นายกฯบี้ตร.ภ.8

ปราบมาเฟียต่างชาติยึดภูเก็ต

สั่งล้างบางธุรกิจมืด-แก๊งค้ายา

นายกฯลุยภูเก็ตติดตามแก้ปัญหาจราจร สั่งเร่งรัดอุโมงค์กะทู้-ป่าตองที่ล่าช้ามา 10 ปีแล้วให้ทำให้จบให้ได้พร้อมสั่งเริ่มลงมือสร้างสะพานยกระดับเลี่ยงเมืองภูเก็ตให้เร็วกว่ากำหนด ขณะเดียวกันย้ำตำรวจภาค 8 ยกระดับความมั่นคงภูเก็ต เพื่อรักษาความมั่งคั่ง ลั่นล้างบางมาเฟียต่างชาติ-ธุรกิจต่างด้าว – ยาเสพติด –พนันออนไลน์-หนี้นอกระบบให้เหี้ยน กำชับดูแลให้ดีอย่าให้มีน้ำผึ้งหยดเดียว ทำลายการลงทุนนับแสนล้านให้สูญเปล่า เน้นบังคับใช้กม.เคร่งครัด

เมื่อวันที่ 19 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเดินทางมาถึงท่าอากาศนานายานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามโครงการสาธารณูปโภค การแก้ปัญหาจราจร รวมถึงปัญหาความมั่นคงในพื้นที่

ลุยภูเก็ตแก้จราจรเร่งอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง

โดยนายเศรษฐาเดินดูการปรับปรุงท่าอากาศยานฝั่งอาคารผู้โดยสารนานาชาติ ที่ดำเนินการอยู่ ก่อนเข้าประชุมติดตามรับฟังบรรยายสรุปโครงการแก้ปัญหาจราจรในจ.ภูเก็ต ช่วงหนึ่งนายเศรษฐา กล่าวถึงโครงการขุดอุโมงค์ช่วงกะทู้-ป่าตองว่า โครงการนี้ก็ไม่อยากพูดอะไร เพราะตั้งแต่สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รู้สึกว่างบประมาณช่วงนั้นแค่ 8 พันกว่าล้านบาท แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 16,000 ล้านบาท แค่ช่วงเวลาก็ 10 ปีแล้ว ไม่ใช่มีรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น งบประมาณสูงขึ้น แต่มีคนเสียชีวิตไปจำนวนมาก ตรงนี้ประเมินค่าไม่ได้ ตนขอย้ำให้ทำตรงนี้ให้จบให้ได้

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า เรารู้ว่าจ.ภูเก็ตมีศักยภาพ แต่การจราจรติดขัด ถ้าทำให้เดินทางได้เร็วขึ้นจะดียิ่งขึ้น เราทำดีอยู่แล้ว 6 เดือนทำมาได้เท่านี้ถือว่าดีมาก ในที่นี้ถือเป็นดรีมทีม ขอให้ทำงานให้ดีเพื่อประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ตนอยากให้ไปดูแนวทางที่เกาะมัลดีฟ ที่มีเครื่องบินน้ำว่าเป็นอย่างไร หากนำมาเชื่อมเกาะในประเทศไทยถือเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตาม เมื่อความเจริญมาหลายคนอาจกังวล แต่ความมั่นคงต้องมากับความมั่งคั่ง บ่ายวันเดียวกันนี้ตนจะประชุมร่วมกับรักษาการผบ.ตร. เพื่อดูแลปัญหามาเฟีย ยาเสพติด อะไรไม่ถูกต้องเราจะจัดการ รวมถึงจะดูเรื่องการพัฒนาน้ำประปาที่ขาดแคลน ขอให้เชื่อว่าเราใส่ใจจริง

สั่งเร่งสร้างสะพานยกระดับเร็วขึ้น

จากนั้นเวลา 11.10 น. นายกฯไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข 4027 (ทางเลี่ยงเมือง) ตอนบ้านเมืองใหม่ – แยกเข้าสนามบิน ระหว่างกม.18+850 – กม.20+800 อ.ถลาง โดยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทางหลวงหมายเลข 4027 (ทางเลี่ยงเมือง)ว่า รัฐบาลมอบเงินงบประมาณจากปี 2568 มาดำเนินการก่อสร้างให้ทันภายในปี 2569 โดยก่อสร้างเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งนายกฯขอให้เริ่มโครงการเร็วขึ้นเป็นเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม นายกฯยังกล่าวชื่นชม ผู้สมัครสส.จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ผลักดันโครงการต่างๆอย่างอุโมงค์ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรในจ.ภูเก็ต เพราะเชื่อว่าเป็นมืออาชีพทุกคนและทำได้อยู่เเล้ว

จี้กวาดล้างมาเฟียต่างชาติ

เวลา 12.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นายกฯพร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และคณะเดินทางมามอบนโยบายแก่ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยนายเศรษฐาได้รับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานของตำรวจในพื้นที่ โดยเรื่องแรกเป็นเรื่องที่พักอาศัยของตำรวจ 17,730 นาย และมีที่พักอาศัย 8,500 ห้อง ซึ่งได้รับปีงบประมาณปี 2567-2568 มาปรับปรุงที่อยู่อาศัย ซึ่งนายกฯย้ำว่า ต้องการให้ใช้โมเดลที่พักข้าราชการตำรวจ ตามที่ได้สั่งการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาใช้กับจ.ภูเก็ตด้วย

ขณะที่การดำเนินการกวดขันจับกุมชาวต่างชาติ ที่ทำผิดกฎหมาย ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในจ.ภูเก็ตประมาณ 1.4 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติรัสเซียมากที่สุด ซึ่งพบผู้ทำผิดเป็นชาวต่างชาติ และดำเนินคดีเพิกถอนการอยู่ต่อตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบันจำนวน 98 ราย พบเป็นชาวจีนและเมียนมา

ตั้งศูนย์ปราบธุรกิจต่างด้าว169จุด

นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ศปปธ.) พร้อมตรวจสอบข้อมูลบริษัท มีชาวต่างชาติถือหุ้นในภูเก็ต 10,291 บริษัท โดยมีบริษัทที่มีลักษณะต้องสงสัย มีพิรุธ จดทะเบียนหลายบริษัทในที่ตั้งเดียวกัน 169 เป้าหมาย รวมถึงยังมีรายงานสถานการณ์ลักลอบนำเข้ายางพาราเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566-31 มี.ค.กว่า 67,445 กิโลกรัม และปาล์มน้ำมัน 8,180 กิโลกรัม การจับกุมกวาดล้างแก๊งเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มนายทุนหนุนหลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนระนอง

ย้ำยกระดับความมั่นคงภูเก็ต-จับยาแก้หนี้

นายเศรษฐากล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ตนมาภูเก็ตเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่เป็นนายกฯ การพัฒนาภูเก็ตเป็นความสำคัญต้นๆของรัฐบาล เพราะเราต้องพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อมีความมั่งคั่งถ้าไม่มั่นคงความมั่งคั่งจะพังทลาย ยาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการจับยาเสพติดจำนวนมาก แต่ปัญหายาบ้าไม่ลดลง ที่ตั้งKPIมาถือว่าต่ำไปมาก ต้องจัดการให้มากกว่านี้ ที่จับกุมมาคือ รายเล็กทำไมไม่จับรายใหญ่

ส่วนการพนันออนไลน์นายกฯระบุว่า ประชาชนเดือดร้อน ตัวเลขจับกุมยังน้อยอยู่ ขอให้เร่งจับกุมต่อไป หนี้นอกระบบก็เป็นปัญหาเรื้อรัง ให้ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองจัดตลาดนัดแก้หนี้ อย่าให้มีการข่มขู่ลูกหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเข้ามาช่วยดูแลเกี่ยวกับเงินสด เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ หลังจากวันนี้ ขอให้ไปสุมหัวช่วยกันคิดว่าทำให้แข็งแรงขึ้นอย่างไร ขณะที่เรื่องยางพาราก็สำคัญชายแดนไทยติดพม่ากว่า 2,000 กิโลเมตร ด่านใหญ่สกัดอยู่ เขาจึงลักลอบนำเข้ายางเถื่อนตามตะเข็บชายแดน จึงขอให้เข้มแข็งขึ้น

ลั่นดูแลให้ดีอย่าให้ลงทุนสูญเปล่า

“การป้องกันการทำผิดของชาวต่างชาติก็เป็นเรื่องสำคัญ มีเครือข่ายด้านธุรกิจทำตัวนอกเหนือกฎหมาย ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลลงทุนที่ภูเก็ตเป็นแสนล้าน แต่ถ้ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นกรณีเดียวจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำมาหากินอย่างไม่ถูกต้อง ที่ลงทุนจะพังพินาศได้ ขอให้ช่วยกันดูให้ดี เพราะเราลงทุนไปสูง ไม่อยากให้น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นปัญหาให้เรื่องที่เราทำเสียหาย โดยฝากผู้สมัครส.ส.เป็นหูเป็นตา อย่าให้การลงทุนสูญเปล่า” นายกฯกล่าวย้ำ

ย้ำเข้มกม.เรียกความมั่นใจนทท.

นายกฯยังกล่าวถึงกรณีมีการร้องเรียนเหตุทะเลาะในสวนน้ำแห่งหนึ่งในจ.ภูเก็ต แต่เรื่องเงียบ ไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องจริงปกปิดไม่มิด ผู้เกี่ยวข้องไปเอาความจริงมาให้ได้ เพราะเรื่องไปที่รัฐสภาแล้ว ต้องดูแลเป็นพิเศษอย่าจับแต่รายย่อย จับรายใหญ่ให้ได้สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าไทยบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดเน้นถูกต้องเป็นธรรม

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่างไรก็ตามการพัฒนา จ.ภูเก็ต มีเรื่องที่หนักใจคือการประกอบธุรกิจโรงแรมที่ผิดกฎหมาย เป็นความโชคไม่ดีของฝ่ายความมั่นคงที่เป็นปลายน้ำมาดูแลใบอนุญาตที่ไม่ถูกต้อง ดูแลเรื่องทางหนีไฟ ถ้าเกิดเหตุจะเป็นประเด็นอีก ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่แล้วใช้พาสปอร์ตเป็นหลักฐานการเช่ารถ เมื่อถูกจับกุมทำให้ไม่มีเอกสารยืนยันนั้น อาจถูกมองว่าเราเข้มเกินไปกลัวนักท่องเที่ยวไม่พอใจ แต่ยืนยันว่ากฎหมายต้องมาก่อน ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่ทำตามกฎหมาย ซึ่งถ้าเขาไม่มาเพราะเราบังคับใช้กฎหมายเข้มก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นนักท่องเที่ยวไม่มีคุณภาพ

ชี้ยกเป็นเขตศก.พิเศษไม่กระทบท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการผลักดันให้ จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจะดำเนินการอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ตนยังไม่ได้หนังสือข้อเสนอดังกล่าว หากได้รับต้องพิจารณาว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษคืออะไร แต่ต้องดูว่าหากเป็นโรงงานอุตสาหกรรมอาจไม่เหมาะสม เพราะเราเน้นเรื่องท่องเที่ยว หากการยกระดับ จ.ภูเก็ต ในธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวตนยินดี

เมื่อถามย้ำว่า หากจะยกเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะด้านท่องเที่ยวจะสามารถทำได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ต้องยกระดับเพราะเกาะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีศักยภาพสูงซึ่งเราจะยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งการสร้างเศรษฐกิจพิเศษต้องไม่เป็นภัยกับการท่องเที่ยว ถ้าเป็นไปได้อาจต้องเป็นเศรษฐกิจพิเศษเชิงวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมพื้นบ้านและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้