วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เสียหายหมื่นล้าน!ขยายผลส่อเพิ่มเป็น 400 คดี เปิดแผนประทุษกรรมลอบนำเข้า‘หมู-วัวเถื่อน’

เสียหายหมื่นล้าน!ขยายผลส่อเพิ่มเป็น 400 คดี เปิดแผนประทุษกรรมลอบนำเข้า‘หมู-วัวเถื่อน’

วันจันทร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.26 น.
Tag : ดีเอสไอ ตู้คอนเทนเนอร์ ธรรมนัส วัวเถื่อน หมูเถื่อน
  •  

‘ธรรมนัส’ตั้งโต๊ะแถลงเช็คบิลเพิ่ม 3 บริษัทปลอมเอกสารนำเข้า‘หมู-วัวเถื่อน’กว่า 5.9 ล้านกิโลกรัม เสียหายกว่า 3 พันล้านบาท คาดเหตุจูงใจเลี่ยงภาษี-เลี่ยงกักกันโรค เรียก 1 บริษัทเข้ารายงานตัว แต่ขอเลื่อน อ้างต้องทำเอกสารเยอะ จ่อเอาผิดเพิ่ม 9 บริษัท

25 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงผลการตรวจจับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ว่า นโยบายสำคัญคือการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรผิดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร และกระทบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างมาก สินค้าหลายประเภทที่เราปราบปรามจริงจังทำให้ราคาพืชผลเกษตร มีการยกฐานะในตัวขึ้น เช่น สินค้าประเภทยางพารา จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าเราเดินทางมาถูกในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงคือการปราบปรามสินค้าภาคปศุสัตว์ และภาคประมง ตามที่เป็นข่าวมาตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งหลังดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องและบริษัทที่เกี่ยวข้องแล้ว และตั้งชุดเฉพาะกิจ “พญานาคราช” มีการสืบสวนขยายผลตั้งแต่ที่จับกุมครั้งแรกจนถึงทุกวันนี้ โดยจากลงพื้นที่ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2566 ทำให้พบว่าในการลักลอบซุกซ่อนชิ้นส่วนสุกรปะปนมากับสินค้าประเภทประมง จึงขยายผลจนนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากตรวจพบว่า มีการปลอมแปลงเอกสารการนำเข้าสัตว์น้ำ 20 คดี

ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจพญานาคราชได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนกลางอีก 1 ราย จำนวน 220 คดี ที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้ประกอบการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ โดยพบว่ามีการยื่นขอนำเข้าหัวปลาแซลมอน และปลาจวด แต่สินค้าที่นำเข้ามาจริงกลับเป็นเนื้อสุกร 1,859,270 กิโลกรัม (กก.) เนื้อวัว 4,135,306 กิโลกรัม จาก 220 ตู้ คิดน้ำหนักรวมแล้วประมาณ 5,994,576 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,407.187 ล้านบาท นอกจากนั้น ทั้งนี้ ผู้แทนจากกระทรวงเกษตรไปยื่นดำเนินคดีกับบริษัท 3 แห่ง และตรวจสอบแล้วพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเพิ่มเป็น 2 เท่า สร้างความเสียหายประมาณเกือบ 3,000 ล้านบาท 

ด้านนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบสามารถดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ที่ตำรวจสอบสวนกลางกับบริษัท 3 แห่ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด โดยสิ่งที่พบความผิดปกติ ณ วันนี้ คือ มีการใช้ใบรับรองสุขอนามัยสัตว์บกที่หน่วยงานผู้รับรองประเทศต้นทางออกให้ มาปลอมแปลงข้อมูลบางส่วนให้เป็นใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ และนำมาใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตนำเข้าต่อด่านตรวจประมงชลบุรี โดยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบรับรอง เช่น ปลอมแปลงรายการสินค้าหมู หรือวัวเป็นปลาจวดแช่แข็ง มีการเปลี่ยนแปลงพิกัดจากหมูหรือวัวแช่แข็ง เป็นพิกัด ปลาแช่แข็ง ซึ่งก่อนแจ้งความดำเนินคดี เราได้ตรวจสอบ ยืนยัน ไปยังประเทศบราซิลซึ่งเป็นประเทศต้นทางแล้ว ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสถานทูตบราซิลประจำประเทศไทยว่า ใบรับรองที่บริษัทดังกล่าวยื่นประกอบขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำนั้นไม่ได้ออกโดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบของบราซิล และเป็นเอกสารปลอม

นายบัญชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่เอ่ยนามใน 4 ข้อ 1. ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารตามมาตรา 264  ฐานความผิดใช้เอกสารปลอมมาตรา 268 ฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 137 และความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 ผ่านนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตามมาตรา 14 ( 1 ) และ(2 ) รวมคดีทั้งหมดที่ไปแจ้งความ 220 คดี กรมประมงขอให้ผู้เกี่ยวข้อง นำข้อมูลพยานหลักฐานข้อเท็จจริงมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอบอกว่าตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหากพบพฤติกรรม ลักษณะดังกล่าวอีก ก็จะเร่งดำเนินการต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าน่าจะมีมูลเหตุจูงใจอยู่ 2 ประเด็น โดยประเด็นแรก คือ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เนื่องจากการนำเข้า เป็นซากสัตว์หรือหมู หรือเนื้อ จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถ้านำเข้าเป็นปลา ก็จะไม่ต้องเสียภาษี ประเด็นที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการกักกันโรค เพราะถ้าแจ้งว่าเป็นเนื้อสัตว์ก็จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบของกรมปศุสัตว์

“ดังนั้นเราสงสัยว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนประทุษกรรมที่ใช้ในการนำเข้าหมูหรือเนื้อเถื่อนเข้ามาในประเทศไทยผ่านบริเวณท่าเรือ เบื้องต้นได้มีการออกหมายเรียกบริษัทไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าขอขยายเวลาเข้ามาพบ เนื่องจากมีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่ต้องนำมาชี้แจง ยืนยันว่าเราจะร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ กรมประมง กรมปศุสัตว์ ในการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป” พล.ต.ต.วิทยา กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)  กล่าวว่า นอกจากการดำเนินคดีอาญา ที่มีการแถลงไปแล้วอีกส่วนหนึ่งคือ ความผิดมูลฐานข้อมูลทางการเงินและการกระทำความผิดมูลฐาน ป.ป.ง.จะไปดำเนินการทางแพ่งต่อ ทุกคดีเพราะฉะนั้น นอกจากติดคุกแล้วก็ยังหมดตัวด้วย

ด้าน พ.อ.วิรักษ์ สัตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กล่าวว่า คดียังไม่จบแค่นี้ เนื่องจากยังมีผู้ประกอบการที่จะดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีก 9 บริษัท ซึ่งยังรอหลักฐานประกอบเล็กน้อย รวม 400 กว่าคดี  

เมื่อถามว่า เอกสารเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเป็นชุดเดียวกันกับคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กำลังดำเนินการอยู่หรือไม่ อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า เป็นชุดเดียวกันแต่ในส่วนของกรมประมงและชุดพญานาคราชและทรงป้องกันการนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายนำมาขยายผล

พ.อ.วิรักษ์ กล่าวว่า แรกเริ่ม ที่เราสงสัยเพราะรมว.เกษตรฯ เข้าไปตรวจสอบที่แหลมฉบัง ซึ่งหนึ่งในตู้คอนเทนเนอร์นั้นพบว่า ข้างหน้าเป็นสำแดงผิดประเภท พอตรวจไปท้ายคอนเทนเนอร์กลายเป็นหมู ทำให้เราฉุกคิด และรมว.กษตรฯ ได้สั่งให้กรมประมงจัดตั้งวอร์รูมขึ้นมาตรวจสอบ จึงนำเอกสารใบรับรองสุขภาพสัตว์มาไล่เลียงตั้งแต่ต้นทาง  ดังนั้นนี่ถือเป็นการค้นพบความผิดปกติเส้นทางใหม่ 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถามว่าเป็นการดำเนินคดีบริษัทที่ดีเอสไอกำลังดำเนินคดีอยู่หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ส่วนใหญ่ใช่ แต่ก็จะเพิ่มอีกประมาณ 5 บริษัท ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ สืบเนื่องจากที่ดีเอสไอดำเนินคดีแก่ผู้นำเข้า 161 ตู้ แต่หลังจากเราขยายผล เราสามารถตรวจสอบและพบหลักฐานอันเป็นที่มาที่ไปว่าเราดำเนินคดีเพิ่มอีก 220 คดี และ ณ วันนี้ ตรวจสอบเบื้องต้นก็จะเพิ่มอีกเป็น 400 คดี นั่นหมายความว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคการเกษตรไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้าน บาทหรืออาจจะถึง 10,000 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่เราจะขยายผลต่อไป

เมื่อถามว่าจะมีการประสานไปยังดีเอสไอ เพื่อรับไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นประเด็นใหม่นายฯ ก็อยากให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หากเกี่ยวข้องกับคดีเก่าก็จะประสานไปยังดีเอสไอต่อไป ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ไว้ใจการทำงานของดีเอสไอ แต่เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาของเกษตรเกษตรกร

เมื่อถามต่อว่า ทางดีเอสไอจะมีการแถลงปิดคดีในเดือนเม.ย.นี้ ถือว่า ทำงานรวดเร็วทันใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวประสานงานกับดีเอสไอมาตลอด หลายๆ คดีถือว่าทำงานรวดเร็ว แต่คดีที่กำลังจะเป็นประเด็นใหญ่ของสังคมที่สร้างความเสียหายให้กับภาคการเกษตรพันถึงหมื่นล้านบาทนั้น จำเป็นต้องทำงานใกล้ชิด อย่างละเอียด ซึ่งนายกฯ มีความเห็นว่าต้องมอบหมายให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้ดำเนินคดี นอกจากนี้ ตนได้ให้มอบหมายให้อธิบดีทั้ง 2 กรม ว่าหากมีเจ้าหน้าที่รัฐของกระทรวงเกษตรไม่ว่าระดับไหนมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินคดีไม่มีเว้น ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการ ไต่สวนสอบสวนเรื่องนี้อยู่

ขณะที่ พ.อ.วิรักษ์ กล่าวว่า เอกสารหลักฐานที่เราตรวจเจอ ก่อนหน้านี้ทาง ดีเอสไอมาขอกรมประมงและกรมปศุสัตว์ สำหรับ เอกสารที่เปิดวันนี้เป็นเอกสารที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่เฉพาะแค่กรมประมงเท่านั้น แต่ต้องเอาเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ที่มีความเชี่ยวชาญมานั่งชนกันและหาสาเหตุร่วมกัน ดังนั้นหากไม่ใช่ผู้ชำนาญการ ตอบได้เลยว่ามันไม่ใช่เอกสารที่จะตรวจพบความผิดปกติได้ง่าย

เมื่อถามว่า มีการเจอตอใหญ่หรือไม่ แล้วจะโค่นนั้นหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เราทำงานตามหน้าที่เพื่อตอบสังคมให้ได้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ ถึงแม้หนทางข้างหน้าจะเจออุปสรรคอะไรก็ตาม แต่นายกฯ ได้กำชับตนแล้วว่าให้เดินหน้าเต็มที่ ดังนั้นตนจึงทำงานเต็มที่และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะป.ป.ง. หรือสอบส่วนกลาง ในการทำงานร่วมกัน  อย่างไรก็ตามตนไม่อยากใช้คำว่าโค่น แต่เราจะทำลายระบบวงจรอุบาศก์นี้ให้ได้ ทั้งนี้ขอย้ำว่า ตอนนี้มีการตรวจสอบ ขึ้นทะเบียนตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นไว้หมดแล้ว ดังนั้นตู้เย็นหรือคอนเทนเนอร์ของบริษัท ใดก็ตามในการสมรู้ร่วมคิดก็จะจัดการดำเนินคดี ดังนั้นสิ่งที่ท่านสร้างมาทั้งชีวิตอาจจะติดลบหรือเป็นศูนย์  ////-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แจ้งข้อหา 7 ตร. ปมรุมกระทืบ\'ลูกชายอดีตตำรวจ\'เหตุเข้าใจผิดแหกด่าน แจ้งข้อหา 7 ตร. ปมรุมกระทืบ'ลูกชายอดีตตำรวจ'เหตุเข้าใจผิดแหกด่าน
  • เพิ่มอีก 5 ราย \'DSI\'ร่อนหมายเรียกพยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน\'สว.\' เพิ่มอีก 5 ราย 'DSI'ร่อนหมายเรียกพยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน'สว.'
  • \'DSI\'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง\'ป.ป.ช.\' ไต่สวนฟัน\'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร\' 'DSI'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง'ป.ป.ช.' ไต่สวนฟัน'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร'
  • ‘ทวี-นายกทนายความ’มอบเช็คทายาทผู้เสียชีวิตเหตุ‘ตึก สตง.’ถล่ม 40 ราย เหลืออีก 48 ราย ‘ทวี-นายกทนายความ’มอบเช็คทายาทผู้เสียชีวิตเหตุ‘ตึก สตง.’ถล่ม 40 ราย เหลืออีก 48 ราย
  • DSI จับภรรยานายทุนเว็บพนัน เครือข่าย“แม่มนต์”คาคอนโดฯ DSI จับภรรยานายทุนเว็บพนัน เครือข่าย“แม่มนต์”คาคอนโดฯ
  • \'DSI\'ลุยคดีตึก สตง. จ่อสอบ\'นอมินีภาค 2\'-เผยชื่อ 4 บริษัท 'DSI'ลุยคดีตึก สตง. จ่อสอบ'นอมินีภาค 2'-เผยชื่อ 4 บริษัท
  •  

Breaking News

ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช.

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved