เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 นายปิยะวัฒน์ คุระพูล ผอ.กลุ่มประสานงาน ป.ป.ช.ภาค 9 ร่วมกับ ป.ป.ช.จังหวัดสตูล เดินทางเข้าพบนายประสงค์ เรืองสวัสดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดสตูล เพื่อขอคำชี้แจงและซักถามถึงที่มาที่ไป กรณีพบว่า จ.สตูลเป็นจังหวัดหนึ่งในจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการโคบาลชายแดน ของ ศอ.บต. หลังพบว่ามีเกษตรกรบางกลุ่มได้รับผลกระทบจากโครงการในครั้งนี้ จำนวน 12 กลุ่ม หรือ 120 คน ที่รับโคจากบริษัทมาเลี้ยงล่วงหน้า 1 ปี ทั้งที่ยังไม่ผ่านโครงการ รวมทั้งคอกวัวที่มาก่อสร้างไว้ให้ล่วงหน้าทำให้ป.ป.ช.ตั้งข้อสังเกตโครงการในครั้งนี้
จากนั้นป.ป.ช.ได้ขอให้ปศุสัตว์จังหวัดนำไปดูกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการฯ จุดแรกเป็นกลุ่มบ้านทุ่งไหม้ หมู่ที่ 1 อ.ละงู และกลุ่มบ้านทุ่งนางแก้ว ซอยสาทร ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ยอมรับว่าได้รับโคมาเลี้ยงล่วงหน้า 1 ปีโดยรับมาประมาณเดือนธันวาคม 2565 ก่อนที่จะมีการอนุมัติให้เข้าโครงการของปศุสัตว์ที่เป็นไปตามเงื่อนไขเมื่อ เม.ย.และพ.ค.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวเกษตกรที่เข้าร่วมยอมรับความพึงพอใจ และโคเริ่มให้ลูกเป็นผลผลิตกันแล้ว
หลังจากนั้นปศุสัตว์ ได้นำไปเยี่ยมกลุ่มที่ไม่ผ่านโครงการฯ ที่บ้านทุ่งนางหงษ์ โดยนายแม๊ก เกษตกรที่โครงการไม่ผ่าน บอกว่า กลุ่มตนได้รับโคเหมือนกับกลุ่มอื่นๆ เมื่อปลายปี 2565 แต่มารู้ตัวว่าไม่ผ่านโครงการเมื่อปศุสัตว์มาตรวจสอบปลายปี 2566 เนื่องจากได้รับเงื่อนไขว่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส่วนโคจำนวน 50 ตัวขณะนี้ตนก็ยังเลี้ยงแบบระบบเปิด แม้จะผ่านมา 1 ปีแต่ก็ยังไม่มีลูก อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าทางบริษัทจะมารับโคคืนวันไหน เพราะไม่ได้มีการทำสัญญาแต่อย่างใด แต่ก็หวังว่าตลอดระยะเวลาเลี้ยงโคดังกล่าว 1 ปี ทางบริษัทจะชดเชยรายได้ค่าจ้างในการเลี้ยงดูแลให้กับเกษตกรที่ผิดหวังได้บ้าง
ด้านนายประสงค์ เรืองสวัสดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดสตูลได้ชี้แจงว่า ได้ถือปฏิบัติเป็นไปตามเงื่อนไขและระเบียบกฏเกรฑ์ของโครงการในครั้งนี้ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมในครั้งนี้จำนวน 20 กลุ่ม แต่พบว่าผ่านตามเงื่อนไขและระเบียบกฏเกรณ์เพียง 8 กลุ่ม โดยพบว่าที่ไม่ผ่านเงื่อนไข ในเรื่องของที่ดินไม่มีกรรมสิทธิ์ และแปลงปลูกหญ้าไม่มีใบอนุญาต ทำให้ไม่สามารถเข้าโครงการในครั้งนี้ได้ พร้อมปฏิเสธส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องการนำโคมาให้เกษตรกร โดยชี้แจงว่าเป็นส่วนของบริษัทกับเกษตรกรที่มีการตกลงเจรจากันเอง ส่วนการอบรมของเกษตกรก่อนที่จะมีการทำสัญญาเป็นในส่วนของศอ.บต. สำหรับเกษตกรที่ไม่ผ่านเงื่อนไขทางปศุสัตว์จะนำเรื่องหารือไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้มีการยืดหยุ่นและช่วยเหลือเกษตกรต่อไป
ขณะที่นายปิยะวัฒน์ คุระพูล ผอ.กลุ่มประสานงาน ป.ป.ช.ภาค 9 บอกว่า ปัญหาจังหวัดสตูลก็คือกลุ่มเป้าหมายเดิมจำนวน 20 กลุ่ม แต่เมื่อมีคู่มือออกมากับพบว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ่านเกณฑ์เพียงแค่ 8 กลุ่ม ไม่ผ่าน 12 กลุ่ม ประเด็นที่ 2 ที่ต้องพิจารณาคือทางบริษัทได้นำโคมาให้เกษตรกร ตั้งแต่ปี 2565 ก่อนที่ทางปศุสัตว์จะอนุมัติโครงการห่างประมาณ 1 ปี จากประเด็นตรงนี้ต้องมีการพิจารณา จากการสอบถามเกษตรกรพบว่าทางศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการเชิญกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มไปทำการอบรมความรู้และทางบริษัทได้รายชื่อติดต่อมายื่นเสนอว่าจะเอาโค มาให้และลงทุนในการสร้างโรงเรือนให้ มีการทำสัญญาแต่ปรากฏว่า แต่กลับปรากฏว่า 12 กลุ่มไม่ผ่าน ในเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันอย่างไรต่อซึ่งได้ขอให้ทางปศุสัตว์นำเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทราบถึงปัญหาเหล่านี้ การแก้ไขอย่างไรให้อยู่ในดุลพินิจของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด
ในส่วนของจังหวัดสตูลโคที่พบปัญหาเรื่องน้ำหนักไม่มี เพราะเกษตรกรได้นำโคมาเลี้ยงก่อนประมาณ 1 ปีก่อนที่จะมีการดำเนินการทางด้านธุรการการเซ็นสัญญาเอกสาร ส่วนจะเป็นการชี้นำเกษตรกรหรือไม่ของทางศอ.บตนั้นจะต้องมีการตรวจสอบดูอีกครั้ง ต้องดูในข้อเท็จจริงอีกครั้งโดยจะมีการประสานไปที่ศอ.ต. ถึงกรณีการจัดอบรมในกลุ่มผู้เลี้ยงโคทั้งที่คู่มือโครงการยังไม่ออก ได้อิงฐานข้อมูลมาจากไหน พร้อมทั้งจะสอบถามในส่วนของทางบริษัทว่าทางศอ.บ.ตได้มีการแนะนำมาเป็นตัวเลือกให้กับทางกลุ่มผู้เลี้ยงหรือไม่ และทางบริษัทได้รายชื่อเกษตรกรผู้เลี้ยงมาได้อย่างไร จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี