วัยรุ่น18ปีศรีสะเกษใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงคู่อริเสียชีวิตกลางปั๊มน้ำมัน

เมื่อเวลา 00.45 น.ของวันนี้ (17 ก.พ.) ที่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันบ้านผือ ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า มีชายถูกยิงเสียชีวิตภายในปั้มน้ำมัน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชายนอนเสียชีวิต 1 ราย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนขายาว พบร่องรอยบาดแผลที่บริเวณศรีษะด้านขวา นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บริเวณทางเดินหน้าห้องน้ำ ทราบชื่อต่อมาคือนายจิรยุทธ อายุ 18 ปี ชาวบ้านรุง ม.9 ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากศพประมาณ 5 เมตรพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ( ลูกซองสั้น ) ตกอยู่ในที่เกิดแหตุจำนวน 1 กระบอก

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลกันทรลักษ์ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงภายในบริเวณปั้มน้ำมันดังกล่าว ก็ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุก็พบกลุ่มวัยรุ่นกำลังชกต่อยกันอย่างชุลมุน และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าระงับเหตุโดยในที่เกิดเหตุก็พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 2 รายจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์

จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายรัฐภูมิ อายุ 18 ปี อยู่บ้าน ม.6 ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บถูกทำร้ายร่างกาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 3 คนขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าห้องน้ำของปั้มน้ำมัน ต่อมากลุ่มผู้ตายมาด้วยกันจำนวนประมาณ 10 คนขับรถกระบะเข้ามาที่ปั้มน้ำมัน และพบกับกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคู่อริกันอยู่แล้ว 

เมื่อนายจิรยุทธ ผู้ตาย พบกับนายรัฐภูมิ ผู้ก่อเหตุ ก็ได้ทะเลาะชกต่อยกัน โดยนายรัฐภูมิ ผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงไปจำนวน 1 นัดเป็นเหตุให้นายจิรยุทธ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังสิ้นเสียงปืนกลุ่มผู้ตายพบว่าเพื่อนถูกยิงก็ได้เข้าไปรุมทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึงและทำการระงับเหตุ และได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา มีและพกพาอาวุธปืนไปยังที่สาธารณะและได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป - 003