ศธ.จัดยิ่งใหญ่‘วันเด็กแห่งชาติ 2567’ภายใต้แนวคิดเรียนดี มีความสุข จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน

ศธ.จัดยิ่งใหญ่‘วันเด็กแห่งชาติ 2567’ภายใต้แนวคิดเรียนดี มีความสุข จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน

วันศุกร์ ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2567, 13.10 น.

ศธ.จัดยิ่งใหญ่‘วันเด็กแห่งชาติ 2567’ภายใต้แนวคิดเรียนดี มีความสุข จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ‘บิ๊กอุ้ม-ครูเอ’สั่งหน่วยงานในสังกัด 76 จังหวัดปูพรมฉลอง พร้อมมอบสารพัดของขวัญทั้งฝึกอาชีพ ชมท้องฟ้าจำลองฟรี ศึกษาภัณฑ์กระหน่ำลดราคาสินค้า 

5 มกราคม 2567 ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พล.ต.อ.เพิ่มพูน  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ผู้บริหารองค์กรหลักศธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 และกิจกรรมมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ  โดยพล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า  ศธ.จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2498 ซึ่งวันเด็กปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 


โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำขวัญวันเด็กปีนี้ ว่า "มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย" และในเวลา 08.30 น.ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2567 ที่ศธ. ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน” เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและเยาวชนทั้งทางร่างกายและจิตใจ สร้างความตระหนักในสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบและระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม รวมทั้งยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมบูรณาการเชื่อมโยงกับนโยบายการศึกษา

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า งานวันเด็กแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่  3 ตุลาคม พ.ศ. 2498   และในปี พ.ศ. 2499 สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีคำขวัญวันเด็กขึ้นครั้งแรก “จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม” และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เด็กและเยาวชน นับเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ และเป็นกำลังสำคัญของสังคมในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ศธ.เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อเด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ ในการเสริมองค์ความรู้ และการพัฒนาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า มีความสำคัญของประเทศ โดยยึดแนวปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้างชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ในประเด็นที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์และการพัฒนาเด็ก การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความยึดมั่น ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชน ตลอดจนให้เด็กได้รู้จักหน้าที่ของตน และอยู่ในระเบียบวินัยอันดี พร้อมทั้ง เป็นการเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ

“การจัดงานวันเด็กในปีนี้จะมีศิลปิน ดารา นักร้องชื่อดังมากมาย และนักแสดงจากละครเรื่องพรมลิขิต มาร่วมให้ความบันเทิงจำนวนมาก ทั้งนี้ศธ. และหน่วยงานราชการต่างๆ ยังเปิดรับผู้ใหญ่ใจดีที่จะมาร่วมจัดกิจกรรม โดยหวังว่าการจัดงานวันเด็กปีนี้จะมีความแปลกใหม่มากขึ้น และคาดหวังว่าการจัดงานวันเด็กปี 2568 จะยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าปีนี้ รวมถึงจะเปิดห้องทำงานให้เด็กๆได้มีโอกาสนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการศธ.ด้วย นอกจากนี้ผมยังคาดหวังว่า ต่อไปเด็กๆ จะได้มีโอกาสไปเรียนในภาคอุตสาหกรรม ดูเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้มีความฝันในการทำงาน ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟฟ้า ระบบการทำงานต่าง ๆ ตามสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปคือ โลกดิจิทัล เพื่อเติมเต็มทรัพยากรมนุษย์ให้ครบทุก ๆ ด้าน” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว

ด้านนายสุรศักดิ์  กล่าวว่า สำหรับมีกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม ได้แก่  กิจกรรมที่ 1 การคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่มีผลงานและความสามารถระดับชาติ เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี พร้อมรับโล่รางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ณ บริเวณตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ/หน่วยงาน 17 หน่วยงาน จำนวน 1,220 คน แบ่งเป็น เด็กและเยาวชนดีเด่น จำนวน 604 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ  จำนวน  279 คน  เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ (ประเภททีม) จำนวน 337 คน

กิจกรรมที่ 2 การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพหลักประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงานในส่วนกลางขึ้น ณ ศธ. และสถานที่ตั้งของส่วนราชการ หน่วยงาน ส่วนกลาง ในส่วนภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัด ศธ.ได้มอบหมายให้ ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)ประสานงานจัดกิจกรรมฉลองงานวันเด็กขึ้น ในทุกจังหวัด 

การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน โดยรัฐบาลได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณในการจัดงาน จำนวน 12 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดงานให้กับส่วนราชการ เพื่อให้เด็ก ๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ในทุกรูปแบบการเรียน มุ่งเน้นกิจกรรม Active Learning ที่เป็นสามารถเรียนรู้ได้ในทุกสถานที่ (Anywhere Anytime) และส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียน โดยเน้นการ Coaching เป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจกันของส่วนราชการ/หน่วยงาน และภาคเอกชน ที่พร้อมใจกันจัดงานเพื่อส่งมอบความสุขให้แก่เด็ก ๆ ทั้งนี้ ในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ที่ศธ. ได้มีส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ และศิลปิน ดารา นักแสดงจากละครพรหมลิขิต น้องปีเตอร์แพน น้องซีน และพี่ติ๊ก ชีโร่ มาร่วมจัดกิจกรรม อาทิ เปิดพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย ห้อง ทำงานรัฐมนตรีว่าการศธ. และรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ให้เด็กและเยาวชนได้เยี่ยมชม หน่วยงานในสังกัดศธ. ร่วมจัดกิจกรรมสร้างความสนุกสนาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จัดกิจกรรมบันเทิง มุ่งเน้นความสนุกสนานฯ กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมตอบปัญหาเชาว์ปัญญา และแจกของที่ระลึก กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมเกมเสริมทักษะความรู้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรมโชว์สุนัขตำรวจ และขี่ม้า และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดกิจกรรมแจกลูกบอลจำนวน 4,000 ลูก เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีส่วนราชการและหน่วยงานอีกมากมายที่ร่วมจัดกิจกรรมในวันดังกล่าว ในที่ตั้งของตนเอง เช่นกระทรวงกลาโหม กรมกิจการเด็กและเยาวชน  กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมป์ กรุงเทพมหานคร ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา เป็นต้น

ทั้งนี้ ศธ. ในฐานะเจ้าภาพหลักในการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ได้ดำเนินการประสานขอความร่วมมือจากกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ และภาคเอกชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมฉลองงานวันเด็กพร้อมกันในวันที่ 13 มกราคม 2567 นอกจากความสนุกสนานที่ศธ.และทุกส่วนราชการ/หน่วยงานได้เตรียมมอบให้แก่เด็ก ๆ ในวันดังกล่าวแล้ว เราได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการ ดูแลให้ความช่วยเหลือเด็กที่พลัดหลงจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง โดยจัดให้มีเต็นท์ไว้ในแต่ละโซนกิจกรรม  มีผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือจิตอาสา ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน รวมทั้ง มีการส่งมอบความสุขต่อยอดให้กับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ และในโอกาสนี้ ศธ.ใต้นโยบายของรัฐบาล ได้มอบของขวัญ  วันเด็ก พ.ศ. 2567 ที่มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาส เข้าถึงประสบการณ์อันดีผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย จากทุกหน่วยงานในสังกัดและในกำกับ และหน่วยงานระดับจังหวัดทั่วประเทศ เช่น

1.จัดกิจกรรมเพิ่มทักษะอาชีพที่สอง (หลักสูตรระยะสั้น) ให้กับเด็กและเยาวชนทั้งทั่วประเทศ จำนวน 10,000 คน ฟรี ตลอดเดือนมกราคมนี้  2.กิจกรรมท่องโลกการเรียนรู้เสมือนจริงด้วย Metaverse โดยศูนย์วิทยาศาสตร์  เพื่อการศึกษา ฟรี สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษา 300,000 คน ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2567 3.กิจกรรมฝึกอาชีพระยะสั้นโดย สกร.อำเภอ/เขต จำนวน 928 แห่งแก่เด็กและเยาวชนฟรี เพื่อให้เด็กและเยาวชน ที่สนใจได้เรียนรู้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ครอบครัว

4.กิจกรรม สกร.ทุกจังหวัด ส่งความสุขให้น้อง ประจำปี พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการศึกษาธิการส่งความสุข โดยจัดคาราวานมอบของขวัญบริจาคให้แก่เด็กด้อยโอกาส 77 จังหวัดๆ ละ 20,000 คน  5.กิจกรรมฉลองครบรอบ 60 ปี เด็ก เยาวชน ชมท้องฟ้าจำลอง ฟรี 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-12 มกราคมนี้ 6.ลดราคาสินค้าราคาพิเศษสำหรับเด็ก ที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ทุกสาขา สูงสุด 10% 7.ลดราคาหนังสือ e-Book ของ สสวท. ทุกช่องทางการจัดจำหน่ายและเผยแพร่  ลดราคาสูงสุด 30% อาทิ ร้านนายอินทร์ SE-ED  CU และ e-Bookstore

8.ลดราคาสื่อเสริม และบอร์ดเกมของ สสวท. ลดราคาสูงสุด 15% โดยจัดจำหน่าย ที่ร้านหนังสือ สสวท. @IPSTbookstore และศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ suksapanmall.com 9.บริการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ตามแนว CEFR ระดับ A1 – A2 ให้บริการกับนักเรียน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 2,000 ที่นั่งสอบ ซึ่งจะเป็นเติมเต็มความสุขให้กับผู้ปกครองเด็ก เยาวชนทั่วประเทศได้ในครั้งนี้อีกด้วย

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top