วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
หนุนวาระแห่งชาติ‘ปั๊มลูก’!สปสช.เห็นชอบรักษา‘กระตุ้นไข่-เด็กหลอดแก้ว’ผ่านบัตรทอง 30 บาท

หนุนวาระแห่งชาติ‘ปั๊มลูก’!สปสช.เห็นชอบรักษา‘กระตุ้นไข่-เด็กหลอดแก้ว’ผ่านบัตรทอง 30 บาท

วันอาทิตย์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.13 น.
Tag : หมอชลน่าน วาระแห่งชาติ ปั๊มลูก สปสช. เด็กหลอดแก้ว บัตรทอง มีบุตรยาก
  •  

‘บอร์ด สปสช.’หนุนวาระแห่งชาติ‘ส่งเสริมการมีบุตร’ นำร่อง 3 ปี‘บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก’ในระบบ‘บัตรทอง 30 บาท’ เน้นให้บริการตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษา ให้ยากระตุ้นไข่ และเด็กหลอดแก้ว สำหรับหญิงไทยสิทธิบัตรทอง อายุ 30-40 ปี มีคู่สมรสและจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และเป็นผู้ภาวะมีบุตรยากและต้องการมีบุตร

24 มีนาคม 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (รมว.สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เป็นประธานการประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 โดยมีวาระพิจารณาและเห็นชอบข้อเสนอ “การรักษาภาวะมีบุตรยาก” เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท นำเสนอโดย รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และ นางวราภรณ์ สุวรรณเวลา รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์เด็กเกิดใหม่ในประเทศไทย พบว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี 2506-2526 มีเด็กเกิดใหม่ไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านคน แต่ในปี 2565 จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงอยู่ที่ 485,085 คน ขณะที่อัตราเจริญพันธุ์เหลือเพียง 1.08 กลายเป็นวาระที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเร่งแก้ปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการกำหนดแผนดำเนินการระดับชาติ อาทิ แผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว พ.ศ. 2565-2580 โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่ง 1 ใน 6 ยุทธศาสตร์ คือ สร้างครอบครัวที่มีคุณภาพและพัฒนาระบบที่เอื้อต่อการมีและเลี้ยงบุตร , ร่างวาระแห่งชาติประเด็นส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ อยู่ระหว่างเสนอต่อ ครม. ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ เสริมสร้างความรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติ ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อการมีบุตร และผู้ตัดสินใจมีบุตรได้รับการดูแลอย่างครบวงจรและมีคุณภาพ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลเอง โดยกระทรวงสาธารณสุข นโยบาย Quick win 100 วัน มีเรื่องการส่งเสริมการมีบุตรที่ขับเคลื่อนเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ข้อมูลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2562-2566 มีผู้มีสิทธิที่เข้ารับบริการด้วยวินิจฉัยภาวะการมีบุตรยากอยู่ประมาณ 3,000-3,500 ราย/ปี

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อย่างไรก็ดี บริการรักษาภาวะมีบุตรยากมี 3 ระดับด้วยกัน ตามแนวทางเวชปฏิบัติภาวะมีบุตรยากของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2566 ซึ่งผลการศึกษาเพื่อบรรจุการรักษาภาวะมีบุตรยากเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทองนั้น เห็นควรส่งเสริมให้บริการในขั้นต้นก่อน เพราะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ และควรให้บริการที่เป็นไปตามลำดับ ดังนี้

ระดับที่ 1 ให้คำปรึกษาแนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ และการรักษาโรคประจำตัวหรือส่งต่อเพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาสาเหตุที่ตรวจพบบริการระดับ 1 สามารถให้บริการโดยแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) และโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) หากภายใน 6-12 เดือนไม่ได้ผลหรือเกิน 12 เดือน ตามแพทย์เห็นสมควรเว้นวรรคให้เข้าสู่บริการระดับถัดไป

ระดับที่ 2 (2.1) ให้ยากระตุ้นไข่และยาเหนี่ยวนำการตกไข่ และ (2.2) การกระตุ้นไข่และการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งสูตินรีแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไปจะเป็นผู้ให้บริการไม่เกิน 3 ครั้ง หากในระยะเวลา 6-12 เดือนไม่ได้ผล ให้เข้าสู่ระดับถัดไป โดยทั่วประเทศมีหน่วยบริการที่ให้การรักษาจำนวน 40 แห่ง ใน 38 จังหวัด

ระดับที่ 3 ทำเด็กหลอดแก้ว โดยวิธีการย้ายตัวอ่อน 1-2 ครั้ง ให้บริการโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โดยปัจจุบันมีหน่วยบริการรัฐที่ให้บริการ จำนวน 17 แห่ง ในจำนวนนี้เป็น รพ.สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 3 แห่ง

สำหรับบริการนี้ให้บริการกลุ่มเป้าหมาย ผู้หญิงไทยสิทธิบัตรทอง อายุระหว่าง 30-40 ปี มีคู่สมรสและจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย เป็นผู้มีภาวะมีบุตรยากและต้องการมีบุตร ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่ามีจำนวน 4,150 คน

“วันนี้ บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบเพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยให้บริการตามแนวทางราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ตามระดับการให้บริการ ซึ่งในกรณีของการทำเด็กหลอดแก้ว จะให้การดูแลเฉพาะผู้ที่มีข้อห้ามในการรักษาด้วยวิธีการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกโดยตรง ในระดับที่ 2 อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าบริการนี้เป็นเพียงหนึ่งในมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมการแก้ปัญหาประชากรเกิดใหม่ลดลง ซึ่งในขณะนี้ทาง สธ. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่วมกันดำเนินการมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ด้วยในขณะนี้” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การรักษาภาวะมีบุตรยาก เป็นข้อเสนอสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทองฯ ครั้งแรกในปี 2561 ซึ่งไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่กระบวนการศึกษาวิจัย แต่ในครั้งที่ 2 ปี 2563 ได้มีการปรับหัวข้อการนำเสนอที่ชัดเจนขึ้น ทำให้คัดเลือกเข้าสู่กระบวนการศึกษาวิจัยฯ แต่ขณะนั้นไม่สามารถหานักวิจัยได้ แต่ในปี 2566 ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยรับไปสนับสนุนทุนวิจัยและหานักวิจัยเพื่อทำการศึกษา และนำเสนอในเดือนธันวาคม 2566 โดย สปสช. ได้มีการดำเนินการตามกระบวนการบรรจุสิทธิประโยชน์ โดยผ่านการพิจารณาทั้งคณะทำงานด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข คณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน เป็นต้น และมอบให้ สปสช. นำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด สปสช. ในวันนี้ 

“การรักษาภาวะมีบุตรยากที่บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบในวันนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติในการเพิ่มจำนวนเด็กเกิดใหม่ในประเทศไทย ซึ่งในอดีตสิทธิประโยชน์นี้อาจไม่จำเป็น แต่ด้วยปัจจุบันที่เด็กเกิดใหม่มีจำนวนลดลง สปสช. จึงร่วมสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงการรักษาภาวะมีบุตรยากในกลุ่มที่มีความพร้อมและต้องการมีบุตร โดยให้นำร่อง 3 ปี และติดตามประเมินผลอย่างรอบด้านเพื่อตัดสินใจขยายผลต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บอร์ด สปสช. ได้มอบสำนักงานฯ กำหนดมาตรการการคัดกรองผู้ที่จะได้รับการรักษาภาวะมีบุตรยาก จัดระบบกำกับติดตามประเมินผลอย่างรอบด้าน และรายงานคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ประสานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อพิจารณายากระตุ้นไข่และยาเหนี่ยวนำการตกไข่เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ รวมถึงประสานกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดำเนินการกำหนดให้มีคลินิกส่งเสริมการมีบุตรและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยาก ในทุกโรงพยาบาลและทุกระดับ พัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะการขยายบริการไปจนถึงโรงพยาบาลชุมชนให้สามารถดำเนินการได้ถึงระดับที่ 2 รวมทั้งระบบการส่งต่อระหว่างเขตสุขภาพเพื่อให้ระบบบริการมีความเสมอภาคและประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนพัฒนาระบบการลงทะเบียนการรักษาภาวะมีบุตรยาก (infertile registry ตั้งแต่ระดับที่ 1–3) เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกันระดับประเทศและใช้ในการวางแผนนโยบายในระยะยาว โดยหลังจากนี้ สปสช.จะเร่งดำเนินการตามรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้สามารถเริ่มใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ในเร็วๆ นี้

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สมศักดิ์\'เผย\'ประกันสังคม-ข้าราชการ\' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม\'บัตรทอง 30 บาท 'สมศักดิ์'เผย'ประกันสังคม-ข้าราชการ' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม'บัตรทอง 30 บาท
  • ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน
  • ‘ประกันสังคม’แจงยิบสิทธิไม่ด้อยกว่า‘บัตรทอง’ มั่นใจเสถียรภาพมั่นคง ‘ประกันสังคม’แจงยิบสิทธิไม่ด้อยกว่า‘บัตรทอง’ มั่นใจเสถียรภาพมั่นคง
  • สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330 สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330
  • \'สปสช.\'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี 'สปสช.'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี
  • ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’หยุดให้บริการ‘ผู้ป่วยบัตรทอง’ เหตุ สปสช.ค้างจ่ายคลินิกคู่สัญญา ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’หยุดให้บริการ‘ผู้ป่วยบัตรทอง’ เหตุ สปสช.ค้างจ่ายคลินิกคู่สัญญา
  •  

Breaking News

‘ปทุมธานี’ระอุ!‘สส.ฟลุ๊ค’พี่ชายลูกพีช โพสต์เดือด‘...ไม่กลัวมึง ไอ้ J’

อย่าตกใจ! วันนี้ทดสอบใหญ่ ระบบเตือนภัย Cell Broadcast ใน 5 จังหวัด

จับตา‘แดง-น้ำเงิน’! เปิดเกมต่อรองการเมือง ระวัง‘ข่าวจริง’ที่มาก่อนเวลา

เปิดเกมรุมกินโต๊ะ! ปูดเบื้องลึก‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้ง‘ปชน.’ แฉ‘ส้มตะวันออก’ระส่ำ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved