วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ไทยถอนสัญชาติ‘ลียง พัด’
สว.กัมพูชาเอี่ยวสแกมเมอร์
ปปง.ยึดทรัพย์แล้ว70ล้าน
“อนุทิน”เซ็นถอนสัญชาติไทย“ลียง พัด” สว.กัมพูชา เกี่ยวข้องเชื่อมโยงแก๊งสแกมเมอร์ หลัง ปปง. ดำเนินการอายัดทรัพย์ไปแล้ว 70 ล้านบาท และพบว่ามีบัตรประชาชนไทย
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย ถอนสัญชาติไทย นายพัด สุภาภา หรือ ลียง พัด โดยเนื้อหาระบุว่า ด้วยปรากฏว่า นายพัด สุภาภา หรือ ลี ยง พัด บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งได้รับสัญชาติไทย โดยการแปลงสัญชาติมีพฤติการณ์ยังคงใช้สัญชาติกัมพูชา ประกอบกับได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่แสดงว่า มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ฉ้อโกงประชาชน จนถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติแห่งสหรัฐอเมริกา คว่ำบาตร เนื่องจากมีลักษณะพิเศษในการถูกอายัดทรัพย์สินเพราะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และหลอกลวงไซเบอร์เห็นว่าพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดประโยชน์ต่อรัฐ และขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อยู่ในข่ายถูกถอนสัญชาติได้ตามมาตรา 19 (2) (3) (4) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 และหากปล่อยไว้เนิ่นช้าออกไปจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชนและสาธารณะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ให้ถอนสัญชาติไทยของ นายพัด สุภาภา หรือ ลี ยง พัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลี ยง พัด หรือชื่อไทยว่า พัด สุภาภา เป็นสมาชิกวุฒิสภา(สว.) และนักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนและไทยเกาะกง เจ้าของบริษัท แอลวายพีกรุ๊ป (LYP Group) และมีชื่ออยู่ในเครือข่ายสแกมเมอร์ รีสอร์ทโอเสม็ดคาสิโน ที่ตั้งอยู่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) กล่าวภายหลังการประชุมด่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรียกประชุมเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการของนายกรัฐมนตรีที่ได้มีการเรียกประชุมคณะอำนวยการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล
โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำแนวทางที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ โดยขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยกระดับการทำงานของศูนย์วอร์รูมที่จัดตั้งขึ้น ให้ทำงานร่วมกับธนาคารเพื่อดูแลเรื่องการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์ สามารถระงับการเคลื่อนย้ายเงินออกนอกประเทศได้มากกว่า 40%
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์บุคคลในเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบุคคลสองสัญชาติ เช่น กรณีของออกญา ลี ยง พัด หรือชื่อไทยว่า พัด สุภาภา สมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนและไทยเกาะกง เจ้าของบริษัทแอลวายพีกรุ๊ป (LYP Group)
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีหลักฐานแน่ชัดว่า พัด สุภาภา มีบัตรประชาชนของประเทศไทย แต่เป็นชาวกัมพูชา และมีชื่ออยู่ในเครือข่ายสแกมเมอร์ รีสอร์ตโอร์เสม็ดกาสิโน ที่ตั้งอยู่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยสำนักงาน ปปง.มีการอายัดทรัพย์ พัด สุภาภา เฉพาะในประเทศไทยไปแล้วประมาณ 70 ล้านบาท
ส่วนกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในประเทศกัมพูชามีการกระจายตัวและบางส่วนหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับมีการนำชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานเข้ามาซุกซ่อนร่วมด้วยนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเพียงกระแสข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ในการตรวจสอบยังไม่พบข้อเท็จจริงว่ามีการลักลอบนำชาวเกาหลีใต้เข้ามาในเมืองไทยผ่านช่องทางใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี