วันที่ 12 มีนาคม 2567 จากกรณีพบศพน้องสา อายุ 30 ปี สาวเมียนมา ถูกฆ่าหมกศพในบ่อน้ำกุฏิร้าง วัดท้าวโคตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) หลังจากหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (เจอแล้ว! 'น้องสา'อินฟูลเอนเซอร์ชาวเมียนมา พบเป็นศพในบ่อร้างหลังกุฏิ ศาลออกหมายจับอดีตสามี)

ต่อมา พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอหมายจับนายพิทญา อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตาย หลังพยานหลักฐานชี้ชัด ว่านายพิทญานำทองรูปพรรณของผู้ตาย น้ำหนัก 3 บาท ไปขาย และมีการนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปจอดที่ห้องเช่าของผู้ตาย ก่อนนั่งจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร หลบหนีไปที่ จ.กระบี่ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.

โดยศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

การติดตามตัวนายพิทญา เจ้าหน้าที่ไล่กล้องวงจรปิดบนเส้นทางต่างๆ ทุกเส้นทาง พบว่าหลบหนีไปในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่งได้ประสานไปยังพื้นที่เพื่อร่วมติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว

ขณะที่ ผลชันสูตรศพน้องสา เบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณต้นคอ 1 แผล หน้าอก 2 แผล และปากฉีกขาด นอกจากนี้มีข้อมูลจากเพื่อนสนิทของน้องสาคนหนึ่งระบุว่า เชื่อว่ามูลเหตุที่ทำให้นายพิทญาฆ่าน้องสา น่าจะมาจากการทวงเงินคืน เนื่องจากในช่วงเวลาที่นายพิทญาคบหากับน้องสา ได้หยิบยืมเงินของน้องสานับแสนบาท และเชื่อว่าในวันเกิดเหตุน้องสาน่าจะไปทวงเงินจากนายพิทญา ทำให้ไม่พอใจ ก่อนทำร้ายน้องสาจนเสียชีวิต