เหยื่อแก๊งทรชนขอความเป็นธรรม ลูกชายเสียชีวิตมาเป็นปีๆ คดียังไม่ไปไหน จนผู้ต้องหามาก่อเหตุซ้ำกับป้าบัวผัน ชนะคดีแพ่ง แต่ยังไม่เคยได้เงินสักบาท
วันที่ 22 มกราคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี กัน จอมพลัง ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งทรชนฆ่าป้าบัวผัน ที่มีผู้เสียหายในคดีเก่าปรากฏตัวออกมาเยอะมาก อย่างกรณีของคุณพ่อที่มาร่วมรายการในวันนี้ ลูกชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต แต่คดีอาญายังไม่ไปถึงไหน แม้ชนะคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย แต่ยังไม่เคยได้เงินเยียวยาสักบาท
คุณพ่อสมภพ พ่อของเยาวชนอายุ 16 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.65 ใน งานเทศกาลโต้ลมหนาว ที่อำเภอโคกสูง กลุ่มลูกของตนไปเที่ยวที่งาน ถูกแก๊งผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เข้าร่วมแก๊งกับแก๊งลูกตำรวจ ตอนนั้นใช้ชื่อแก๊งว่า แก๊งตังไม่ออก มาขี่รถไล่ฟันลูกของพ่อ ตั้งแต่อำเภอโคกสูง มาจนถึง อำเภออรัญประเทศ บริเวณสระน้ำโรงปลา
ลูกตนเคยมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุ เป็นเรื่องชกต่อยในโรงเรียน เขามารุมต่อยแต่สู้ลูกต้นไม่ได้ วันเกิดเหตุก็เลยยกพวกมาเป็นร้อยคนมาไล่ฟัน ลูกชายโดนฟันที่ข้อเท้า 2 แผล กลางหลัง และหน้าอก เพื่อนลูกชายบอกว่าตอนที่ลูกตกลงไปในน้ำยังไม่เสียชีวิต เขายังตามลงไปฟันจนลูกชายเสียชีวิต ส่วนเพื่อนของลูก ได้รับบาดเจ็บสาหัส
แก๊งผู้ก่อเหตุยังไม่สาแก่ใจ ในงานศพของลูกชาย พวกแก๊งนี้ยังขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อเหตุ มาปาระเบิด เอามีดมาไล่ขูดกำแพง มาชูนิ้วหยาบคายในงานศพ ทั้งยังข่มขู่จะเอาชีวิตพ่อ และน้องชายของผู้ตายด้วย
พ่อบอกว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ได้ ชาวบ้านทุกคนก็หวาดกลัว เขามีอาวุธครบมือ ได้แต่บอกเพื่อนๆ ของลูก ให้อยู่ในวัด ล็อกประตูให้ดี อย่าออกไปสู้ อย่าออกไปมีเรื่อง เพราะเขามีอาวุธครบมือ
หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับผู้ก่แเหตุได้แค่ 3 คน แต่จับอย่างไร รายละเอียดเป็นยังไง เราไม่รู้เลย พ่อให้พนักงานสอบสวนช่วยประสานครอบครัวของผู้ก่อเหตุ หวังได้เงินช่วยเหลือเยียวยา ช่วยค่างานศพ เราเรียกไป 5 แสนบาท แต่ฝั่งนั้นเขาบอกว่ามากเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไปฟ้องเอาเอง ไปคุยกันในศาล สุดท้ายพ่อต้องเอารถของครอบครัวไปเข้าไฟแนนซ์ เอาเงินมาจัดงานศพ เป็นหนี้เป็นสิน แม้สุดท้ายพ่อฟ้องแพ่งชนะ ศาลสั่งให้เยียวยา 1,020,000 บาท แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา
หลังจากเหตุการณ์นี้ คดีไม่คืบหน้าไม่พอ เด็กพวกนี้ยังมาข่มขู่ มาก่อกวนที่บ้าน เอาระเบิดมาปา เอามีดมาไล่ฟันสังกะสี ข่มขู่ลูกชายอีกคนของพ่อ ว่าจะพาไปตายที่เดียวกันกับพี่ชาย เหิมเกริมไม่เลิก
ล่าสุด คุณกัน จอมพลัง ได้พาไปติดตามความคืบหน้าในส่วนของคดีอาญา ตำรวจ สภ.อรัญประเทศบอกว่ายังไม่ได้ส่งฟ้อง ผู้กระทำความผิดร่วม 100 คน แต่จับได้เพียง 3 คน ซึ่งมี 1 คน เป็นผู้ต้องหาที่มาฆ่าป้าบัวผันด้วย ตำรวจให้เหตุผลที่ยังไม่ส่งอัยการฟ้อง บอกว่า ร้อยเวรที่รับผิดชอบคดี ย้ายไปอยู่ที่ สภ.วัฒนานคร ทำให้สำนวนคดีล่าช้า
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน มองว่า เมื่อไปติดตามคดีแล้วพนักงานสอบสวนบอกว่ายังไม่มีการส่งอัยการฟ้องเลย ทั้งที่กรอบเวลาต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน แต่คดีนี้ล่วงเลยมาเป็นปี ก็แปลว่าคดีนี้ล่าช้าจริงๆ ต้องถามเหตุผลที่ล่าช้าคืออะไร สอบสวนพยาน สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นหรือยัง เรื่องนี้ต้องถามไปทางผู้บังคับบัญชาว่ามันช้าที่ตรงไหน จะมาอ้างพนักงานสอบสวนคนเดิมย้ายโรงพักไปแล้วมันอ้างไม่ได้ พนักงานสอบสวนใหม่ต้องมารับหน้าที่ต่อ
นายวัชรินทร์ ยังชี้ถึงกรณีลุงเปี๊ยก ที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ออกมาแถลงว่า เรื่อง พ.ร.บ.อุ้มหาย หลักฐานยมันยังไปไม่ถึง ถามว่าไม่ถึงได้อย่างไร แค่หายไปไม่ถึงวันก็ผิดแล้ว หรือบังคับให้รับสารภาพก็ผิดแล้ว จะเอาไปไว้ที่เซฟเฮาส์ก็ทำไม่ได้ แบบนี้ความผิดมันชัดเจน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โฟนอินเข้ามาบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง ต้องตำหนิจริงๆว่า ตำรวจในท้องที่ปล่อยให้เรื่องมันล่วงเลยมาขนาดนี้ได้ยังไง ก็ได้บังคับผู้บังคับการไปแล้วว่า เรื่องนี้มันไม่ได้เสื่อมเสียต่อโรงพักในพื้นที่ หรือในจังหวัดสระแก้วเท่านั้น แต่มันเสียมาทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การที่ผู้บังคับการไม่ทำให้ความจริงปรากฏให้ได้โดยเร็ว ยิ่งลากไป ก็ยิ่งทำให้กระบวนการสืบสวนขององค์กรตำรวจมันเสื่อมเสียไปทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี