พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่าตามที่ได้ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนกว่า 2,000 คน จากการตรวจเยี่ยมพบว่าโรงเรียนดังกล่าวสามารถจัดการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน ซึ่งมาจากความร่วมมือร่วมใจกันของหลายฝ่าย ทั้งผู้บริหารโรงเรียนคุณครู สมาคมผู้ปกครองที่เข้มแข็ง ที่สำคัญคือนักเรียนโรงเรียนนี้มีความน่ารัก ตั้งใจเรียนตั้งใจแสวงหาความรู้และกล้าแสดงออก
ดังนั้น สิ่งที่จะต้องดำเนินการคือ ทำอย่างไรที่จะขับเคลื่อนโรงเรียนอื่นๆ ให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน โดยจะเร่งพัฒนาโรงเรียนตามนโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพทั้งระดับประถม และมัธยมกว่า 1,800 แห่ง โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พัฒนาการจัดการศึกษาให้ทุกโรงเรียนเป็นโรงเรียนคุณภาพ เริ่มจากระดับอำเภอ ขณะที่โรงเรียนคุณภาพ จะต้องเป็นแม่ข่ายในการใช้ทรัพยากรร่วมกันกับโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังให้สพฐ. ไปสำรวจโรงเรียนต่างๆ ว่ามีความขาดแคลนในเรื่องใดบ้าง รวมถึงได้หารือกับ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี เพื่อเติมเต็ม โรงเรียนคอนเน็กซ์อีดีให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือจากงบประมาณ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการขับเคลื่อนการยกระดับผลการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ PISA นั้น ขณะนี้ มีแผนการดำเนินงานที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประชุมร่วมกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาตามบริบทของแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตามคะแนน PISA เป็นเพียงการประเมินหนึ่งเพียงแต่ทำให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำดังนั้น จึงพยายามแก้ปัญหาการจัดการศึกษาให้มีความเท่าเทียมมากที่สุดซึ่งเรื่องนี้เป็นการวางแผนระยะยาวไล่ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนการดำเนินการตามนโยบายลดภาระครู โดยที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกการอยู่เวรของครูไปแล้วนั้น จะทำให้ครูมีขวัญกำลังใจ เพื่อไปทุ่มเทกับการเรียนการสอนให้กับเด็กมากขึ้น
พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวด้วยว่าขณะนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ที่ผ่านมาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมโดย คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พยายามวางปฏิทินการย้ายครู และบุคลากรทางการศึกษาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เมษายน เพื่อให้ครูมีเวลาเตรียมความพร้อมไปสอนในสถานศึกษาใหม่ ทันเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พฤษภาคม ขณะเดียวกันยังกำชับเรื่องการจัดซื้อหนังสือเรียนให้มีความโปร่งใส โดยจะต้องเป็นหนังสือที่ไม่แพงมีคุณภาพตามที่กำหนด เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ปกครอง นอกจากนั้น ยังจะหารือกับ สพฐ. เพื่อป้องกันภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนในช่วงเปิดเทอม เช่น การป้องกันบุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด โดยต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองมาร่วมกันดำเนินการ เชื่อว่าเมื่อเปิดภาคเรียน นักเรียนก็จะมีเกราะคุ้มครอง และมีการจัดการศึกษาที่เป็นระบบมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี