ผบช.สพฐ.เผยพยานให้การตรงกัน‘ห้องครัว’ต้นเพลิงไฟไหม้กระทรวงเกษตรฯ
4 กมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.) เปิดเผยทางโทรศัพท์ ถึงกรณีไฟไหม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.67 ว่า เบื้องต้นได้นำเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเคมีและฟิสิกส์เข้าเก็บพยานหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำแม่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่เห็นกลุ่มควันเป็นกลุ่มแรก รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟ เพื่อหาแหล่ง ต้นเพลิง ซึ่งให้การตรงกันว่า ห้องต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณห้องครัว หรือห้องเตรียมอาหาร
ทั้งนี้ จุดที่เพลิงไหม้หนักที่สุด คือ เฟอร์นิเจอร์ ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด และสายไฟฟ้าหลอมละลายมากที่สุด อยู่ที่บริเวณมุมห้องครัวที่ติดกับระเบียงใกล้หน้าต่าง ซึ่งอากาศที่เข้ามาทางหน้าต่างทำให้เพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว และมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภท ตู้เย็น และไมโครเวฟ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรจากอุปกรณ์ใดหรือไม่
ผบช.สพฐ. ระบุว่า ส่วนจะมีร่องรอยหรือองค์ประกอบของตัวเร่งหรือสารไวไฟ เช่น น้ำมันหรือไม่ ต้องรอเจ้าหน้าที่เก็บพยานหลักฐานไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ก่อน คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ จึงจะทราบผลตรวจ
อย่างไรก็ตาม แม่บ้านยืนยันว่า ไม่มีใครเข้าไปในห้องดังกล่าว เนื่องจากวันที่เกิดเหตุได้นัดช่างเข้ามาฉีดปลวก แต่เนื่องจากช่างมาสาย ทำให้เจ้าหน้าที่ล็อกห้องและกลับไปก่อน ทำให้ขณะเกิดเหตุห้องดังกล่าวถูกล็อกไว้ ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้
“ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่าห้องที่ถูกเพลิงไหม้ มีการเก็บเอกสารสำคัญด้วยนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน ขณะที่เรื่องกล้องวงจรปิดอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. นางเลิ้ง ในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน” ผบช.สพฐ. กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี