ศาลสั่งหมอคลินิกดังชดใช้เงิน 4.1 ล้านให้ครอบครัว‘สาวร้อยเอ็ด’หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกดับ แม่ผู้ตายขอบคุณศาลให้ความเป็นธรรม ชีวิตลำบากมากขาดเสาหลัก

27 ธันวาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีบริโภคหมายเลขดำ ผบ.50/2564 ที่ นางสุพัตรา กับพวกรวม 2 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายแพทย์คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี กับ นายหน้าหาลูกค้าเสริมหน้าอก เป็นจำเลยที่ 1-2 ความผิดฐานละเมิด ทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย ตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค , พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2559

กรณีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 น.ส.เมริษา ชาวร้อยเอ็ด บุตรสาวของนางสุพัตรา โจทก์ที่ 1 ได้ไปผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกชื่อดังแห่งนี้ย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรีโดยมีแพทย์ผู้ทำศัลยกรรม จำเลยที่ 1ทำการผ่าตัด แต่ปรากฏว่าระหว่างขณะผ่าตัด น.ส.เมริสา มีอาการช็อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ภายหลังฟังคำพิพากษานายพสิษฐ์ เลิศสินเจริญกุล ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า ศาลพิพากษาให้นายแพทย์ จำเลยที่ 1 ชำระค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศพของผู้ตาย 100,000 บาท และให้ค่าไร้อุปการะ​กับโจทก์​ที่ 1 และโจทก์​ที่ 2 คนละ 2,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนดส่วนจำเลยที่ 2 ที่เป็นตัวแทนหรือนายหน้าหาลูกค้านั้นศาลพิพากษายกฟ้อง

นายพสิษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของคำพิพากษาตนในฐานะทนายและผู้รับมอบอำนาจ รู้สึกว่าศาลให้ความยุติธรรมในเรื่องของการชดใช้ หรือให้นายแพทย์ จำเลยที่ 1 ที่เป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตรับผิด ซึ่งแพทยสภาและศาลเองมีการวินิจฉัยที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการกระทำละเมิดต้องรับผิด เพราะเรื่องของการรักษาต้องไม่ประมาท และแพทยสภาก็มีการตักเตือนไปแล้ว ส่วนจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น ต้องขอไปปรึกษากับโจทก์ก่อน

ด้านนางสุพัตรา มารดาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากและรู้สึกได้รับความเป็นธรรมเพราะรอวันนี้มานาน เรื่องการเป็นอยู่ในขณะนี้ตนค่อนข้างลำบากมากเพราะขาดเสาหลัก ส่วนหลานบางวันก็ไม่มีเงินไปโรงเรียน และตนก็อายุมากแล้วไม่ได้ทำงานประจำ ต้องหาเช้ากินค่ำ ชีวิตลำบากมากตั้งแต่ขาดลูกสาวไป ตนต้องขอขอบคุณทนายและศาลที่คอยช่วยเหลือมาตลอด ส่วนเรื่องการอุทธรณ์นั้น ต้องขอปรึกษากับทนายความก่อนว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด

-005