ก.ร.ตร.ชี้มูล‘อดีตผบ.ตร.’ผิดวินัย ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ปมรับเงินส่วยเว็บพนันออนไลน์

ก.ร.ตร.ชี้มูล‘อดีตผบ.ตร.’ผิดวินัย ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ปมรับเงินส่วยเว็บพนันออนไลน์

วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ก.ร.ตร.ชี้มูล‘อดีตผบ.ตร.’ผิดวินัย

‘พล.ต.อ.ต่อศักด’

ปมรับเงินส่วยเว็บพนันออนไลน์

พร้อมพวกอีกกว่า200นาย

เตรียมสรุปร้ายแรงหรือไม่

ก่อนส่งตร.ดำเนินการต่อ

 

คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ(ก.ร.ตร.)มีมติชี้มูล“พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” อดีต ผบ.ตร. กับพวกกว่า 200 นาย ผิดวินัยปมรับส่วยเว็บพนัน เตรียมเปิดให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อพิจารณากำหนดโทษทางวินัยว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ก่อนส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ดำเนินการต่อ


เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 มีรายงานว่าคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ได้มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) พร้อมพวกกว่า 200 นาย ภายหลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 กล่าวหาว่ามีการรับเงินจากขบวนการส่วยเว็บพนันออนไลน์

รายงาน ระบุว่า ก.ร.ตร. ใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 7 เดือน โดยรวบรวมเอกสารจากหลายหน่วยงานและตรวจสอบย้อนหลังหลายปี ก่อนจะมีมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า ผู้ถูกร้องมีมูลความผิดทางวินัย ขั้นตอนต่อไปจะเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งคณะกรรมการฯ จะนำคำชี้แจงมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อกำหนดโทษทางวินัยว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง จากนั้นจะส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนซ้ำได้ เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่หรือข้อโต้แย้งสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงรูปคดี โดย ก.ร.ตร. ย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน

สำหรับขั้นตอนการพิจารณาโทษของข้าราชการที่มีความผิดทางวินัย ทางคณะกรรมการ ก.ร.ตร. จะส่งชื่อไปที่ต้นสังกัด ดำเนินการทางวินัย ส่วนข้าราชการที่มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือมีความผิดอาญา ถึงขั้นปลดออกก็จะถูกส่งไปที่ต้นสังกัด และส่งไปที่ ป.ป.ช ดำเนินการต่อไป โดยผู้ที่ถูกร้องสามารถยื่น คำร้องต่อ ก.ร.ตร.ได้ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ในส่วนพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่แม้จะเกษียณอายุไปแล้ว เมื่อมีความผิดวินัย สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ ถ้ามีหลักฐานใหม่

ส่วนการพิจารณาโทษ ผู้ถูกร้องซึ่งเป็นตำรวจยศ พล.ต.อ. จะมีคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ประกอบด้วยรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ พล.ต.อ. นิรันดร เหลื่อมศรี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร พล.ต.อ.สำราญ นวลมา และพล.ต.อ อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้พิจารณา ภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เกษียณอายุราชการ โดยมีโทษตั้งแต่ผิดวินัยไม่ร้ายแรงและวินัยร้ายแรง โดยมีโทษปลดออกและไล่ออก

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก.ร.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม เป็นประธานกรรมการ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เป็นกรรมการ พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน เป็นกรรมการ นางสมศรี หาญอนันทสุข เป็นกรรมการ นายสุนทร พยัคฆ์ เป็นกรรมการ นางสาวสุกลภัทร ใจจรูญ เป็นกรรมการ นางอริยา แก้วสามดวง เป็นกรรมการ พล.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) เป็นกรรมการและเลขานุการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคดีสําคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีข้อกล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวก เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และธุรกิจผิดกฎหมายอื่น จำนวน 18 ประเภท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอ จึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยให้

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 51 โดยให้ดำเนินการไต่สวนกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก รวม 8 คน ทั้งนี้ หากในชั้นไต่สวนพบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ดำเนินการไต่สวนกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานจากการสอบสวนระบุว่า ขบวนการดังกล่าวได้มีการโอนเงินเป็นทอดๆ ผ่านบัญชีม้าและบริษัทบังหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ โดยบางส่วนถูกส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในหลายหน่วยงาน เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุมจับกุมดำเนินคดีเว็บพนันรายใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าเงินหมุนเวียนต่อเดือนเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท

โดย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มได้นำเอกสารหลักฐานกว่า 100 หน้า ซึ่งรวมถึงสลิปโอนเงิน,เอกสารภาษี, รายชื่อบัญชีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ยื่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบวินัยตำรวจ(ก.ร.ตร.) โดยระบุว่า มีผู้เกี่ยวข้องหลักรวม 4 ราย ได้แก่ บิ๊กตำรวจ, ภรรยา และเจ้าของบัญชีม้า 2 ราย ต่อมา วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 นายษิทรา ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมขอให้ตรวจสอบเครือข่ายทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพวก ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับ 18 ธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงเว็บไซต์พนันออนไลน์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top