■■ พูดกันลั่นหลังจากผู้ที่ถูกหลอกเข้าไปทำงานให้กับ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” จนกลายเป็นสมาชิกแก๊งชนิดไม่เต็มใจถูกบังคับให้ติดต่อหลอกลวงประชาชน โดยสถานที่ตั้งของ “แก๊งอุบาทว์” ดังกล่าวอยู่ชายแดนไทยแถวๆ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พื้นที่ตั้งใหญ่โตแทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เขมรหรือกัมพูชาจะไม่รู้ไม่เห็น และในอาคารหลังดังกล่าวมีสมาชิกแก๊งที่ถูกกักตัวให้ทำงานหลอกประชาชนทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ (ประมาณ 40-50 คน เข้าไปแล้วไม่ทำงานหลอกชาวบ้านจะถูกทุบถูกตี ถูกทรมาน รวมทั้งอาจถูกฆ่า) ทุกคนพูดภาษาไทยได้ หลอกดูดเงินไทย แม้กระทั่งบอสระยำที่ทำตัวเป็นทาสจีนเทา (รองตัวการใหญ่) ก็พูดภาษาไทย โดยสมาชิกทุกคนเข้าใจว่าเป็นคนไทยที่ทำการชักใยบังคับให้คนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเองอย่างสุดอุบาทว์ระยำเจ็บหัวใจยิ่งนักที่สำคัญการหลอกลวงดังกล่าวทางองค์กรอัปรีย์นี้มีการจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีล้ำหน้าราคาแพงทันสมัยไว้ครบครัน พร้อมข้อมูลประวัติเหยื่ออย่างละเอียดยิบ รู้แม้กระทั่งเหยื่อมีเงินอยู่ในธนาคารนั่นนี่กี่มากน้อย และจากการเปิดเผยของสมาชิกแก๊งผู้รู้ดีชั่วหนีตายออกมาชนิดชีวิตแลกชีวิตว่า ข้อมูลที่แก๊งอัปรีย์นี้ได้นั้น มาจากสถาบันการเงินบางแห่ง ค่ายโทรศัพท์บางแห่ง หรือหน่วยงานบางแห่งด้วยการซื้อขาย แน่นอนถ้าเป็นเรื่องจริงคนไทยทุกคนที่พอมีอันจะกินไปถึงคนร่ำคนรวยมีเงินฝากเยอะๆ ต่างล้วนตกเป็นตัวประกันทุกคนลักษณะไม่รู้ตัวเลย ที่สำคัญคนขายข้อมูลไม่ว่าเป็นใคร ถ้าเรื่องดังกล่าวเป็นจริง หรือหากอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยย่อมถือว่าคนพวกนี้ทำความทุรยศขายบ้านขายเมืองเป็นกาลีต่อบ้านเมืองอย่างสาหัสสากรรจ์ทีเดียว แก๊งอัปรีย์พวกนี้แอบอ้างหน่วยงานราชการทุกหน่วยที่มันเชื่อมั่นว่าเมื่อมันพูดไปแล้วเหยื่อต้องหวาดผวากลัว สุดท้ายหลงกลตกเป็นเหยื่อถูกดูดเงินทันที...
■■ การออกมาแฉโพยถึงขั้นตอนวิธีการต่างๆ ของอดีตสมาชิกแก๊งบัดซบข้างต้น กลายเป็นคำถามขึ้นทันทีเช่นกัน ทำไมคนที่อ้างว่าถูกหลอกแล้วหนีออกมาจึงรู้รายละเอียดคล้ายเหมือนคลุกคลีรู้เห็นทะลุทะลวงดีเยี่ยม แล้วเพราะอะไรกลุ่มหัวหน้าแก๊งจึงประมาทเปิดเผยให้รู้ให้เห็นหมดเปลือก...
■■ ตรงนี้ประชาชนที่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างหรือไม่เชื่อทั้งหมดมีสิทธิ์สงสัย แต่อย่างไรก็ตามจากการออกมาอธิบายถึงวิธีการเลวทรามของ “แก๊งนรกคอลเซ็นเตอร์” ก็ทำให้ประชาชนตื่นรู้ และรู้ว่าคนถูกหลอกมีข้าราชการเงินถังอีกมากทีเดียวตกเป็นเหยื่อ โดยคนกลุ่มนี้ไม่กล้าไปแจ้งความเนื่องจาก เพราะเกรงว่าถ้าแจ้งแล้วอาจเป็นเป้าหมายให้ถูกตรวจสอบที่มาของเงินได้มาจากทางไหน หรือได้มาอย่างไร นั่นแปลว่าอันตรายยิ่งกับข้าราชการ “กังฉิน” บางคน จึงยอมทิ้งเงินก้อนแบบไม่เอะอะโวยวาย ตรงนี้ก็สามารถฟังได้ว่ามีเค้าข้อเท็จจริง เนื่องจากข้าราชการถูกหลอกที่จะออกมาพูดเวลานี้นั้นน้อยมากเหมือนไม่โดนอะไรใดๆ เมื่อเปรียบเทียบกับประชาชนทั่วไปต่างกันแทบสิ้นเชิง...■■
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี