"ผกก.ปะคำ"จังหวัดบุรีรัมย์ เผยเหตุกรณีที่ลูกสาวโอนเงินให้พ่อถูกถอนออกปริศนาทุกเดือนทางบัตร ATM เงินหายไปกว่าแสนบาทล่าช้า เพราะรอหลักฐานวงจรปิดที่ธนาคารส่งไปผิดโรงพักโผล่ที่ สภ.ระนอง พร้อมเร่งประสานหากได้หลักฐานมาตำรวจจะดำเนินการทันที ด้าน "พ่อสาวบุรีรัมย์" จี้ธนาคารชี้แจงข้อเท็จจริงและอยากได้เงินที่หายไปคืน
ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อัมพาพร อายุ 32 ปี ชาว ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานสลิปการโอนเงินให้กับนายเลื่อน อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อเดือนละ 10,000 บาทออกมาร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อจี้ให้ทางธนาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่พ่อบอกกับลูกสาวว่าเงินที่โอนมาให้ถูกถอนออกอย่างเป็นปริศนาทุกเดือนนานนับปี โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนถอนออกรวมเป็นเงินที่หายไปกว่าแสนบาท ทั้งที่พ่อยืนยันว่าใช้บัตร ATM ไปกดถอนที่ตู้มาใช้จ่ายแค่เดือนละ 3,000 บาท แต่เมื่อไปสอบถามกับทางธนาคารแจ้งว่ามีการเบิกถอนเงินผ่านบัตร ATM
แต่พอขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตู้ ATM ที่ถูกถอนเงินออก ทางธนาคารบอกว่าเจ้าของบัญชีต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน แล้วนำใบแจ้งความกลับมาส่งให้ทางธนาคาร เพื่อจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ในการอนุมัติตรวจสอบกล้องวงจรปิด น.ส.อัมพาพร ทำตามที่ทางธนาคารแนะนำโดยได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปะคำ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุที่พ่อไปกดเงิน ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 จากนั้นนำใบแจ้งความกลับไปส่งให้ธนาคารที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ที่พ่อเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปเกือบ 8 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจากทาง พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผกก.สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวซึ่ง ผกก.ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ทางพนักงานสอบยังรอหลักฐานภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจากทางธนาคาร ถ้ามีหลักฐานทางวงจรปิดส่งมาให้ทางตำรวจแล้วก็จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนไปกดถอนเงิน ก็อยู่ระหว่างรอตรวจสอบอีกหลายอย่าง
ส่วนกรณีที่ล่าช้าเนื่องจากทางธนาคารส่งหลักฐานกล้องวงจรปิดไปผิดที่แทนที่จะส่งมาที่ สภ.ปะคำ แต่กลับส่งไปที่ สภ.ระนอง ซึ่งไม่ทราบว่าที่ส่งผิด สภ.เพราะสาเหตุอะไร อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนก็กำลังประสานกับทาง สภ.ระนอง เพื่อให้ดำเนินการส่งหลักฐานวงจรปิดดังกล่าวมาให้ ซึ่งหากได้หลักฐานมาทางตำรวจ สภ.ปะคำ จะเร่งดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนทันที
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านผู้เสียหายอีกครั้งเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้พบกับนายเลื่อน ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร ได้นำเอกสารหลักฐานรายการเดินบัญชีฝากถอนที่ขอจากทางธนาคารมาให้ดู พบว่ามีรายการเงินโอนเข้าเฉลี่ยเดือนละ 5,000 – 10,000 บาท ซึ่งยืนยันว่าลูกสาวเป็นคนโอนให้ ทั้งนี้มีรายการถอนเงินออกผ่านบัตร ATM มากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน แต่ยืนยันว่าไปกดถอดมาใช้แค่เดือนละครั้งเท่านั้นและกดด้วยตัวเองไม่เคยฝากใครไปกด เป็นลักษณะนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว
"พอเริ่มมีความผิดปกติผมจึงลองใช้บัตร ATM ไปถอนเงินออก 1 ครั้ง แต่พอวันหลังลองไปกดถอนอีกกลับถอนไม่ได้ ที่ผ่านมาเคยไปถามทางธนาคารให้ช่วยตรวจสอบเขาบอกว่ามีการถอนเงินผ่านบัตร ATM จริง แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถอนครั้งที่สอง จากสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนตัวสงสัยว่าจะมีการทำบัตร ATM ได้หลายใบตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า 1 บัญชีสามารถทำได้ถึง 5 ใบจริงหรือไม่ ซึ่งตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน ก็งงเพราะบัตร ATM อยู่กับตัวเองตลอดแต่เงินหายไป แต่ที่ผ่านมาทางธนาคารไม่เคยแจ้งอะไรเลย ส่วนตัวเองก็เพิ่งจะมาแจ้งลูกสาวให้ทราบเรื่อง" นายเลื่อน กล่าว
นายเลื่อนกล่าวต่อว่า ช่วงเดือน พ.ค.2566 ตนเคยไปให้ เจ้าหน้าที่ธนาคารทำแอปฯในมือถือให้ เพื่อแจ้งยอดเงินเข้าเงินออกก็เสียเงินค่าบริการด้วย แต่ไม่เห็นมีการแจ้งเงินเข้าออกเลยและตนไม่เคยทำธุรกรรมอะไรผ่านแอปฯเลย จากกรณีที่เกิดขึ้นอยากให้ทางธนาคาร และตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ด้วย และอยากได้ที่เงินถูกถอนไปคืนด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี