ปปง.แจงมาตรการจัดระเบียบชื่อซิม ชื่อบัญชีอีแบงค์กิ้งต้องตรงกัน เผยพบ 30-50 ล้านบัญชี เริ่มส่งให้ กสทช.ตรวจสอบแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ระงับธุรกรรม
วันที่ 27 พ.ค.67 พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (รองเลขาฯป.ป.ง.) เปิดเผยว่า มาตรการสกัดกั้นซิมผีบัญชีม้าในระบบการเงินออนไลน์ (mobile banking) ที่ประกาศเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันนี้ เป็นการเริ่มตรวจสอบ โดยธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีบัญชีในระบบ 106-107 ล้านบัญชี จะส่งข้อมูลให้ กสทช.ตรวจสอบว่ามีกี่บัญชีที่เจ้าของซิมและบัญชี ไม่ใช่ชื่อเดียวกัน โดยวันนี้จะยังไม่เริ่มปิดกั้นการโอนเงินผ่านอีแบ็งก์กิ้ง แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของบัญชีที่มีชื่อไม่ตรงกับซิมโทรศัพท์ได้เข้าไปชี้แจงข้อมูลกับธนาคารและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ หากเปลี่ยนได้ให้แจ้งเปลี่ยนให้ชื่อตรงกัน โดยการตรวจสอบจะใช้เวลา 120 วัน เบื้องต้นธนาคารประมาณการว่ามีบัญชีที่เจ้าของชื่อไม่ตรงกับซิมประมาณ 30-50 ล้านบัญชี โดยหากเจ้าของบัญชียังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ทาง ปปง. จึงจะเพิ่มมาตรการสกัดกั้นการใช้บริการระบบการเงินออนไลน์
อย่างไรก็ตาม มี 3 กลุ่มที่ ชื่อบัญชีและ ซิมไม่ตรงกันและให้แจ้งธนาคารได้ ให้เป็นดุลยพินิจของธนาคาร ว่า เสี่ยงเป็นบัญชีม้าหรือไม่ ได้แก่ 1.กลุ่มบุคคลในครอบครัว เช่น ชื่อซิมพ่อ บัญชีลูก หรือชื่อซิมลูกบัญชีพ่อแม่ที่สูงอายุ 2.กลุ่มคนที่ต้องดูแลตามคำสั่งศาล และ3.เลขหมายเบอร์โทรภาครัฐหรือบริษัท เลขบัญชีพนักงาน 3 กลุ่มนี้ขอให้ทำหนังสือหรือเข้าชี้แจงตัวตนกับธนาคาร กรณีหมายเลขโทรศัพท์องค์กร ก็ขอให้มีหนังสือจากองค์กรแจ้งต่อธนาคารก็สามารถใช้โมบายแบงกิ้งได้ปกติ การคัดกรองจะเน้นที่บัญชีที่ชื่อไม่ตรงซิม ที่เปิดในช่วง1-2 ปีก่อน ส่วนที่เปิดมานานและไม่เสี่ยงเป็นบัญชีม้า จะติดตามให้เจ้าของแก้ไขหรือแจ้งเหตุที่ชื่อไม่ตรงกับธนาคาร โดยข้อความแจ้งถึงเจ้าของบัญชี ธนาคารจะส่งตรงทางแอพฯธนาคารเท่านั้น ไม่มีการส่งเอสเอ็มเอส ดังนั้นหากมีข้อความทางเอสเอ็มเอสในเรื่องอย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด
รองเลขาธิการปปง. กล่าวด้วยว่า มาตรการนี้เพื่อจัดการกับปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ที่ใช้บัญชีม้า ซิมผีจำนวนมาก ปัจจุบัน มีคดีถูกหลอกจากคอลเซ็นเตอร์มากถึงกว่า 5 แสนคดีแล้ว ทยอยจับกุมได้หลักพันคดี จึงต้องเพิ่มมาตรการเข้มข้น ซึ่งมาตรการชื่อซิมกับเจ้าของบัญชีต้องตรงกัน เป็นมาตรการที่ประเทศทั่วโลกใช้ ประเทศไทยจึงต้องจัดระบบ เพราะที่เป็ยอยู่ชื่อไม่ตรงกันเป็นช่องโหว่ให้คอลเซ็นเตอร์ใช้หลองลวงสร้างความเสียหาย ทำให้มีเหยื่อถูกหลอกจำนวนมาก ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับ ปปง. และธนาคารจึงเริ่มมาตรการนี้อย่างเข้มข้น หากทำได้สำเร็จ จะปราบปราม เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ที่ประเมินว่ามีกว่าหลายแสน หรือมากถึงล้านบัญชีได้แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี