เติมน้ำมัน ได้น้ำเปล่า! รถเครื่องพัง ซ่อม 1.2 แสน เจ้าของปั๊มบอกแพงไป เถียงกันทั้งรายการ สุดท้ายเคลียร์กันจนจบ

วันที่ 30 เมษายน 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันกรณี คุณมิกซ์ สาวผู้เสียหายไปเติมน้ำมันรถกระบะ ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี ยังไม่ทันออกจากปั๊ม เครื่องพัง เพราะน้ำมันที่เติมมีน้ำผสม ค่าซ่อมเป็นแสน สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ มีปัญหากับเจ้าของปั๊มในเรื่องการชดใช้เยียวยา

คุณมิกซ์เล่าว่า รถของตน กระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ซื้อมือสองมา เลขไมล์อยู่ที่ประมาณ 3 แสนกิโล แต่ดูแลมาอย่างดี น็อตไม่เคยขยับ ไม่เคยชน เข้าศูนย์เช็กระยะตลอด อะไหล่แท้ไม่เคยเปลี่ยน 
เหตุการณ์เกิดขึ้น 22 เมษายนที่ผ่านมา ตนเองและแฟน เดินทางไปอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปดูสถานที่ สำหรับการทำกิจกรรมอาสาเอาของไปบริจาคให้กับโรงเรียนในชนบท ซึ่งขากลับ รถกระบะฟอร์ด 4 ประตูของตนเองน้ำมันใกล้หมดสามารถวิ่งได้อีก 6 กิโลเมตร

ตนจึงหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งก็มีแค่ปั๊มนี้ ปั๊มเดียว พอเลี้ยวรถเข้าไปก็สั่งพนักงานเติมน้ำมัน ดีเซล B7 จำนวน 1,000 บาท ขณะเติมยอมรับว่าสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้อยู่ เติมได้ประมาณไม่ถึง 10 นาที เครื่องมีอาการสั่นและกระตุก แล้วก็ดับ จากนั้นมีสัญญาณเตือนขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถ " Water in fuel drain filter มีน้ำในถังน้ำมันและ ท่อกรอง"

ตนและแฟน ก็ลงไปสอบถามกับพนักงาน ระหว่างที่พนักงานตรวจสอบ ปรากฏว่า มีชาวบ้านคนอื่นๆเดินทางมาโวยที่ปั๊มเหมือนกันว่า รถตัวเองก็เสียหลังจากเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้ได้ไม่นาน มีรถอีแต๋น, รถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ของชาวบ้าน รวมประมาณ 3 คัน

ตนจึงบอกพนักงานว่าอาจจะเกิดจาก น้ำเข้าไปปนกับน้ำมันจึง ให้ทดสอบด้วยการ กดหัวจ่าย ใส่ถังน้ำ ปรากฏว่าไหลแรงมาก เหมือนน้ำก็อก แต่ที่ไหลออกมาดูเหมือนไม่มีน้ำมันเจือปนอยู่เลย ดูจากภาพนิ่งจะเห็นว่าจะมีคราบน้ำมันลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำเล็กน้อย

พนักงานปั๊มเห็นแบบนั้นก็ตกใจรีบโทรศัพท์ ตามเจ้าของปั๊ม พอเจ้าของปั๊มมาถึง ก็ยอมรับว่ามีน้ำเข้าไปปนในถังน้ำมันจริงแต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเข้าไปบนได้อย่างไรซึ่งบอกกับผู้เสียหายว่ายินดีรับผิดชอบ ค่าซ่อมค่าเสียหายทั้งหมด

ทางเจ้าของรถฟอร์ดก็ตามประกันและเรียกรถยกมาค่ารถยก 7,000 กว่าบาท ทางเจ้าของปั๊มบอกว่าแพงเดี๋ยวเอารถยกแถวนี้ ราคา 3,500 บาท หลังจากยกรถกลับมาเข้าศูนย์เพื่อเช็ก ราคาค่าซ่อมแซม อยู่ที่ 120,000 กว่าบาท

เจ้าของปั๊มขอต่อราคาและบอกให้ไปหาซ่อมอู่ถูกๆ ซึ่งตนเองและแฟนก็ไปตระเวนหาอู่ซ่อมรถ แต่ไม่มีอู่ไหนที่รับทำ เพราะระบบของรถต้องเข้าศูนย์เฉพาะทาง ถึงมีอู่ที่รับทำถ้าเปลี่ยนอะไหล่แท้ ราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก เจ้าของปั๊มบอกด้วยว่า มีให้แค่ 30,000 บาท ราคาที่เสนอมาแพงเกินไป รถชาวบ้าน อีก 3 คันซ่อมยังไม่แพงเท่านี้

ตนและแฟนเห็นท่าไม่ดีจึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาหลังจากนั้นพยายามติดต่อเจ้าของปั๊มน้ำมัน แต่เจ้าของปั๊มน้ำมันเงียบกริบ ตำรวจบอกว่ามันเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญาตำรวจทำได้เพียงเชิญเจ้าของปั๊มมาให้ข้อมูลซึ่งพยายามติดต่อไปแล้วแต่เจ้าของปั๊มบอกว่าไม่ว่าง ตำรวจก็จะไปเคี่ยวเค้นกดดันมากไม่ได้

ตนและแฟน รู้สึกหมดหนทางมืดแปดด้าน จึงโพสต์ลงโซเชียลขอให้มีคนมาช่วยเหลือ ตอนนี้ลำบากมากเพราะเป็นรถคันแรกและรถคันเดียวของครอบครัว ทุกวันนี้ต้องเช่ารถรายวัน วันละพันกว่าบาท ส่วนรถฟอร์ดที่พังยังจอดอยู่ที่ศูนย์ฯ ยังไม่ได้ซ่อมเพราะยังไม่มีใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 120,000 บาท , ตน รู้สึกเครียดจนอยากคิดสั้น จึงอยากวอนขอให้เจ้าของปั๊มช่วยเห็นใจ รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

ด้าน คุณแอน เจ้าของปั๊ม บอกว่า ปัญหาทั้งหมด ยืนยันว่าเราไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราพยายามแสดงความรับผิดชอบ ไม่ได้หายไปไหน ทุกเคสที่มาเติมน้ำมันที่ปั๊มแล้วเกิดปัญหา เราก็ยอมจ่ายทั้งหมด 

ตอนแรกเราให้เขา เรียกประกันของเขามา รถสไลด์ของประกันเขาเอา 7.5 พันบาท เราก็เสนอว่า เอารถสไลด์ในพื้นที่ใกล้ปั๊มเราไหม 3.5 พันบาท เขามีปัญหาว่าต้องการอไหล่แท้เท่านั้น จะซ่อมศูนย์ หรือซ่อมอู่ก็ตาม ขอการันตีอะไหล่แท้ แต่ปัญหาก็คือ ตอนที่เขาส่งใบประเมินมา 1.2 แสนบาท เป็นใบประเมินจากทางศูนย์ฟอร์ด เราบอกว่ามันเกินไป ขอให้เขาช่วยลองหาอู่ได้ไหม ซ่อมอู่อาจจะค่าใช้จ่ายลดลงมากว่านี้ 

เรามีการจรจากันแล้วกันอีก สุดท้ายคุณแอนบอกว่า เราไม่รู้เลยว่าค่าใช้จ่ายกลางจริงๆ มันต้องเป็นเงินเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจขอให้คุณมิกซ์กลับไปใช้ประกันภัยของเขาได้ไหม เพื่อให้ประกันของเขา มาหักกับประกันภัยของเรา เราจะเบิกประกันความเสียหายจากบุคคลภายนอกของเราเองอีกที

แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ จู่ๆ เขามาเรียกเงินจากเรา 5 หมื่นบาท บอกว่าถ้าไม่จ่าย 5 หมื่นนี้ เดี๋ยวไปเจอกันที่โหนกระแส จะโพสต์โซเชียล ทำให้เราเสียหาย ซึ่งเราก็ไม่มีเงินจะจ่าย แล้วเขาก็ไปโพสต์จริงๆ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า 5 หมื่นนี้ เป็นค่าอะไร

ขณะที่คุณมิกซ์ บอกว่า ที่ไปเรียกเงิน 5 หมื่น ไม่ใช่เป็นการข่มขู่เอาเงิน แต่เพราะว่าตนต้องใช้รถทำงาน ต้องเอารถไปซ่อมศูนย์เพื่อให้ซ่อมเสร็จเร็วที่สุด แต่พอตกลงกันไม่ได้ ก็คิดว่า ให้เขาจ่าย 5 หมื่น แล้วส่วนเกินไปจนถึง 1.2 แสน ตนจะออกเอง จะได้จบๆ กันไป แต่สุดท้ายคุณแอนก็บอกว่า ถ้ายอมจ่าย ตนก็ไปเบิกกับประกันของตัวเองไม่ได้อยู่ดี

ขณะที่ คุณบอมบ์ อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ ฟังทั้งสองฝ่ายแล้ว ให้ความเห็นว่า หากสองฝ่ายให้ประกันไปคุยกัน ตกลงกันเอง มันจะไม่มีปัญหาแบบนี้เลย แต่สองฝ่ายไปคุยไปดีลกันอย่างไร เถียงกันในเรื่องข้อเท็จจริงแบบนี้ก็คงไม่มีใครบอกได้ แต่เชื่อว่ามันยังหาข้อสรุปได้ไม่ยาก

ถามว่าค่าซ่อม 1.2 แสนมันเกินไปไหม ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เกินจริง เพราะไม่ว่าจะซ่อมศูนย์ หรือซ่อมอู่ เขาก็ต้องรับประกันงานซ่อมของเขา เพราะฉะนั้น อะไหล่จะเก่าจะใหม่ไม่เกี่ยว เมื่อมันมีปัญหา หรือสันนิษฐานว่ามีปัญหา ก็ต้องเปลี่ยนชิ้นทั้งหมด 

หนึ่งในเรื่องที่ต้องฝากถึงทุกคนที่ดูรายการอยู่ คือ เวลาเติมน้ำมัน ต้องดับเครื่องยนต์ ถ้าเจ้าของรถดับเครื่องตอนที่เติมน้ำมัน จะไม่เสียหายหนักขนาดนี้ เพราะเวลาเติมน้ำมัน น้ำมันมันจะต้องพักในถัง มีกรอง คอยกรองน้ำเปล่า พอไฟมันโชว์เราก็รีบดับเครื่อง ความเสียหายจะไม่เยอะขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่ต้องฝากไปถึงทุกคนเลย ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน

สุดท้ายสองฝ่าย ในเรื่องนี้ ในเมื่อเจ้าของปั๊มไม่ได้หนีหายไปไหน ก็อยากให้เจรจาหาตรงกลาง มาเจอกันให้ได้ ในเรื่องค่าเช่ารถ ค่าเสียเวลาต่างๆ นานา ในทางกฎหมายถ้ามีการละเมิด ผู้ละเมิดต้องจ่าย ต้องชดใช้อยู่แล้ว 

ปัจจุบันรถของคุณมิกซ์ ส่งไปที่อู่ของทางประกันเป็นที่เรียบร้อย รอประเมินราคาซ่อม ส่วนค่าเสียหาย ค่าเสียเวลาต่างๆ คุณมิกซ์ขอไม่เอาในส่วนนี้ แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนที่มีปัญหา ก็จะรวบรวมให้คุณแอนจ่ายตามจริง

สุดท้ายทั้งสองคนตกลงกันได้ เจรจาขอโทษขอโพยกัน โดยที่คุณมิกซ์ยืนยันว่าจะลบโพสต์ต่างๆ ให้ ส่วนทางคุณแอนก็จะโอนค่าใช้จ่ายในส่วนเกินจากค่าซ่อมให้เลย