ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ร่วมกับสมาคมระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและชนบท(ISERD) และ สถาบันฟื้นฟูและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ERECON) องค์กรพัฒนาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ จัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ครั้งที่ 15 มีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย อาจารย์และนักศึกษา
ผู้แทนต่างประเทศ จาก 29 ประเทศประมาณ 200 คน เข้าร่วมประชุม
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวถึงการจัดประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้นักวิทยาศาสตร์ นักศึกษา และนักวิจัยทุกสาขาวิชา องค์กรระหว่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ได้หารือแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล งานวิจัย ข่าวสาร ความก้าวหน้าทางวิชาการ พัฒนากระบวนการและกลยุทธ์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและการพัฒนาชนบท โดยคำนึงถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียวเป็นหัวใจสำคัญ ที่สำคัญคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เข้าร่วมประชุมมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการกับนักวิชาการจากนานาชาติ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้ทันสมัย และเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือตลอดจนประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักในวงการวิชาการที่เกี่ยวข้อง เป็นการเปิดโอกาส ได้พบปะนักวิจัยจากนานาชาติ ได้รับประสบการณ์ อันจะนำมาช่วยพัฒนาและเสริมทักษะการเรียนรู้และการวิจัยของนักศึกษาในโอกาสต่อไป
รศ.ดร.ชุลีมาศ บุญไทย อิวาย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและน้ำแบบบูรณาการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ ครั้งที่ 15 นี้ เปิดเผยว่าที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งในที่ประชุมคือหัวข้อ เศรษฐกิจ BIO-CIRCULAR-GREEN (BCG) เส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนเรื่อง การเกษตรและนวัตกรรมอาหาร การจัดการสิ่งแวดล้อม การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาชนบท ระบบโครงสร้างพื้นฐาน เป็นการเปิดเวทีให้นักวิทยาศาสตร์ นักศึกษา และนักวิจัยทุกสาขาวิชา องค์กรระหว่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ได้หารือแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล งานวิจัย ข่าวสาร ความก้าวหน้าทางวิชาการ พัฒนากระบวนการและกลยุทธ์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและการพัฒนาชนบท โดยคำนึงถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียว นอกเหนือจากการประชุมวิชาการแล้ว ยังมีการพาผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศไปศึกษาดูงาน เยี่ยมชมวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว และงานพัฒนาชนบท เยี่ยมชมชุมชน งานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยขอนแก่นสู่ชุมชน การจัดแสดงสินค้าชุมชนให้ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกือบ 30 ประเทศ ประมาณ 200 คน ให้ได้รู้จักกิจกรรมและสินค้าชุมชน ณ ศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานบ้านไผ่ (ศูนย์มีชัย) จังหวัดขอนแก่น ศาลาไหมไทยและพื้นที่วิจัย และบ้านหัวหนอง ตำบลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งการลงพื้นที่ดูงานในอำเภอบ้านไผ่ ได้รับการดูแลอย่างดียิ่ง จาก รศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล, ศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานบ้านไผ่ หรือ ศูนย์มีชัย นายอำเภอ และเกษตรอำเภอบ้านไผ่
ศ. ดร มาริโอ้ ทาบูคานอล ประธานสมาคม ISERD กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นองค์กรระดับนานาชาติที่หลากหลายประเทศมาร่วมกัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาจัดในประเทศไทย ครั้งแรกประสบความสำเร็จอย่างมากและการประชุมครั้งนี้ยิ่งใหญ่มากขึ้นเพราะได้รวมองค์ความรู้ของแต่ละประเทศเข้ามา ซึ่งไม่ใช่แค่ระดับประเทศไทย แต่หมายถึงระดับโลก มีองค์ความรู้ลงสู่ชุมชนและในขณะเดียวกัน เรื่องของวารสารระดับนานาชาติที่จะประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ไปสู่นานาชาติ ซึ่งมีหลากหลายวิทยาการที่เข้ามาร่วมกันในตรงนี้ จากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกซึ่งมีความประทับใจในประเทศไทยและเชื่อว่าประเทศไทยยังมีการขับเคลื่อนได้อีกหลากมุมหลายมิติ
ด้าน ศ.ดร.มาจิโตะ มิฮาระ (Prof.Dr.Machito Mihara) กล่าวเสริมว่า ในการขับเคลื่อนการเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งการที่จะเข้าไปสู่ความยั่งยืน จริงๆ แล้วค่อนข้างยากมาก เพราะองค์ความรู้ไม่ใช่เฉพาะแค่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องของนโยบาย เรื่องของการเข้าสู่สังคมวิทยาศาสตร์และสังคมต่างๆ ต้องไปด้วยกัน ฉะนั้นองค์ความรู้ที่เรานำมาในการประชุมครั้งนี้เป็นการร่วมมือร่วมกันที่จะก้าวเข้าไปถึงการพัฒนาแบบยั่งยืนซึ่งจังหวัดขอนแก่นโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในการขับเคลื่อนเรื่องของการก้าวเข้าไปสู่ความยั่งยืน
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี