โผล่อีกเหยื่อพลทหารกับพวกฉายา "แก๊งนักรบ" ประจำอำเภอละหานทราย บุรีรัมย์ ทั้งไล่ยิงฟันแทงกระทืบปาหินใส่วันสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ อปพร.ประจำด่านตรวจหน้าเทศบาลเห็นเหตุการณ์ตะโกนให้หยุดไม่ยอมฟัง ทำให้มีเยาวชนและวัยรุ่นบาดเจ็บเกือบ 10 คน แจ้ง ตร.ผ่านไป 10 วันผู้ก่อเหตุยังลอยนวล ขณะผู้บังคับบัญชาพาพลทหารหนึ่งในผู้ก่อเหตุเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว

จากกรณีที่นายวิ่ง และนางสาวกุลนันท์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายระพีพัฒน์ หรือแพต อายุ 16 ปีได้นำคลิปหลักฐานขณะลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกายและใบรับรองแพทย์ประกอบกับรักษาตัว ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากนายแพต ลูกชาย ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับรุ่นพี่ที่ อ.โนนดินแดง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.67 ที่ผ่านมา แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5-6 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นพลทหารที่ค่ายแห่งหนึ่งในจ.นครราชสีมา รุมทำร้ายร่างกายลูกชายได้รับบาดเจ็บศรีษะแตกเลือดอาบจนสลบ หลังแจ้งความผ่านไปเกือบ 10 วันผู้ก่อเหตุยังไม่ถูกจับกุมสักคน แถมหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ยังโพสต์เยาะเย้ยไม่สำนึกและข่มขู่จะเอาชีวิตเยาวชนอายุ 16 ปีด้วย ทำให้ครอบครัวเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุดวันนี้ (25 เม.ย.67) ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.โนนดินแดง ท้องที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามความคืบหน้าทราบว่า เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่ง ที่จ.นครราชสีมา ได้พานายจิระวัฒน์ หรือ อาจิว อายุ 22 ปี พลทหาร ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายแพต เยาวชน อายุ 16 ปี มาแสดงตัวกับ ร.ต.อ.จักรพันธ์ สุขเติม พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดงว่าไม่ได้หลบหนีและแจ้งว่าจะปลดประจำการสิ้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งหลังจากปลดประจำการแล้วก็จะมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง ทั้งนี้ทางต้นสังกัดยังได้กล่าวขอโทษครอบครัวและมอบเงินเยียวยาส่วนหนึ่งด้วย ขณะที่พนักงานสอบสวนก็เตรียมเรียกผู้ที่ร่วมก่อเหตุรุมทำร้ายอีก 5 คน มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเข้าข่ายผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีเยาวชน และวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 14 - 20 กว่าปีที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 คนที่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ อ.โนนดินแดง ได้นำคลิปเหตุการณ์ออกมาร้องเรียนว่าถูกพลทหารคนเดียวกับที่ทำร้ายน้องแพต กับพวกอีกประมาณ 30 คน ซึ่งมีฉายาว่า “แก๊งนักรบ” รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเกือบ 10 คน ในคืนวันที่ 15 เม.ย.67 

โดยพลทหาร และพวกได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ขณะกลุ่มผู้บาดเจ็บขับรถผ่านบริเวณหน้าตลาด อ.โนนดินแดง ทำให้สะเก็ดปืนโดนคนในรถบาดเจ็บ 2 คน ทางกลุ่มผู้บาดเจ็บต่างพากันหมอบหลบกระสุนแต่บางคนก็ใช้ขวดที่อยู่ในรถปาใส่เพื่อป้องกันตัว และพยายามขับหนี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขับขี่รถจักรยานยนต์มากกว่า 20 คนไล่ติดตาม ไปตามถนนสายโนนดินแดง - ละหานทราย ก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่อีกแต่ไม่โดน กระทั่งรถอีแต๋น ที่ฝั่งผู้บาดเจ็บนั่งไปเล่นสงกรานต์ เกือบดับช่วงขึ้นเนินหน้าที่ทำการเทศบาลสำโรงใหม่ อ.ละหานทราย กลุ่มผู้ก่อเหตุกว่า 10 คนที่ขับ จยย.ไล่ตามมา ก็พากันกรูเข้าไปทำร้าย ทั้งใช้มีดฟัน แทง ขวด และก้อนหินปาใส่  บางคนก็ใช้กำลังรุมกระทืบ ทำให้มีคนถูกมีดแทง ฟันตามร่างกาย ขวด ก้อนปาศรีษะแตก และกระทืบสลบเกือบ 10 คน   

ซึ่งขณะเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ อปพร.ที่อยู่ประจำด่านตรวจชุมชนหน้าเทศบาล ที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตะโกนให้หยุดทำร้าย แต่ก็ไม่ยอมฟังยังทำร้ายต่อจนบางคนสลบ บางคนถูกแทงบาดเจ็บก็ตะเกียกตะกายหนีเอาตัวรอด ก่อนจะมีรถกระบะของรุ่นพี่หมู่บ้านเดียวกันที่ไปเล่นสงกรานต์ด้วยกัน ขับตามมา และรีบพาส่ง รพ.และแจ้งตำรวจ 

จากการสอบถามนายก้อง อายุ 16 ปี หนึ่งในเยาวชนที่ถูกแทงบาดเจ็บ เล่าว่า ตนกับวัยรุ่นและรุ่นพี่ในหมู่บ้านได้พากันไปเล่นสงกรานต์ที่ อ.โนนดินแดง ทั้งหมด 3 คันคันที่ถูกรุมทำร้ายเป็นรถอีแต๋น ส่วนอีก 2 คันเป็นกระบะ ก็เล่นสงกรานต์ตามปกติไม่ได้มีปัญหากับใคร แต่พอช่วงขากลับได้มีพลทหารกับพวกมากดักยิง ก่อนจะขับ จยย.ไล่ตาม จนรถอีแต๋นเกิดดับกลางทาง กลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครบ้างก็กรูเข้าไปรุมทำร้ายทั้งใช้มีดฟัน แทง กระทืบ ปืนตบจนบางคนสลบ ส่วนตนเองถูกแทงกลางหลัง 2 แผลเย็บ 15 เข็ม หูขวาถูกคราดเกี่ยวเกือบขาด นอนรักษา 3 วัน ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับกลุ่มดังกล่าวก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงตามมาทำร้าย อยากให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีทุกคน

ด้านนายศักรินทร์ หรือคิว อายุ 21 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่ถูกฟันและหินทุบหัวอีกราย เล่าว่า ก็ไปเล่นน้ำสงกรานต์สนุกสนานตามปกติไม่ได้มีปัญหากับใคร คาดว่าที่กลุ่มดังกล่าวซึ่งมีฉายาว่า “แก๊งนักรบ” น่าจะก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง เพราะคิดว่าตัวเองมีอาวุธ  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนถูกกลุ่มนี้ทำร้ายหลายคน แต่ก็ไม่เห็นถูกจับคงจะเกิดความย่ามใจ ก่อเหตุกับคนอื่นอีกทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวทุกคนที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย - 003