แหล่งท่องเที่ยว “หินหัวช้าง” อยู่ใน ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ในช่วงที่น้ำทะเลลดลงต่ำสุดของทุกวันทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ชักชวนกันมาดูปูก้ามดาบที่มีสีสัน สวยงามแปลกตากว่าที่อื่น และมีให้ชมหลากสีสัน บางตัวมีหลายสีในตัวเดียวกัน บางตัวมี 3 สี บางตัวมี 2 สี และบางตัวมีสีเดียว แต่ตัวที่โดดเด่นที่สุด พบกระจายอยู่ทั่วป่าชายเลนบริเวณนี้ คือ ปูก้ามดาบ ที่มีกระดองสีฟ้า ขาสีส้ม มีขนาดลำตัวเล็กไม่เกิน 1.5 เซนติเมตรจำนวนหลายสิบตัว ออกหากินอยู่ใต้ต้นโกงกาง ซึ่งเป็นดินโคลนปนทราย ที่มีแร่ธาตุ แพลงก์ตอนและเศษซากพืชซากสัตว์อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ จัดว่าเป็นปูก้ามดาบที่หายาก และไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนักจากที่อื่น

นอกจากนี้ ยังพบปูก้ามดาบก้ามใหญ่ กระดองสีดำลายขาว ก้ามสีส้ม และปูกระดองสีขาว กระจายอยู่ทั่วผืนป่า สร้างความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก ซึ่งปูก้ามดาบ นับว่าเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนได้เป็นอย่างดี เพราะหากที่ไหนมีโรงงานอุตสาหกรรมหรือมลพิษ ก็จะไม่มีปูก้ามดาบให้เห็น 

สำหรับปูก้ามดาบ เป็นปูทะเลขนาดเล็ก มีกระดองเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ก้านตายาว มีหลายสีเช่น สีฟ้า สีแดง สีเทาอมดำ สีเหลือง สีม่วง ซึ่งตัวผู้จะมีก้ามข้างหนึ่งใหญ่มาก ไว้สำหรับข่มขู่คู่ต่อสู้และเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย โดยเฉพาะในช่วงผสมพันธุ์ ซึ่งปูก้ามดาบ ไม่ได้ถูกจัดให้เป็นเมนูอาหารทะเลเหมือนปูชนิดอื่น และไม่มีชาวบ้านนำมาทำอาหารแต่อย่างใด แต่ยังมีโอกาสเสี่ยงสูญพันธุ์เนื่องจากบางพื้นที่มีการลักลอบจับปูก้ามดาบตัวที่สวยงาม สีสันแปลกตา ไปขายในตลาดมืด เลี้ยงเพื่อความสวยงาม

ด้านนายประสาน ทุ่ยอ้น ปราชญ์ชาวบ้านต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า สิ่งที่นักท่องเที่ยวมาแล้วประทับใจเพราะมีปูก้ามดาบหลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลือง หรือสีส้ม มีหลายชนิดหลายไซส์ มีสีสันสดใส ตนคิดว่าปูก้ามดาบโดยทั่วไปมีลักษณะเหมือนกันหมด แต่ที่นี่มีสีสด เหตุที่สีสดหรือแปลกจากที่อื่น เกิดจากอาหารการกินของมันอุดมสมบูรณ์กว่า เพราะที่นี่เป็นหาดโคลนที่ต่างจากหาดทราย ซึ่งหาดโคลนมีแพลงก์ตอนหรืออาหารของปูมากมายกว่าหาดทรายหลายเท่า