‘เหยื่อค้ามนุษย์’ถูกหลอกไปทำงาน‘คอลเซ็นเตอร์’ที่กัมพูชา ร้อง‘ปวีณา’ช่วย 70 คนไทย ถูกกักขังบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย ซ้อมทำร้ายจนซี่โครงร้าว 2 ซี่ ไฟฟ้าช็อต อึ้ง!มีเด็ก 15-17 ปี ถูกพ่อแม่ขายผ่านเอเจนซี่ให้แก๊งด้วย
27 มีนาคม 2567 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลอง7 ธัญบุรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี คนไทย 5 รายที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่โอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา ถูกซ้อมทำร้ายทรมาน ใช้ไฟฟ้าช็อต ให้อดข้าวอดน้ำ ยืนแบกเก้าอี้ทั้งกลางวันกลางคืน เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือคนไทยอีกกว่า 70 รายได้กลับบ้าน เนื่องจากขณะนี้ถูกกักขังบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย ในจำนวนนี้มีเยาวชนชาย-หญิง อายุ 15-17 ปีหลายราย ที่ถูกพ่อแม่ขายให้เอเจนซี่ในราคา 7-8 หมื่นบาท ส่งไปทำงานคอลเซ็นเตอร์
ชายหญิง 5 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายเอก อายุ 40 ปี อดีตช่างไฟฟ้า ชาว จ.บุรีรัมย์ 2.นายบี อายุ 36 ปี ชาว จ.ลำปาง (ตกงาน) 3.น.ส.ซี อายุ 29 ปี ชาว จ.สระบุรี อดีตพนักงานร้านอิงค์เจ็ท 4.นายเอฟ อายุ 31 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี (ตกงาน) น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงราย
ในจำนวนนี้ชาย 3 ราย บอกว่า ที่ผ่านมาอยากหางานทำที่มีรายได้ดี จึงเข้าไปหางานในเฟซบุ๊กก่อนจะถูกหลอกว่ามีงานแอดมินเว็บพนัน งานทำความสะอาด และงานยิงแอดโฆษณา รายได้ดี มีที่พักอาศัย เมื่อหลงเชื่อเดินทางไป ก็ถูกยึดเอกสารสำคัญส่วนตัว และโทรศัพท์มือถือ และถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์สายที่ 1
ส่วน น.ส.เอ และน.ส.ซี ถูกคนรู้จักหลอกเดินทางไป โดยการเดินทางแต่ละคนจะออกทางช่องทางธรรมชาติ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และทางช่องจอม จ.สุรินทร์ ทุกคนถูกกักขังบังคับให้ทำงานเป็นเวลา 15 วัน – 2 เดือน ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือ
นายบี อายุ 36 ปี ชาว จ.ลำปาง กล่าวว่า ช่วงเดือนก.พ.67 ตนตกงานอยู่จึงไปหางานในเฟซบุ๊ก มีคนติดต่อมาว่ามีงานทำความสะอาดบ่อนกาสิโนที่กัมพูชา รายได้ดี มีอาหารและที่พักให้ จึงตัดสินใจเดินทางไป แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ เป็นโทรศัพท์สาย 1 ที่โทรหลอกเหยื่อ ตนไม่อยากทำพยายามหลบหนีลงมาจากตึก แต่ถูกจับได้ จึงถูกซ้อมทำร้าย ใช้ไม้ฟาดตามลำตัวจนซี่โครงร้าว 2 ซี่ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องยอมทำงานตามที่กลุ่มคนจีนสั่ง เมื่อทำยอดไม่ได้ก็ถูกทำโทษให้อดข้าวอดน้ำ ยืนแบกเก้าอี้ และก่อนที่จะกลับมาได้มีน้องผู้หญิงอายุ 15 ปี ซึ่งถูกพ่อแม่ขายให้กับเอเจนซี่ในราคา 7-8 หมื่นบาทส่งมาทำงานคอลเซ็นเตอร์ขอร้องให้ช่วยแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อช่วยเหลือด้วย
ด้านนายเอฟ อายุ 31 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตนตกงานอยู่จึงเข้าไปหางานในเฟซบุ๊กและได้รับการติดต่อให้ไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนัน โดยคนที่ติดต่อมาอ้างว่าเป็นเว็บพนันถูกกฎหมายอยู่ที่กัมพูชา รายได้ดี มีอาหารที่พักให้ เมื่อเดินทางไปกลับถูกกักขังบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ สาย 1 ตนไม่อยากทำงานก็ถูกซ้อมทำร้าย ให้อดข้าวอดน้ำ ยืนแบกเก้าอี้ทั้งกลางวันกลางคืนอยู่หลายครั้ง
“พวกเรา 5 คน ได้เจอรู้จักกันที่นั่น ทุกคนไม่มีใครอยากทำงานผิดกฎหมาย ก็ได้แต่ปรับทุกข์กัน คอยช่วยเหลือกัน จังหวะวันที่ 16 มี.ค.67 มีตำรวจ ทหาร เข้ามาตรวจค้นในอาคาร นายทุนจีนจึงขนคนย้ายออกจากโรงแรม โดยตนอยู่โรมแรม 3 ย้ายมาโรงแรมที่ 2 และย้ายมาโรงแรมที่ 1 โดยใช้รถตู้ พอดีเพื่อนคนหนึ่งจำทางได้ว่าไม่ไกลจากชายแดน จึงชักชวนกันหนีลงจากรถ แล้วพากันวิ่งหนีและหาทางมาบริเวณชายแดน และข้ามกลับมาไทย แต่ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ยังถูกกักขังบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย”
น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนหลงเชื่อคนรู้จักชักชวนไปทำงาน เดินทางโดยรถทัวร์จาก จ.เชียงราย ไปลงที่โรงเกลือ จ.สระแก้ว แล้วมีรถมารับพาเดินข้ามไปทางช่องทางธรรมชาติ เมื่อถึงที่หมายเป็นอาคาร 6 ชั้น นายทุนจีนและคนไทยที่คุมอยู่บังคับให้ทำงานท่องบท และทำหน้าที่โทรศัพท์สาย 1 ถ้าทำผิดก็ถูกลงโทษให้แบกเก้าอี้ยืนตากแดดตากลมทั้งกลางวันกลางคืน ให้อดอาหาร และถ้าไม่ยอมทำงานก็ทุบตีทำร้าย ใช้กระบองไฟฟ้าช็อต เก้าอี้ฟาดจนน่วมไปทั้งตัว จังหวะวันที่ 16 มี.ค.67 มีตำรวจทหารเข้ามาตรวจค้น นายทุนจีนจึงให้ย้ายโรงแรม ขณะถูกขนย้ายด้วยรถตู้พวกตน 5 คน ได้หลบหนีมาที่บริเวณหน้าด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ ก่อนได้รับการช่วยเหลือกลับไทย
นางปวีณา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เตือนกันมาตลอดว่างานสบายรายได้ดีไม่มีจริง กรณีชวนไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ปอตเปต ประเทศกัมพูชา หรือที่เล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา มีคนไทยถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก เมื่อไม่ยอมทำหรือทำไม่ได้ตามเป้าก็จะถูกทำร้ายทุบตี
สำหรับเคสนี้ได้ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และมอบหมายให้นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความที่ ปคม. และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี