โฆษกอัยการแถลงอสส.มีคำสั่งฟ้อง “เนตร นาคสุข” อดีตรอง อสส. “บิ๊กอ๊อด- พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” อดีต ผบ.ตร.กับพวก 8 คนปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ คดีช่วยเปลี่ยนความเร็วรถ “บอส กระทิงแดง”ขับรถชนตำรวจทองหล่อดับปี58 ให้อัยการปราบปรามทุจริต นัดส่งฟ้องศาลคดีอาญาทุจริตฯ
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมเเถลงข่าวว่า อัยการสูงสุด (อสส.)มีคำสั่งฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก รวม 8 คน ตามมติสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ดังนี้
1.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1) 2. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดีพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำหรือไม่กระทำการในตำแหน่งโดยมิชอบ และฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญามาตรา 83, 86, 157, 200 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4, 7 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
3.พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสืบสวนสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำหรือไม่กระทำการในตำแหน่งมิชอบ เพื่อช่วยบุคคลหนึ่งมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่มิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 200 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4, 7 พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
4.นายเนตร นาคสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำหรือไม่ทำอย่างใด ในตำแหน่งเป็นการมิชอบเพื่อช่วยบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง และฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4, 7 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
5.นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตพนักงานอัยการ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9) 6.นายธนิต บัวเขียว (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12) 7.นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13) 8.รองศาสตราจารย์ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19) ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญากระทำหรือไม่กระทำ ในตำแหน่งมิชอบ เพื่อช่วยบุคคลหนึ่งมีให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 157, 200 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4, 7 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2554 มาตรา 65 พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
“อัยการสูงสุดมอบให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นผู้ฟ้องและดำเนินคดีผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 แทนอัยการสูงสุด และให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ เพื่อให้ส่งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คนไปยังสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องคดีภายในอายุความตามกฎหมาย” นายประยุทธ์กล่าว
และว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหาอื่น ได้แก่ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก อดีตรอง ผบ.ตร.ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และ พ.ต.อ. วิวัฒน์ สิทธิสรเดช ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติกันไว้เป็นพยาน ส่วนพ.ต.ท. ปัณณ์ณภณ นามเมือง หรือคทาธร พัชรนามเมือง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 และพล.อ.ท.สุรเชษฐ ทองสลวย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิ. อาญา และพ.ร.ป.ประกอบว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 63
นายประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ถูกกล่าวที่ 11 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 64 นายธานี อ่อนละเอียด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 พ.ต.ท. ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายวรพล โสคติยานุรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 นายอุสาห์ ชูสินธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17 และน.ส.ณัฏณิชา ทองชื่น
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิด
สำหรับขั้นตอนต่อไปที่อสส.ต้องดำเนินการนั้น จะมีหนังสือแจ้งป.ป.ช.ดำเนินการให้ได้ตัวมาตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งรับดำเนินคดี ซึ่งคดีนี้เข้าเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบฯ สำหรับคำสั่งอัยการสูงสุดครั้งนี้ถือว่า เสร็จสิ้นการสั่งคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เป็นการพิจารณาคดีชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เกี่ยวเนื่องจากการปรับความเร็วรถของ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อเสียชีวิต เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2558 ก่อนที่อสส.รับดำเนินคดี โดยมีรายงานว่า เดิมสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตเสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุด เกี่ยวกับข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการสอบสวนคดีนี้ เเละขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่ายพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ เเต่เมื่อสำนวนมาถึงนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อสส.คนปัจจุบัน พิจารณาเเล้วมีคำสั่งรับดำเนินคดีโดยไม่ต้องตั้งข้อไม่สมบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี