ตำรวจเมืองคอน สนองนโยบายรัฐบาลแก้หนี้นอกระบบจับผู้ต้องหารับจำนำรถผิด กม.เก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ยึดของกลางรถยนต์ 31 คันพร้อมของกลางอื่นๆ อีกจำนวนมาก
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 ม.ค.67 ที่ สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมแถลงข่าวผลงานตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชภายใต้การนำของ พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและตำรวจ สภ.นาบอน ได้ร่วมจับกุมนายสุนทร อายุ 66 ปี อยู่หมู่ 6 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ 31 คัน, เอกสารการกู้ยืมเงิน 31 ฉบับ โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน ประกอบกิจการสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต, จัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ปละให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนทราบถึงการปล่อยเงินกู้และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยผู้กู้เงินต้องนำหลักทรัพย์เป็นรถยนต์มาเป็นหลักค้ำประกันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาบอน สืบสวนทราบว่าในพื้นที่ หมู่ 6 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช มีนายสุนทร มีพฤติการณ์รับจำนำรถยนต์รายใหญ่และปล่อยเงินกู้โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในพื้นที่อำเภอนาบอนและพื้นที่ใกล้เคียง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยนายสุนทร รับจำนำมาได้ก็จะนำรถไปไว้ที่บ้านและบริเวณใกล้เคียง โดยมีการสร้างโกดังรั้วสังกะสีปิดทึบ ใช้เก็บรักษารถยนต์ที่รับจำนำจำนวนหลายคัน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดทุ่งสง ผลการตรวจค้นพบรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋ง รวม 31 คันที่ประชาชนนำมาจำนำไว้ ส่วนใหญ่เป็นรถที่ติดสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทสินเชื่อ อีกทั้งยังพบเอกสารการกู้ยืมเงิน โดยมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ (ชุดโอนลอย) จำนวน 31 ชุดสอบสวนนายสุนทรให้การรับสารภาพว่าประกอบธุรกิจการรับจำนำรถหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้ขออนุญาตนายทะเบียน ซึ่งรถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดเป็นรถที่ตนเองรับจำนำไว้จริง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปีจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและนำตัวนายสุนทร พร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาบอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายขจรเกียรติ และ พล.ต.ต.สมชาย แถลงอีกว่า การดำเนินการกวาดจับกุมในครั้ง เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้ระบบอยู่ในขณะนี้ เพื่อความอยู่ดีกินของประชาชน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่นำรถยนต์ที่ตนกำลังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนำ อาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์คือ สถาบันการเงิน เจ้าของสินเชื่อหรือไฟแนนซ์ ทำให้ท่านเป็นผู้ครอบครอง เพื่อใช้สอยประโยชน์จากรถเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง ซึ่งท่านจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงก็ต่อเมื่อชำระเงินครบตามสัญญาเช่าซื้อเท่านั้น
ทั้งนี้ ปัญหาของการรับจำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ก็คือ หากท่านไปเจอผู้รับจำนำที่ไม่มีความซื่อสัตย์หรือมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาหลอกลวงเพื่อเอารถของท่านไปขายต่อตั้งแต่แรก อาจขายในรูปแบบรถหลุดจำนำ แยกชิ้นส่วนขาย หรือส่งรถทั้งคัน ออกนอกประเทศ ท้ายที่สุดสถาบันการเงินเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายกับท่านโดยตรง ทำให้ท่านยังคงต้องผ่อนรถต่อไป ทั้งที่รถไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอารถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนำ หรือขาย นอกระบบ เพราะนอกจากท่านจะเสียรถไปแล้ว ยังอาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี