ตาย34เจ็บ335
เปิดฉาก7วันอันตรายปีใหม่
เมาแล้วยังขับถูกจับ515คด
เปิดฉาก 7 วันอันตรายรับปีใหม่ 2567! สังเวยบนท้องถนนแล้ว 34 ศพ เจ็บระนาว 335 คน เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง“ปราจีนบุรี-ขอนแก่น” ขึ้นแชมป์สูญเสียสะสมสูงสุด “ซิ่ง-เมาแล้วขับ” สาเหตุหลัก “ศปถ.” กำชับคุมเข้มเดินทางกลับภูมิลำเนา อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยคดีเมาขับวันแรก 515 คดี เพิ่มจากปีที่แล้ว 58% จังหวัดเมาแล้วขับมากที่สุด คือ สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ-นนทบุรี
เมื่อวันที่ 30ธ.ค.2566 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29ธ.ค.66 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 335 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 39.23 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.01 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.00 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 86.43 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.00 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.45
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า สำหรับช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 8.13 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 20.05 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,775 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,636 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปราจีนบุรี (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (23 คน)
นายโชตินรินทร์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้การเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงจุดหมายแล้ว และบางส่วนยังอยู่ระหว่างเดินทาง รวมถึงมีการเดินทางในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยจากสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ถนนกรมทางหลวง ถนนใน อบต. และหมู่บ้าน รวมถึงถนนที่เป็นเส้นทางตรง เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุสูง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานภาคีเครือข่ายสร้างความปลอดภัยทางถนนในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) เน้นการวางแผนแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นการบังคับใช้กฎหมาย อย่างกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ ในระยะนี้บางพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งสภาพถนนมีความเปียกลื่น จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการสัญจรผ่านเส้นทางที่มีฝนตกหนัก เพื่อลดปัจจัยเลี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ขอฝากให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 29 ธันวาคม2566 วันแรกของการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีคดีทั้งสิ้น 542 คดี เป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 515คดี คิดเป็นร้อยละ 95.02 คดีขับรถประมาท 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.18 และคดีขับเสพ 26 คดี คิดเป็นร้อยละ 4.8 เมื่อเปรียบเทียบคดีขับรถขณะเมาสุราปีใหม่ 2566 มีจำนวน 214 คดี กับ ปีใหม่ 2567 จำนวน 515 คดี พบว่า เพิ่มขึ้น 301 คดี คิดเป็นร้อยละ 58 สำหรับจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สมุทรปราการ 78 คดี กรุงเทพมหานคร 69คดีและนนทบุรี 53 คดี
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเน้นย้ำมาตรการเข้มสำหรับผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุรา กรมคุมประพฤติจะดำเนินการคัดกรองตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงจากการติดสุราจะส่งบำบัดรักษาตามสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศยังได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้น และด่านชุมชน จำนวน 108 จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ผู้ถูกคุมความประพฤติ ประชาชน และภาคีเครือข่าย จำนวนทั้งสิ้น 834 คนเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ตลอดจนทำงานบริการสังคมโดยการตรวจเยี่ยมด่านบริการประชาชนต่างๆ แจกน้ำดื่ม ให้คำแนะนำในการเดินทาง และอำนวยความสะดวกการจราจรทางถนน เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี