เผ่นหนีแล้ว ครูสาวชาวยโสธรหลอกเอามือถือ-โน้ตบุ๊คไปจำนำ ขนของหอบเสื้อผ้าออกจากบ้านพักกลับภูมิลำเนา ด้าน'เจ๊ต่าย'เจ้าของร้านมือถือที่ถูกครูสาวถังแตกหลอกไปจำนำ เปิดใจพร้อมจะเก็บมือถือไว้ให้น้องนักศึกษาในตู้เซฟอย่างดี ไม่อยากให้น้องมาไถ่เองควรให้ครูสาวมารับผิดชอบ สุดท้ายหากครูสาวไม่รับผิดชอบค่อยมาคุยกัน

6 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.พรสวรรค์ (ขอสงวนสกุล) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี พาลูกสาว น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาที่วิทยาลัยเกษตรกรแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เข้าพบกับ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ชนภ์นิภา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ครูมิ้ว ชาว จ.ยโสธร และเป็นครูสอนสัตวศาสตร์ ที่วิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลอกยืมโน๊ตบุ๊คราคา 18,000 บาท และโทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็ค ราคา 59,000 บาท รวมมูลค่า 77,000 บาท แต่สุดท้ายเอาไปจำนำ พอสอบถามกลับบ่ายเบี่ยงตลอด

โดย น้องบี บอกว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.66 ครูคนดังกล่าวที่สถาบันที่ตนเองเรียนอยู่มาหาอ้างว่า ขอยืมโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 และคอมพิวเตอร์ อ้างว่าโทรศัพท์เสีย จะนำไปเปิดแอพกูเกิ้ลแมพ ส่วนโน๊ตบุ๊ก ครูอ้างว่าแป้นพิมพ์เสีย ไม่สามารถใช้งานได้ และจะส่งให้คืนในวันถัดไป ด้วยความเป็นครูที่สอนจึงให้ยืม สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าเอาไปจำนำ ตนเองไปขอภาพวงจรปิดมาได้ จากนั้นก็ทวงถามตลอดบ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่ จึงตัดสินใจไปแจ้งความ ตำรวจนัดไกล่เกลี่ยรับปากอย่างดีสุดท้ายก็ไม่มา โดยมือถือไอโฟน 14  และโน๊ตบุ๊ค พ่อที่ไปทำงานที่ประเทศไต้หวันส่งเงินมาให้ซื้อเป็นของขวัญให้ตนเอง แต่ไม่คิดว่าครูจะมาทำแบบนี้

ล่าสุดมีรายงานว่า ครูสาวคนดังกล่าวได้ขนข้าวของภายในหอพักหนีออกไปแล้วและลาออกจากการเป็นครูเพราะเป็นครูอัตราจ้าง สงสัยกลัวจะมีความผิดตั้งกรรมการถูกไล่ออก คาดว่าครูรายดังกล่าวจะกลับบ้านที่ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านคดีนี้ ผู้เสียหายได้แจ้งความถือเป็นคดียักยอกทรัพย์ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมมาไกล่เกลี่ยตามนัด ต่อหน้าพนักงานสอบสวน หลังจากนี้ จะให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีความ ออกหมายเรียก 2 ครั้ง หากยังไม่มาอีก ก็คงต้องขออนุมัติหมายจับ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ "เจ๊ต่าย" เจ้าของร้านมือถือที่รับจำนำ บอกว่า ครูสาวคนดังกล่าวมาจำนำมือถือ ทางร้านให้ไป 22,000 บาท ส่วนโน๊ตบุ๊คทราบว่าไปจำนำอีกร้านได้เงินไป 4,000 บาท เหตุผลที่เราให้จำนำ เพราะดูเหมือนเขาจะเป็นเจ้าของเครื่องตัวจริง เขารู้ไอคลาวน์ รหัสล็อคหน้าจอเครื่องด้วย ครูสาวคนนี้เขามีกำหนดไถ่วันที่ 1 ม.ค.67 แต่เรื่องมาแดงก่อนวันที่ 29 ธ.ค.66 จากนั้นก็หนีไปเลย

เราก็ติดต่อน้องตลอด โดยอยากให้เข้าใจร้านด้วย เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้เราพร้อมจะเก็บเครื่องไว้ในตู้เซฟเอาไว้ให้น้องอย่างดี ไม่เอาไปขายต่อ ส่วนที่น้องอยากจะมาไถ่ถอน อยากให้รอดูครูสาวคนนี้ก่อนดีไหม ว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไร แต่หากเขาไม่รับผิดชอบ ก็พร้อมจะให้น้องนักเรียนได้โทรศัพท์คืน ไม่เอาไปขายต่อแน่นอน เพราะรู้สึกสงสารน้องที่เจอเรื่องแบบนี้เช่นกัน