รวบเท้าฯ‘ลิตา’
หลอกออมทอง
ให้ดอกเบี้ยสูง
3.4หมื่นต่อวัน
ตำรวจล่าเท้าแชร์ออนไลน์ หลอกปชช.ทุ่มเงินลงทุนออมเงินออมทอง เสนอดอกเบี้ยสูงวันละ 3.4 หมื่นบาทมีผู้หลงเชื่อ ทุ่มเงินลงทุนนับแสน ใช้เวลาติดตามตัวกว่า 1 ปี ในที่สุดจนมุมที่จ.อ่างทอง ประวัติสุดแสบมี 4 หมายจับคดีฉ้อโกงติดตัว
เมื่อวันที่ 15 เมษายน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังตำรวจกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 ร่วมจับกุม น.ส.ลิตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ตรวจสอบพบการทำความผิดในลักษณะท้าวแชร์ทางออนไลน์ หลอกให้ร่วมลงทุน ให้ผลตอบแทนสูงมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ร่วมลงทุนเสียหายหลายล้าน โดยบุคคลดังกล่าวใช้ชื่อเฟซ “Lita Rodphan” โพสต์เชิญชวนประชาชน พบมีหมายจับติดตัว 4 หมาย และหลบหนีมาตลอด เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ปี สืบสวนติดตามจับกุม
กระทั่งวันที่ 14 เมษายน เวลาประมาณ 19.00 น. ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 ร่วมกันจับกุมตัวนางสาวลิตา อายุ 27 ปี ได้ที่ลานจอดรถ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำบลโพสะ อำเภอเมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมาย ดังนี้
1.ศาลอาญามีนบุรี ที่ 1064/2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ต้องหาทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” 2.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 80/2565 ลงวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” 3.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 156/2565 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่าทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชนและให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์” 4. หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 305/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ต้องหาทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,ฉ้อโกง,ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
สำหรับพฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนต้นเดือนตุลาคม 2564 ผู้เสียหายเล่นเฟซบุ๊กและเห็นน.ส.ลิตา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Lita Rodphan” โพสต์เชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทอง ใช้ชื่อทุนว่า”บ้านออมลิตา V.3 นายทุนราย 4 วัน มีข้อความระบุว่า
“ถ้าลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงิน 137,000 บาททุกวันจำนวน 4 วัน โดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250 บาท รับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน ต่อมาผู้เสียหายสนใจจึงร่วมลงทุนกับน.ส.ลิตา จึงโอนเงิน 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.ลิตา โอนผ่านแอปฯธนาคาร หลังจากโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายแจ้งให้น.ส.ลิตา ทราบและ น.ส.ลิตาบอกว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้ผู้เสียหาย 4 วัน วันละ 34,250 บาท รวมเป็นเงิน 137,000 บาท และต่อมาผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนกับน.ส.ลิตาอีก เป็นเงิน 100,000 บาท โดยโอนผ่านแอปฯของธนาคาร เมื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้น.ส.ลิตา ทราบ และน.ส.ลิตาแจ้งว่าจะโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้ในวันที่ รวมเป็นเงิน 137,000 บาท และเมื่อถึงกำหนดนัดหมายคืนเงินที่ผู้เสียหายลงทุน น.ส.ลิตาไม่ยอมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถาม แต่ได้รับการผัดผ่อนเรื่อยมาและได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้และไม่สามารถติดต่อได้ การกระทำดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีน.ส.ลิตา ความผิดฐาน”ฉ้อโกง และ/หรือความผิดที่เกี่ยวข้อง”จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
สอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่า เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้ผู้เสียหาย แต่อ้างว่าได้เงินไปลงทุนกับอีกท้าวแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนไปหาลูกค้ามาให้ และยังบอกว่า ตอนนี้กำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์จึงฝากเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จึงมีมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านการเล่นแชร์ออนไลน์ โดยโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าได้ผลกำไรสูง ในระยะเวลาสั้น โดยจะทำให้ตายใจด้วยการจ่ายผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้เพื่อหลอกให้ลงทุนสูงขึ้น บางคนถึงขั้นไปชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนมาร่วมลงทุนอีกด้วย ซึ่งสุดท้ายมิจฉาชีพมักอ้างว่าธุรกิจขาดทุนมีปัญหา จึงไม่สามารถส่งเงินได้ตามปกติ พร้อมบอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งแจ้งความ สุดท้ายจะตัดการติดต่อและหลบหนีไปในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี