ซุบซิบกทม.

ประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งคำถามหลังจากสื่อนำเสนอ กรณี กทม.มีโครงก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่แนวฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา 8 จุด ทั้งฝั่งธนบุรีและพระนคร ซึ่งที่ผ่านมายังมีปัญหา ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน โดย 8 จุดดังกล่าวประกอบด้วย 1 .แนวป้องกันน้ำท่วมเจ้าพระยาฝั่งพระนคร  ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดอนัมมิกายราม จากสถานีสูบน้ำบางซ่อนถึงประตูระบายน้ำบางโพขวาง  2 .ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเรือท่าเตียน  3 .เป็นงานปรับปรุงแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกรมเจ้าท่า 4 .โครงการก่อสร้างป้องกันน้ำท่วม บริเวณชุมชนโรงสี ถนนพระรามสาม  5 .งานก่อสร้างป้องกันน้ำท่วมริมคลองพระโขนง บริเวณวัดสะพาน 6 .งานก่อสร้างปรับปรุงแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงคลองมอญถึงคลองเตาอิฐ  7 งานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอู่เรือกัปตัน  8 .เป็นโครงการปรับปรุงแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงถนนท่าดินแดงถึงคลองวัดทอง รวมความยาวทั้งหมด8จุด 1,708เมตร งบประมาณส่วนนี้รวมทั้งสิ้น 871,050,000บาท ...อย่างไรก็ตามจากปัญหาต่างๆที่เกิดเป็นจุดอ่อนน้ำท่วมขัง แม้ที่ผ่านมา สนน.สามารถเข้าแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนขณะฝนตกหนักได้ส่วนใหญ่เกือบร้อยเปอร์เซ็น และสามารถใช้เวลาในการระบายน้ำออกไม่นานมากนัก ยกเว้นจุดอ่อนไหวรุนแรงที่อาจใช้เวลาบ้างในบางจุดแต่ก็ระบายออกได้หมดเช่นกัน ...ว่ากันว่าๆปัญหาดังกล่าวจะต้องปรับปรุงแก้ไขให้หมดไปก่อนถึงช่วงฤดูฝนปี 2569 หรือก่อนฝนจะตกหนัก ...มีคำถามตามอีกประเด็นทิ้งท้ายจากประชาชนที่เจอกับน้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงพื้นที่ภายในบางแห่งบริเวณถนนสุขุมวิทย่านหมู่บ้านชุมชนหนาแน่น ซึ่งขณะนั้นกำลังก่อสร้างแล้วมีผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมขังนั้นจะแล้วเสร็จหรือไม่ เพราะจุดอ่อนดังกล่าวตามการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ สนน. บอกว่า ถ้าผู้รับเหมาไม่ประมาท หรือเอาส่วนที่ปิดกั้นน้ำเพื่อการก่อสร้างออกก่อนฝนหนักจะมา ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจะไม่เกิด  ยอมรับว่าการทำงานตรงนั้นครั้งนั้นมีปัญหา ซึ่ง สนน.ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เช่นกัน ...สำหรับจุดอ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งที่ กทม.ต้องใช้งบประมาณดำเนินการและเร่งรัดให้แล้วเสร็จก็เพื่อเตรียมป้องกันน้ำหลากในปี 2569 จากการตรวจสอบถือว่ามีความจำเป็นสำคัญต้องรีบเร่ง ตามแผน แต่นัยว่าไม่ใช่เฉพาะ 8 จุดเท่านั้นที่ กทม.โดย สนน.ดำเนินการ ทุกจุดล่อแหลมอันตรายตามเป้าหมายก็ต้องจบไปพร้อมๆกัน ...สุดท้ายมีคำถามว่า เขื่อนริมคลองเปรมฯเมื่อไหร่จะแล้วเสร็จ แน่นอนคำถามนี้ย่อมทำให้ กทม.จุกหัวอกสาหัสทีเดียว เพราะอำนาจในการบริหารจัดการไม่ได้ขึ้นตรงกับ กทม.ทั้งหมด กทม.เป็นแค่หน่วยงานหนึ่งที่คอตกน้ำท่วมปาก “พูดอะไรไม่ออก เพราะฝ่ายที่ควรจัดการให้แล้วเสร็จ คือเจ้าของพื้นที่(กรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง) แต่กรมธนารักษ์ชักช้าไม่กล้าใช้อำนาจเด็ดขาดฟันธงหรือบังคับ การก่อสร้างเขื่อนสองฝั่งจึงอยู่ในสภาพเหมือน“คนหน้าตาดีแต่ขาพิการพิกลพิการ”...

ไผ่ฎำ