‘บิ๊กต่อ’พร้อมเซ็นพักราชการ-หากต้องคดี

ไม่ได้แกล้ง‘โจ๊ก’

เรื่องคดีความว่าไปตามหลักฐาน

เร่งเดินหน้าปิดคดีก่อนเกษียณ

‘สุรเชษฐ์’ปัดสายตรงคุยผบ.ตร.

ลั่นอีกไม่นานความจริงปรากฏ

ผบ.ตร.ยันหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” เป็นไปตามหลักฐาน ไม่ได้กลั่นแกล้ง แจงยิบขั้นตอนหลังหมายเรียกครบ 2 ครั้ง จนถึงตร.ตั้งกรรมการสอบ ถ้ามีผลจะสั่งให้พักราชการ มั่นใจจะทำให้เสร็จก่อนเกษียณกันยายนนี้ ด้าน “บิ๊กโจ๊ก”ยืนกรานคำเดิมบริสุทธิ์ ไม่กังวล มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ย้ำเรื่องคดีมอบทนายไปแล้ว รอฟังคำชี้แจง ปัดตอบสายตรงคุยผบ.ตร.

ความคืบหน้ากรณีพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์ มอบให้สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ออกหมายเรียกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) วันที่ 21 มีนาคม ข้อหาสมคบกันฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ BNK Master นั้น

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยยืนยันว่า ตนไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เมื่อวานนี้เป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ที่กำหนดรายงานตัววันที่ 21 มีนาคม ที่สน.เตาปูน ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาว่าจะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ถ้าออกหมายเรียกครบสองครั้งแล้วยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายจับ

ส่วนกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุการออกหมายเรียกครั้งนี้ มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการสอบสวนไม่ถูกต้อง เพราะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เนื่องจากคดีอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ผบ.ตร.ระบุว่า คดีที่ป.ป.ช. ตรวจสอบเป็นคดีเว็บพนันมินนี่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับคดี BNK Master ในพื้นที่สน.เตาปูน แต่คดีนี้ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา สามารถปฏิเสธหรือโต้แย้งได้

ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงการตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี BNK Master ในพื้นที่สน.เตาปูนว่า คดีนี้แยกออกจากคดีเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ที่สำนวนส่งไปที่ ป.ป.ช. โดยมีพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ที่แต่งตั้งมาตั้งแต่อดีต ผบ.ตร.คนก่อน ถ้าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์บริสุทธิ์ก็คือบริสุทธิ์ ส่วนคดีนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนตามที่เป็นข่าว โดยจะกลับไปพิจารณาว่าการตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องเป็นพล.ต.อ. เนื่องจากจะเป็นข้อครหา เพราะแต่ละคนก็เป็นแคนดิเดตที่ชิงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องส่งกลับไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้พิจารณา

“ส่วนหมายเรียกอีก 1 ฉบับที่พนักงานสอบสวนส่งไปให้ผม ในฐานะผู้บังคับบัญชาทราบ สำนักงานกฎหมายและคดีจะมีการรายงานให้ทราบช่วงบ่ายวันนี้ ตามขั้นตอนหากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกออกหมายเรียกและถูกออกหมายจับก็ต้องมารายงานตัวในฐานะต้องคดีอาญา หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีผลก็จะสั่งให้พักราชการ โดยเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จก่อนที่ผมจะเกษียณอายุราชการภายในเดือนกันยายนนี้” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว

และว่า กรณีทนายความพล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะออกมาแฉเส้นทางการเงิน โดยอ้างว่าจะสะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ระบุว่า ถ้าพยานหลักฐานถึงใครก็ต้องรับสภาพหากชี้แจงไม่ได้ รวมถึงถ้าเส้นเงินถึงตนก็ต้องรับสภาพเช่นกัน ซึ่งพยานหลักฐานทุกอย่างพิสูจน์ได้ตามวิทยาศาสตร์ และมองว่าตร.จะแตกได้อย่างไร จะต้องดำรงอยู่ไว้ ส่วนใครจะผิดก็ว่าไปตามความผิด

ส่วนประเด็นที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมองว่าเป็นหน้าที่ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่แล้ว เพราะดูแลงานด้านความมั่นคง

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ซึ่งอยู่ระหว่างลงพื้นที่สถานที่ก่อสร้างสนามบินสนามบินจังหวัดพะเยา พร้อมร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีถูกออกหมายเรียก โดยยังคงยืนยันคำตอบเดิมว่า ไม่ทราบรายละเอียด เรื่องหมายเรียกอะไรทั้งสิ้น ฟังแต่จากข่าว ยังไม่รู้เรื่องรายละเอียดอะไร ต้องรอกลับกรุงเทพฯก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าผบ.ตร.มอบหมายพล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสอบวินัยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังถูกหมายเรียกข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบการฟอกเงิน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่เรื่องคดีมอบหมายทนายความไปหมดแล้ว ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม และต้องพิสูจน์ไปตามกระบวนการของกฎหมาย

“ผมยืนยันว่าไม่ได้กังวล เพราะทำหน้าที่ตามปกติ วันนี้ต้องทำหน้าที่ดูแล รักษาความปลอดภัยนายกฯและคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทั้งคณะให้เรียบร้อย เพราะมาต่างจังหวัดก็มีปัญหามากมาย ที่มีเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านมาทั้งถูกฉ้อโกง ต้องใช้กำลังและสมอง แก้ปัญหาให้ชาวบ้านดีกว่า ส่วนเรื่องคดีความ มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อมั่นว่าไม่ได้ทำผิด”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว และย้ำว่า ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผิดคือผิด ถูกคือถูก ไม่มีอะไรให้หนักใจ

ส่วนการสอบสวนจะสาวไปถึงเจ้าหน้าที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการตกแต่งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เรื่องคดีวันนี้ก็ให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบนั้นก็ต้องชอบธรรม เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย อำนาจของการสอบสวน วันนี้ตนเองพร้อมให้การตรวจสอบ

“เดี๋ยวสักพักความจริงจะปรากฏออกมาเอง บัญชีทรัพย์สินของผมได้รายงานป.ป.ช.อยู่ตลอด ส่วนเรื่องตกแต่งบัญชี เรื่องนี้ทนายจะเป็นผู้ชี้แจงเอง แต่วันนี้ผมขอทำงานก่อน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าได้โทรศัพท์หาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นการส่วนตัว หลังถูกตำรวจออกหมายเรียกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ บอกเพียงว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น มีชาวบ้านมารุมขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก พร้อมให้กำลังใจพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ว่า ขอให้กำลังใจคนที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ซึ่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวขอบคุณพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม