ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับ สภาองค์กรของผู้บริโภค สสส. ร่วมเวทีขับเคลื่อนโรงเรียนศูนย์เรียนรู้ เพื่อรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย
1 พ.ค.67 รองศาสตราจารย์อิสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมเวที 'สานพลัง ขับเคลื่อนโรงเรียนศูนย์เรียนรู้ เพื่อรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย' ร่วมกับ สภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ชี้ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดกับรถรับส่งนักเรียนเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรตระหนัก ย้ำทุกภาคส่วนควรร่วมมือและสนับสนุนหลักเกณฑ์การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยทั้งระบบเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติ ยกระดับระบบความปลอดภัยนำไปสู่สวัสดิภาพการเดินทาง และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของเด็กนักเรียน
รองศาสตราจารย์อิสสรีย์ เผยว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมเวทีกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยไปอีกขั้น เพื่อยกระดับสวัสดิภาพความปลอดภัยในการเดินทางแก่เด็กนักเรียน โดยเฉพาะในช่วงที่จะเปิดเทอมอันใกล้นี้ หลังจากที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินพบปัญหาอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถรับส่งนักเรียน และเหตุการณ์ลืมนักเรียนในรถขนส่งนักเรียนเพิ่มขึ้น และเนื่องจากยังไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการรถรับส่งนักเรียนที่สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ดังนั้น เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้จัดทำโครงการศึกษาเชิงระบบ เรื่อง มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน โดยได้ลงพื้นที่หลายจังหวัด อาทิ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดหนองคาย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนการประชุมร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงมหาดไทย สภาองค์กรของผู้บริโภค และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้สรุปจัดทำรายงานพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไป เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566
โดยเสนอแนะให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันภายใต้กลไกคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทุกจังหวัดกำหนดให้มีแผนยุทธศาสตร์หรือคณะทำงานด้านความปลอดภัยรถรับส่งนักเรียนในทุกจังหวัดและเพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือและสนับสนุนหลักเกณฑ์การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยทั้งระบบในทุกขั้นตอน รวมทั้งการส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการประกอบอาชีพรถรับส่งนักเรียนและจิตบริการ ตลอดจนการจัดบริการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถ โดยเสนอให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข สภาองค์กรของผู้บริโภค ศูนย์วิชาการ เพื่อความปลอดภัยทางถนน ตลอดจนภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 คณะรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้กระทรวงมหาดไทยสรุปผลการพิจารณา ผลการดำเนินการ และความเห็นในภาพรวม แล้วนำส่งให้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีดำเนินการ
"ในเวทีวันนี้ สะท้อนให้เห็นความร่วมมือของทุกฝ่ายในการสนับสนุนการขับเคลื่อนการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เห็นได้จากการ นำร่อง 20 โรงเรียนต้นแบบศูนย์เรียนรู้การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย รวมถึงทิศทางนโยบายการจัดการรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องย้ำว่าต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาจากต้นตอในทุกมิติได้เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ ไม่ให้เกิดความสูญเสียซ้ำ และยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กและเยาวชนด้วยรถรับส่งนักเรียนอย่างยั่งยืนต่อไป" รองศาสตราจารย์อิสสรีย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี