อง ถือว่าเป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติอีกจุดหนึ่ง เพราะผาส่องสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ทางธรรมชาติได้ใกล้ชิดที่สุด
สำหรับ สถานีอ่างกบ เชื่อว่า เป็นอ่างน้ำสำหรับคนสัตว์ ที่อาศัยอยู่บนภูเขา ใช้ดื่มกินและมีกบจำนวนมากอาศัยอยู่ มีน้ำขังตลอดปี และมีสาหร่ายสีเขียวสดลอยอยู่เหนือผิวน้ำสวยงามาก
เมื่อเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ไม่ถึง 6 กิโลเมตร จะพบเห็นลานทุ่งหญ้ากว้าง ประมาณ 2 ไร่ ประกอบด้วยดอกหญ้านานาชนิดผุดขึ้นเต็มพื้นที่ ออกดอกหลากสี สร้างสีสันสวยงามมาก ซึ่งจะออกดอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ณ จุดนี้ จัดให้เป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่สำคัญ เป็นไฮไลท์ ก็ว่าได้ ซึ่งจะให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ที่ช่วยในการย่อยสลายเป็นอย่างดีและที่ผ่านมา มีนักเรียน นักศึกษา เดินทางเข้ามาค้นคว้า ศึกษาหาความรู้เป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น อ่างเก็บน้าห้วยสีโท เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผาหินวงกต น้ำตกห้วยทราย น้ำตกพญานาค ถ้ำยาว ภูเอ็น เป็นต้น...
สำหรับนักท่องเที่ยว ต้องการพักค้างแรม วนอุทยานฯเตรียมบ้านพักรับรอง และลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวซึ่งจะได้รับความปลอดภัย ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืน สายลมหนาวพัดกระทบกาย นอนนับดวงดาวบนฟากฟ้าในยามค่ำคืน แสนจะโรแมนติก จะทำให้ท่านประทับใจไปอีกนาน...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี