ชาวอุเทนถวายรวมตัว ยื่นหนังสือคัดค้านย้ายที่ตั้งสถาบัน “ศุภมาส” นั่งหัวโต๊ะรับฟัง 6 ข้อเรียกร้อง ก่อนมอบให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลคลี่คลายข้อพิพาทให้เร็วที่สุด ระบุการแก้ปัญหาต้องเคารพและยึดหลักกฎหมาย ย้ำยังรับนักศึกษาชั้นปี 1 ปีการศึกษา 2567 ตามปกติ จากนั้นได้ยกพลไปสภาฯ ร้อง ‘วันนอร์-ชวน’ ทบทวน ‘2มาตรา’ ใน ‘พ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2551’ ค้านย้ายมหาวิทยาลัย หวั่นให้อำนาจเข้ามาหาผลประโยชน์ในที่ดิน
ช่วงเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย มีศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน สมาคมผู้ปกครองและครูอุเทนถวาย และอื่นๆ เดินทางมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายกันอย่างเนืองแน่น เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการออกจากพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
โดยในเวลา 09.00 น. ได้ทำพิธีบวงสรวงองค์พระวิษณุกรรมเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนเริ่มจัดรูปขบวนภายในมหาวิทยาลัย จากนั้นเวลา 9.30 น. ได้เริ่มเดินขบวนเข้าถนนพญาไท มุ่งหน้าแยกสามย่าน แล้วมุ่งหน้าไปยื่นหนังสือถึงสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ คัดค้านการย้านสถาบันไปพื้นอื่น
เวลา 10.00 น. ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย สมาคมศิษย์เก่า และคณะอาจารย์อุเทนถวาย 120 คน นำโดย นายทักษิต เรียบร้อย นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ขอคัดค้านการย้าย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (อุเทนถวาย)
หนังสือดังกล่าวมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ขอคัดค้านการย้ายเขตพื้นที่การศึกษา เขตพื้นที่อุเทนถวาย ถนนพญาไท หรือ “อุเทนถวาย” ออกจากที่ดินพิพาท และขอให้ธำรงตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ เพื่อใช้เฉพาะกิจการการศึกษาวิชาช่าง โดยมีชื่อ “อุเทนถวาย”ไว้เช่นเดิม
2.พิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อสนับสนุนจัดทำร่าง ยกวิทยฐานะส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาที่ดินพระราชทานอันเป็นที่ตั้งของ อุเทนถวาย ให้มีศักยภาพต้านความพร้อมในการรองรับการพัฒนาสรรพความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน ให้พร้อมต่อการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอันเป็นคุณประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติ จนเป็นที่ปรากฏต่อสังคมโลกทั่วไป
3.พิจารณามีคำสั่งให้ อุเทนถวาย มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการด้านการเรียนการสอน และการพัฒนาสถานที่เพื่อรองรับการศึกษาต่อไปได้, ให้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแผ่นดิน แต่มีระบบการบริหารจัดการที่มีความเป็นเอกเทศ อิสระและคล่องตัว สามารถจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นอิสระและความเป็นเลิศทางวิชาการ ซึ่งผ่านการกำกับดูแลและสนับสนุนจากหน่วยงาน ด้านการศึกษาของภาครัฐโดยตรง ทั้งนี้ ต้องไม่มีเงื่นไขให้การพัฒนาสถนศึกษาอุเทนถวายอยู่ภายใต้ภาระผูกพันการอ้างสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากนิติบุคคล จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เพื่อสั่งให้ชะลอ หรือระงับได้
4.โดยเหตุที่ดินพิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน อุทิศให้โดยพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีเนื้อที่เป็นเศษเสี้ยวส่วนน้อยของที่ดินของนิติบุคคลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแต่มีเหตุขัดข้องในการหยิบยกแปลความพระราชประสงค์ผิดแผกแตกต่างไปจากประวัติความเป็นมาเพื่อเอาไป เป็นของนิติบุคคล ชาวอุเทนถวายจึงมีความจำเป็น โดยได้ทำการร้องขอความเป็นธรรมให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยในประเด็นนี้ด้วย
อนึ่ง เพื่อบรรเทาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ชาวอุเทนถวายขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านคณะรัฐมนตรี และท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ได้โปรดดำเนินการมุ่งเน้นยึดถือประโยชน์การศึกษา ให้เป็นที่ตั้งสำหรับการศึกษาวิชาช่างก่อสร้างเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยเข้ามายุติปัญหาการนำที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการศึกษาอันเป็นที่ตั้งโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ไปเป็นของนิติบุคคลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อการพาณิชย์หรือประโยชน์ส่วนบุคคลใดๆ ด้วยการจดทะเบียนโฉนดที่ดินพิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันเป็นที่ตั้งสถานศึกษาเท่านั้น และออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและจัดทำทะเบียนที่ดินสาธารณะประโยชน์ตามแบบที่กฎหมายกำหนด
5.ขอให้ยกเลิกคำสั่ง ระงับคำสั่งหรือไม่ออกคำสั่ง โดยไม่มีการโยกย้ายนักศึกษาอุเทนถวายไปเรียนที่แห่งอื่น การงดรับนักศึกษาใหม่ รวมทั้งโยกย้ายคณะครู อาจารย์ บุคคลากร และเจ้าหน้าที่ไปประจำการที่อื่น
6.ขอให้มีการออกหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการและปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเรียกร้อง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย สัดส่วนเท่ากัน มีประธานและคณะกรรมการฝ้ายที่สามมีที่มาจากบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้เสียหรือคาดหมายได้ว่ามีประโยชน์ได้เสียกับคู่กรณี และระบุกำหนดการแล้วเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ด้วยความเข้าใจข้อเรียกร้องชาวอุเทนถวายตามหนังสือนี้ ก่อนใช้อำนาจสั่งการ ดำเนินการ หรือแนวทางใดๆ ในการยุติข้อพิพาท หากท่านนายกรัฐมนตรี เห็นเป็นการสมควร ขอได้โปรดมีหนังสือเชิญประชุมหารือแนวทางเสนอบุคคลฝ่ายคู่กรณี และเสนอประธานและคณะกรรมการฝ่ายที่สามเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการและปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเรียกร้อง เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย ถนนพญาไท ต่อไป
จากนั้น เวลา 14.00 น. ศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย สมาคมผู้ปกครองและครูอุเทนถวาย ประมาณ 2,500 คนได้เคลื่อนขบวนมาที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) พร้อมกับสลับกันขึ้นปราศรัยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 มาตรึงกำลังพร้อมวางแผงเหล็กกั้นบริเวณหน้ากระทรวง ขณะที่ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว.พร้อมกับศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว.ได้คอยเจรจากับกลุ่มผุ้ชุมนุมเป็นระยะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรยากาศการชุมนุมคลี่คลายลง
ต่อมา น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. เดินทางมารับข้อเรียกร้องของศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย สมาคมผู้ปกครองและครูอุเทนถวายพร้อมกับ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.กระทรวง อว. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตน์ ประธานคณะทำงาน รมว.กระทรวง อว. นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. โดยมีตัวแทนนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จำนวน 5 คน นำโดยนายศุภชัย ลิ้มพิพิฒน์โสภณ นายกสมาคมศิษย์เก่า นายคูณแสน โควศวนนท์ นายกสโมสรนักศึกษา เข้ายื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 6 ข้อ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
จากนั้น น.ส.ศุภมาส แถลงข่าวว่า ตนตั้งใจมารับข้อเรียกร้องด้วยตัวเอง โดยจากข้อเรียกร้องทั้งหมด กระทรวง อว.จะรับประเด็นไว้เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพื่อหาทางคลี่คลายปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งในบางเรื่องก็อยู่ระหว่างการพูดคุยหารือหาทางออกร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษาและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการแก้ไขปัญหา แต่อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาจะต้องเคารพและยึดหลักของกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการเปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2567 ของ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายนั้น ขอย้ำว่า ยังคงเปิดรับตามปกติ แต่ให้มีการบริหารจัดการการเรียนการสอนเพื่อให้สอดรับกับแผนการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่ได้กำหนดไว้
เวลา 15.30 น. กลุ่มชาวอุเทนถวาย ได้เดินทางจาก กระทรวง อว. มายังรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัย ทบทวนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551
ต่อมาในเวลา 16.30 น. นายทักษิต เรียบร้อย นายกสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย และนายสมชัย ไตรพิทยากุล นายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย เป็นตัวแทนกลุ่ม เข้ายื่นหนังสือบริเวณจุดรับหนังสือศาลาแก้ว รัฐสภา โดยมีนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ
ด้านนายทักษิต กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย สมาคมศิษย์เก่า และคณะอาจารย์อุเทนถวาย เรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัย ทบทวน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 ในมาตรา 13 ที่บัญญัติว่า ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ดังต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ และให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย และ มาตรา 16 ที่บัญญัติ ว่า มหาวิทยาลัยมีอำนาจและหน้าที่กระทำการต่างๆเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ซื้อ ขาย จ้าง รับจ้าง สร้าง จัดหา โอน รับโอน เช่าให้เช่า ซึ่งพวกตนมองว่าก่อนหน้านี้พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้มีการระบุไว้แต่ได้มีการแก้ไขให้อำนาจจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาบริหารจัดการหาผลประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งขัดกับพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ซึ่งให้ใช้ในการศึกษาเท่านั้น
ขณะที่นายเจษ กล่าวว่า จะตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องเรียบร้อย ก่อนจะกราบเรียนประธานสภาฯอย่างเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี