ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสวนในพื้นที่ จ.หนองคาย หลายแห่ง มีการปลูกพริก และพืชระยะสั้น สลับกับปลูกใบยาสูบ เพราะดินที่ติดกับแม่น้ำโขงนั้นจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุบำรุงดินปลูกพืชได้ผลผลิตดี ผลผลิตงามและดก ซึ่งพริกเป็นพืชระยะที่นิยมปลูกกันมาก มีตลาดรองรับ จนไม่พอขาย โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับ นายพิช มณีทอน อายุ 66 ปี เกษตรกรชาวสวนพริก อ.เมืองหนองคาย ซึ่งกล่าวว่า “ปลูกพริกสลับกับใบยาสูบมานานกว่า 40 ปี บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ริมแม่น้ำโขง โดยพริกที่ปลูกไว้จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงหน้าสวนในราคา 12 กก. 800 บาท หรือเฉลี่ยขายส่งพริก กิโลกรัมละ 67-68 กก. ซึ่งขณะนี้พริกเริ่มจะขาดตลาด เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งอากาศร้อนจัดเมื่อช่วงที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ชาวสวนพริกต้องเร่งเก็บผลผลิต เพราะหากมีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันจะทำให้ต้นพริกเน่าตาย อาจทำให้ราคาพริกสูงถึง 12 กก. 1,300 บาท เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา โดยในแต่ละวันจะมีชาวบ้านมารับจ้างเก็บพริก คิดอัตราค่าแรงเก็บพริกวันละ 10 บาทต่อ 1 กก. แต่ในช่วงนี้มีการขอปรับขึ้นราคาตามราคาพริกที่แพงขึ้นเป็น กก.ละ20 บาท ในหนึ่งวันจะต้องจ่ายค่าแรงเก็บพริกคนละประมาณ 400 บาท ซึ่งเมื่อหมดหน้าพริกแล้วเกษตรกรก็จะทำการปรับหน้าดินเตรียมพื้นที่ปลูกใบยาสูบกันต่อไป”