ระทึก! รับอรุณรางจ่ายกระแสไฟรถไฟฟ้าสายสีชมพู ร่วงลงพื้น รถเสียหาย 3 คัน เสาไฟฟ้าล้มที่หน้าตลาดกรมชลประทานเจ้าหน้าที่ฯ เร่งตรวจสอบหาสาเหตุด้าน “สุริยะ” สั่งปิดบริการสายสีชมพู 7 สถานี 7 วัน เหลือให้บริการแค่ 23 สถานี ส่งรถออกตรวจสำรวจทุกวัน ย้ำหากเกิดเหตุอีกมีบทลงโทษ

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุรางเหล็กรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ร่วงหล่นลงมาถูกรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน และมีเสไฟฟ้าแรงสูงหักล้มอีก 1 ต้น เหตุเกิดที่หน้าตลาดกรมชลประทาน ถนนติวานนท์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ภายหลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ เจ้าหน้าที่ของรถไฟฟ้าฯ

ในที่เกิดเหตุพบรางอลูมิเนียมขนาดกว้างประมาณ 4 นิ้ว หนาประมาณ 2 นิ้วของรถไฟฟ้าฯ ที่เป็นลักษณะเส้นยาว หลุดจากที่ยึดบนคานคอนกรีตสำหรับตัวรถไฟฟ้าฯ ใช้วิ่ง ร่วงตกลงมาใส่รถยนต์และรถกระบะที่จอดอยู่หน้าตลาดดังกล่าว พังเสียหาย ขณะเดียวกันรางอลูมิเนียมยังหล่นไปถูกสายไฟฟ้าที่พาดผ่านทางจนเหนี่ยวรั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงหักเอนเอียงจนใกล้ล้มด้วย

จากการตรวจสอบพบว่ารางอลูมิเนียมหลุดไปถึงแยกแคราย เพียงแต่ยังไม่หล่นมาถึงพื้น มีเพียงจุดเดียวบริเวณหน้าตลาดกรมชลประทานที่ร่วงตกลงมาใส่รถส่วนบริเวณปากซอยติวานนท์ 25 พบขบวนรถไฟฟ้าฯ จอดหยุดนิ่งโดยที่รางเหล็กยังคงติดกับล้อรถไฟฟ้าฯ ซึ่งหลุดร่วงตกลงมาได้ตลอดเวลา

พ.ต.ต.ฐาปณพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเวลา 05.00 น.ว่ามีรางรถไฟฟ้าฯ หล่นลงมาทับรถของประชาชนในช่องทางขวา ซึ่งรถจอดอยู่ติดเกาะกลางเป็นแนวก่อสร้าง จากการตรวจสอบพบรางที่หล่นลงมาเป็นระยะทางยาวจากจุดกลับรถตลาดกรมชลประทาน จนถึงหน้าธนาคารกสิกรไทย ใกล้แยกแคราย ในพื้นที่ย่านปากเกร็ด โดยเป็นจุดที่หนักที่สุดของการหล่นร่วงลงมาถึงพื้นถนนถูกรถประชาชน 3 คัน และเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 1 ต้น ต้องทำการปิดการจราจรคาดว่าน่าจะปิดถึงเวลา 12.00 น.เบื้องต้นได้ประสานหน่วยงานรถไฟฟ้าฯ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ เข้าตรวจสอบแล้ว

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารางที่ร่วงหล่นลงมา เป็นรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงพื้นถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข จึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น ซึ่งทางรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (ช่วงระหว่างทดลองเดินรถไฟฟ้า) วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เวลา 12.00 น.แจ้งปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูทุกสถานีชั่วคราว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์รางจ่ายกระแสไฟฟ้าร่วงหล่น เพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขณะที่แฟนเพจ“รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู” ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงเหตุดังกล่าว ระบุว่า ”NBM ชี้แจงเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนน ปิดให้บริการ ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด NBMชี้แจงเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนน ปิดให้บริการ ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี (อยู่ระหว่างทดลองการเดินรถ) ชี้แจงกรณีรางจ่ายกระแสไฟฟ้า(Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนน และเกี่ยวสายไฟฟ้าบริเวณหน้าตลาดชลประทาน ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.45 น.บริเวณสถานีสามัคคี (PK04) เบื้องต้นพบว่ามีรถยนต์ที่จอดใต้สถานี 3 คัน ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการให้บริการเดินรถ จึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการ ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK07) เป็นการชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข โดยจะมีขบวนรถให้บริการ จากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ถึงสถานีมีนบุรี ผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่าง สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด28และสถานีมีนบุรี กรุณาเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ และขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทุก 10นาที โดยภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานทุกฝ่าย ได้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุทันที

จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ กราบขออภัยในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กันพื้นที่ด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันเหตุ พร้อมตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู บริเวณถนนติวานนท์ ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้หารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการฯ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ปิดการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูในวันเดียวกันนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00น.เพื่อตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียด

สำหรับในวันที่ 25ธันวาคมนี้ จะเปิดให้บริการ23 สถานี คือตั้งแต่สถานีแจ้งวัฒนะ (PK08)–สถานีมีนบุรี (PK30) ขณะที่ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ไปจนถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK07)รวม 7 สถานีนั้น จะต้องดำเนินการตรวจสอบและประเมินเบื้องต้น 7 วัน จากนั้นจะตรวจสอบให้มั่นใจในด้านความปลอดภัย ก่อนที่พิจารณาเปิดให้บริการอีกครั้งทั้งนี้ ได้กำชับว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก จะมีบทลงโทษครอบคลุมตามสัญญา ด้วยเงื่อนไขในการเดินรถ

นายสุริยะ เปิดเผยด้วยว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จากการรายงานเบื้องต้น ระบุว่ารถตรวจรางพบวัสดุแปลกปลอม ซึ่งวัสดุแปลกปลอมดังกล่าวอาจจะเกิดจากรถเครนที่เข้าไปเคลียร์พื้นที่เพื่อคืนผิวจราจร แล้วไปขัดบริเวณตัวล้อด้านข้าง ทำให้ลากรางจ่ายกระแสไฟฟ้าหลุดออกทั้งแนว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่มีรถยนต์เสียหาย 3 คัน และสายไฟฟ้าล้ม โดยทางNBM จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด หลังจากนี้ จะมีรถตรวจทางวิ่งตรวจสอบในช่วงเวลา 04.00 น.ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความปลอดภัยในการให้บริการและการเดินทางอย่างแน่นอน

มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.50น.วันเดียวกัน บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีวงเวียนใหญ่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ฝั่งขาเข้า หน้าถนนเลียบทางรถไฟ ได้เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนเหล็กร่วงหล่นลงมา ขณะที่ผู้รับเหมากำลังยกเหล็กแผง D-Wall Number p154 (กำแพงผนังสถานี) 3 เส้น โดยชิ้นส่วนของเหล็กร่วงหล่นไปถูกศีรษะผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รถกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลตากสินแล้ว แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับสถานีวงเวียนใหญ่ อยู่ในสัญญาที่ 4 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่ง และสถานีใต้ดิน ช่วงสะพานพุทธ-ดาวคะนอง ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ดำเนินการโดยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เบื้องต้นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สั่งผู้รับจ้างหยุดงานอย่างน้อย 7 วัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกันนี้ได้กำชับให้ผู้รับจ้างทุกสัญญาตรวจสอบการทำงานอย่างละเอียด และกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในพื้นที่ก่อสร้าง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน และพื้นที่ดังกล่าวทางโครงการฯ ได้ดำเนินการเรื่องการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และป้ายเตือนต่างๆ ตามที่กำหนดครบถ้วนสมบูรณ์