วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
โฆษกศาลยืนยัน ความเห็นแย้ง‘หน.-อธิบดีศาลภาค4’  ไม่มีผลต่อคดี‘ลุงพล’ในชั้นอุทธรณ์

โฆษกศาลยืนยัน ความเห็นแย้ง‘หน.-อธิบดีศาลภาค4’ ไม่มีผลต่อคดี‘ลุงพล’ในชั้นอุทธรณ์

วันศุกร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 06.30 น.
Tag :
  •  

โฆษกศาลยุติธรรมชี้ความเห็นแย้งของ “หัวหน้าศาล-อธิบดีศาลภาค 4” กรณี“ลุงพล”คดี “น้องชมพู่”ไม่มีผลโดยตรงต่อการวินิจฉัยชั้นอุทธรณ์ ย้ำ
ผู้พิพากษามีอิสระในการพิจารณาคดี ชี้“ลุงพล”ยังยื่นอุทธรณ์สู้คดีได้ ด้านแม่“น้องชมพู่”เตรียมทำบุญอีกครั้งหลังน้องได้รับความเป็นธรรมกรณีศาลสั่งจำคุกลุงพล 20 ปี

ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาคดี‘น้องชมพู่’สั่งจำคุก นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล 20 ปี ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี ก่อนที่ศาลอนุญาตให้นายไชย์พลใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาทประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไขนั้น


เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 นายสรวิศลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรมเปิดเผยกรณีศาลจังหวัดมุกดาหารพิพากษาจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 20 ปีคดีน้องชมพู่ว่าจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนที่อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารที่ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่าควรยกฟ้อง(เห็นแย้ง)เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีข้อสงสัยนั้นคำเห็นแย้งก็จะอยู่ในสำนวนท้ายคำพิพากษา เมื่อเวลาคดีขึ้นสู่ศาลชั้นอุทธรณ์องค์คณะศาลอุทธรณ์ก็จะเห็นทั้งตัวคำพิพากษาของศาลจังหวัดมุกดาหาร(ศาลชั้นต้น)และความเห็นแย้งซึ่งทางองค์คณะศาลอุทธรณ์ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดในสำนวนทั้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นรวมทั้งความเห็นแย้งต่างๆที่คู่ความอุทธรณ์ขึ้นมาประกอบในการพิจารณาทำคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ แต่คำเห็นแย้งดังกล่าวคงไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์โดยตรงเพราะตัวความเห็นหลักยังเป็นความเห็นขององค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดมุกดาหาร เพราะองค์คณะผู้พิพากษาเป็นคนสืบพยานเป็นผู้ที่เห็นข้อเท็จจริงในตอนที่พยานมาเบิกความ เห็นข้อเท็จจริงพยานหลักฐานต่างๆอย่างใกล้ชิด

ส่วนน้ำหนักความเห็นแย้งจะมีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับมุมมองขององค์คณะผู้พิพากษาชั้นอุทธรณ์ หากยังเห็นคล้อยไปตามเสียงข้างมากขององค์คณะผู้พิพากษาก็เป็นดุลยพินิจของศาลในชั้นอุทธรณ์ที่จะต้องวิเคราะห์วินิจฉัยจากข้อเท็จจริงจากคำเบิกความที่รับฟังมา ทั้งพยานเบิกความมา จากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆมาประกอบกัน และเห็นว่าตัวข้อเท็จจริงพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์กับคำเบิกความมีสอดคล้องกันเพียงพอเชื่อมั่นได้ว่าจำเลยน่าจะเป็นคนที่กระทำความผิด

นายสรวิศ ระบุว่าในการบังคับบัญชาของผู้พิพากษาหรือตุลาการไม่เหมือนกับข้าราชการฝ่ายอื่น เพราะถึงแม้ว่าโดยสายของการบังคับบัญชาในองค์กร ผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะ จะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้าศาล อธิบดีผู้พิพากษา แต่การบังคับบัญชาไม่มีผลต่อการพิพากษาคดี เพราะหลักการพิพากษาคดีเป็นอิสระ ไม่ว่าจะเป็นอิสระจากการแทรกแซงภายนอกและภายใน ผู้พิพากษาสามารถใช้ดุลยพินิจในการพิพากษาออกไปได้ โดยที่ไม่ได้เน้นผลของการบังคับบัญชา แต่ในฐานะที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและอธิบดีผู้พิพากษาศาล เป็นผู้รับผิดชอบราชการในงานของศาลนั้น ก็มีส่วนในการดูแลความเรียบร้อยของศาลอยู่ในแล้ว หากมีอะไรที่เห็นส่วนตัวอาจจะแตกต่างไปจากองค์คณะผู้พิพากษา ก็มีอำนาจตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญที่จะทำความเห็นไว้ในสำนวนได้

ส่วนที่กลุ่มนักกฎหมายที่ออกมาแสดงความเห็นนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าออกมาแสดงความเห็นอย่างไรบ้างแต่กระบวนการตรงนี้เป็นกระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่องค์คณะผู้พิพากษามีอิสระในการรับฟังพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงในการวินิจฉัยไปตามเหตุและผลจากพยานหลักฐาน ส่วนความเห็นแย้ง เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากที่ให้อำนาจผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและอธิบดีผู้พิพากษาภาคไว้

ส่วนกรณีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาคมีความเห็นแย้งจะต้องไปนั่งบัลลังก์หรือไม่นั้น เป็นคนละกรณีกัน กรณีที่ไปนั่งในห้องพิจารณาถือเป็นคณะส่วนหนึ่งในการพิจารณาพิพากษาคดีนั้น ปกติแล้วคนที่จะพิจารณาพิพากษาคดีได้จะต้องเป็นองค์คณะที่พิจารณาคดีนั้นมาแต่ต้น หรือได้รับการแต่งตั้งเข้ามาแทนที่กรณีสุดวิสัย แต่อำนาจในการตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งเป็นอำนาจเพิ่มเติมที่รัฐธรรมนูญศาลยุติธรรมกำหนดมาให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล อธิบดีผู้พิพากษาศาล หรือประธานศาล แม้จะไม่ได้นั่งพิจารณาเองแต่ในฐานะที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูศาล ก็สามารถตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งไว้ได้ หากเห็นว่าเป็นกรณีที่สมควรต้องทำความเห็นแย้งไว้

ทั้งนี้องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดปกติจะมี2คน และต้องเป็นคนละองค์คณะกับผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่จะมี3คน โดยองค์คณะศาลอุทธรณ์จะเป็นผู้พิพากษาที่ทำงานในชั้นอุทธรณ์ และได้รับการจ่ายสำนวน การมอบหมายจากประธานศาลอุทธรณ์

โฆษกศาลยุติธรรมระบุว่าส่วนความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลและผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมีความสงสัยตามสมควรจึงเห็นควรยกประโยชน์ให้จำเลยตรงนี้จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์หรือไม่ระบุว่าคงไม่ได้เป็นประโยชน์โดยตรง เพราะความเห็นแย้งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นความเห็นแย้งของเสียงข้างมากในคดีนั้น ดังนั้นผลของคำพิพากษาตัวคำความเห็นแย้งตรงนี้ไม่ได้มีผลในการเปลี่ยนแปลงของคำพิพากษาโดยตรง เพียงแต่เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาในชั้นสูงขึ้นไปและเรื่องการยกประโยชน์แห่งความสงสัยเป็นเงื่อนไขปกติในกฎหมายซึ่งในคดีอาญาหลายคดีก็ต้องพิจารณาอยู่แล้วว่าพยานหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์นำสืบมามีเหตุทำให้วิญญูชนทั่วไปเกิดความสงสัยได้หรือไม่ว่าตัวจำเลยหรือผู้ต้องหากระทำความผิดจริง ซึ่งพยานหลักฐานเหล่าที่ที่ผู้ทำความเห็นแย้งดูเป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกันเพียงแต่บางจุดหรือข้อเท็จจริงบางส่วนอาจจะมีมุมมองที่เห็นต่างกันได้ แต่ในการวินิจฉัยมีหลักอยู่แล้วตามเงื่อนไขของกฎหมายหากมีเหตุสงสัยสามารถยกประโยชน์ให้จำเลยได้

“ความเห็นแย้งของผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและอธิบดีผู้พิพากษาศาล เคยเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะและก่อนหน้านี้ในศาลใหญ่ๆก็เคยมีเหตุการณ์ คล้ายๆกันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ เพราะเป็นเรื่องของการตรวจสำนวนตั้งข้อสังเกตไว้ชั้นสำนวนปกติ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงที่ผิดปกติไป ที่ผ่านมาจะเห็นบางคดีที่มีการอุทธรณ์หรือฎีกาขึ้นไป คำพิพากษาของศาลชั้นสูงก็อาจแตกต่างไปอาจจะกลับหรือแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้ เพราะแม้พยานหลักฐานชุดเดียวกันแต่อาจจะมีความเห็นหรือมุมมองที่ต่างกันได้ ผู้พิพากษาแต่ละท่านก็จะใช้ประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวมาดูแต่ละคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน”โฆษกศาลยุติธรรม ย้ำ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ทวี’สั่งล่า‘เสี่ยหมาบิน’ แก๊งยานรกรายใหญ่ ประสานเมียนมาจับ ‘ทวี’สั่งล่า‘เสี่ยหมาบิน’ แก๊งยานรกรายใหญ่ ประสานเมียนมาจับ
  • จับโกดังรีไซเคิล ขยะพิษ8พันตัน ลอบเปิดกิจการ จับโกดังรีไซเคิล ขยะพิษ8พันตัน ลอบเปิดกิจการ
  • พัทยาจับต่างด้าวกัมพูชา! ช่วยเด็ก 9 ราย เข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์ พัทยาจับต่างด้าวกัมพูชา! ช่วยเด็ก 9 ราย เข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์
  • ‘สืบภาค1’ลุยจับผู้ต้องหา ยึด‘บุหรี่ไฟฟ้า’เพียบ ‘สืบภาค1’ลุยจับผู้ต้องหา ยึด‘บุหรี่ไฟฟ้า’เพียบ
  • บางใหญ่กระเจิง! ปีนรั้วจับบ่อนพนัน รวบไทย-ต่างด้าว สุมหัวเล่นเสือมังกร บางใหญ่กระเจิง! ปีนรั้วจับบ่อนพนัน รวบไทย-ต่างด้าว สุมหัวเล่นเสือมังกร
  • 10พรรษาตบะแตก! \'พระอาจารย์โจ้\'เสพยาบ้า คากุฏิสำนักสงฆ์นครพนม 10พรรษาตบะแตก! 'พระอาจารย์โจ้'เสพยาบ้า คากุฏิสำนักสงฆ์นครพนม
  •  

Breaking News

'จอนนี่มือปราบ'ฟาดแรง!! คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ แนะให้ 'อุ๊งอิ๊งค์' ลาออกนายกฯ (คลิป)

‘อิ๊งค์’เข้าทำเนียบฯ เรียกผบ.เหล่าทัพเข้าพบ ท่ามกลางปมร้อนคลิปคุย‘ฮุน เซน’

'กัญจนา' ย้ำจุดยืน 'รักแผ่นดินเกิด' เชื่อ'ชทพ.'มีศักดิ์ศรี ไม่หนุนการกระทำ'ไม่ดีต่อชาติ'

(คลิป) 'จอนนี่มือปราบ'ฟาดแรง!! คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ แนะนำให้ 'อุ๊งอิ๊งค์' ลาออกนายกฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved