2 ปี "ผู้ว่าฯชัชชาติ" รายงานปชช."เปลี่ยน ปรับ"ยกระดับเมืองน่าอยู่ เน้นประสิทธิภาพ โปร่งใส นโยบายทำได้ 90% / ให้คะแนน 5 เต็ม 10 ลุยต่ออีก 2 ปี ชวนจับมือเปลี่ยนเมือง เพิ่มความสุขคน กทม. "รองผู้ว่าฯจักกพันธุ์"ประกาศลาออกทันที หากมีชี้หน้าทุจริต รถขยะ EV
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานประชาชน ครบรอบ 2 ปีการทำงาน ภายใต้ชื่องาน "2 ปี ทำงาน "เปลี่ยน ปรับ" ยกระดับเมืองน่าอยู่" พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การทำงานในอีก 2 ปีข้างหน้า ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เดิมกรุงเทพฯ เป็นเมืองเที่ยวสนุก แต่ประสิทธิภาพต่ำ ซึ่งทำให้คนเหนื่อยกับการใช้ชีวิตและการเผชิญกับปัญหาอุปสรรคมากมาย ดังนั้นสิ่งที่ได้ทำตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงมีการเปลี่ยนแปลงและปรับหลายด้าน เพื่อให้การทำงานและการแก้ไขปัญหามีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คนเหนื่อยน้อยลง และมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยได้ปรับเปลี่ยนด้านต่างๆ ดังนี้ เรื่องแรกปรับ Traffy Fondue ลดขั้นตอน เพิ่มโปร่งใส ตอบโจทย์ เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาของประชาชน เชื่อว่าสิ่งที่สะท้อนผ่านการร้องเรียน คือความเชื่อมั่นระหว่าง กทม.กับประชาชน ดังนั้น กทม.จึงมุ่งมั่นในการแก้ไขทุกๆ ปัญหาที่ประชาชนแจ้งเข้ามาอย่างเต็มที่
เรื่องที่ 2 ปรับทางเท้ามาตรฐานใหม่ คงทน คุ้มค่า คิดถึงทุกคน กทม.มุ่งมั่นทำทางเท้าให้เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย โดยยึดมาตรฐานทางเท้าที่แข็งแรง คงทน และสวยงาม 2 ปีได้ปรับปรุงไป 785 กม.เรื่องที่ 3 จัดระเบียบหาบเร่ - แผงลอย ให้ประชาชนเข้าถึงอาหารราคาถูกได้โดยไม่เบียดเบียนทางเดินเท้า ทำไปแล้ว 257 จุด พร้อมจัดระเบียบสายสื่อสารรกรุงรัง รวมระยะทาง 627 กม.รวมทั้งเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแสงสว่างเป็นหลอด LED เชื่อมระบบ IOT ตรวจสอบหลอดไฟดวงเสียได้อัตโนมัติและแก้ไขได้รวดเร็ว ให้คนกรุงเทพฯ เดินเท้ากลับบ้านอย่างสบายใจ เรื่องที่ 4 น้ำลดไว สัญจรทันใจ เศรษฐกิจไม่ติดขัด ตั้งแต่ถอดบทเรียนและรวบรวมข้อมูลจุดน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ ในปี 2565 พบจุดที่ต้องแก้ไข 737 จุด ขณะนี้แก้ไขแล้ว 370 จุด และจะแก้ไขได้ทันในปี 67 อีก 190 จุด และเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมก่อนที่จะเกิดฝน
เรื่องที่ 5 เพิ่มพื้นที่สาธารณะ ให้เมืองมีชีวิตเมืองที่ดี คือ เมืองที่มีพื้นที่สาธารณะ จะช่วยลดต้นทุนในการใช้ชีวิตให้กับประชาชน ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อจะเข้าถึงบริการต่างๆ และเพิ่มพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ มีการปรับปรุงอาคารลุมพินีสถานสู่ Performance Art Hub ของคนกรุงเทพฯ เสร็จในปี 68 และการเพิ่มสวนขนาดใหญ่ให้เป็นปอดฟอกอากาศ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนกรุงเทพฯ เช่นโครงการเชื่อมบึงหนองบอน-สวนหลวง ร.9 สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และ สวนกีฬาทางน้ำแห่งใหม่ที่บ่อฝรั่ง (ริมบึงบางซื่อ) และสวนป่าชุ่มน้ำบางกอก (เสรีไทย) ส่วนสวน 15 นาที สวนขนาดเล็กใกล้ชิดชุมชนระยะเดินไม่เกิน 15 นาที ล่าสุดเกิดขึ้นแล้วกว่า 100 แห่ง คาดว่าจะครบ 500 แห่ง ภายใน 4 ปี
เรื่องที่ 6 ปรับบริการสุขภาพ ปูพรมตรวจรักษาโรค สร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อลดข้อจำกัดการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของคนกรุงเทพฯ ปัญหาหมออยู่ไกล เข้าถึงยาก ไม่สะดวก เสียเวลา มีโครงการตรวจสุขภาพฟรี 1,000,000 คน ขยายการบริการของศูนย์บริการสาธารณะ รับตรวจรักษานอกเวลาจนถึง 2 ทุ่ม หรือเสาร์ - อาทิตย์ เรื่องที่ 7 โปร่งใสด้วยเทคโนโลยี คุ้มค่าเงินภาษี ตลอด 2 ปี ดำเนินการป้องกันและต่อต้านการทุจริตอย่างเข้มข้น มีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 781 เรื่อง มีมูลทุจริต 56 เรื่อง ถึงขั้นสอบสวนทางวินัย 44 เรื่อง ให้ออกจากราชการ 29 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณา 12 เรื่อง ส่งต่อให้ ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ท.5 เรื่อง และรวมศูนย์การขอใบอนุญาตไว้บนออนไลน์ ประชาชนสามารถติดตามทุกคำขออนุญาตทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้จาก Line OA กรุงเทพมหานคร (@bangkokofficial) รวมถึงมีการเปิดฐานข้อมูล (Open Data) ด้านนโยบาย งบประมาณ สัญญาจ้าง ภาษี ไปแล้วมากกว่า 1,000 ชุดข้อมูล มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 ล้านครั้ง/ปี ด้านการเปิดระบบจัดซื้อจัดจ้าง ได้มุ่งให้เกิดความโปร่งใสตั้งแต่การประกวดราคาจนถึงการบริหารสัญญา และการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ได้พยายามแก้ไขปัญหาโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า BTS ที่มีมาต่อเนื่อง ได้ลุล่วงไปในก้าวแรก โดยสามารถชำระหนี้งานระบบของส่วนต่อขยาย 23,000 ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของ กทม. เรียบร้อยแล้ว ที่จะทำต่อไปคือการลดการผูกขาด โดยเสนอรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่ง ม.44 นำระบบรถไฟฟ้ากลับสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและร่วมทุนตามกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนต่อไป
"2 ปี ที่ผ่านมาเป็นช่วงของการทำงานที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของกทม.ผ่านนโยบายและโครงการต่างๆ มากมาย ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของเมือง ใน 6 มิติ 1.ประชาชนชนเป็นศูนย์กลาง คือ Traffy Fondue 2.กระจายอำนาจสู่ประชาชน งบประมาณชุมชน 2 แสน 3.ทำงานอย่างโปร่งใส Open Bangkok, Open Data 4.ใช้เทคโนโลยีและข้อมูล บริการ BMA OSS, GPS รถขยะ 5.สร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชน รับฟังเสียงจากคนรุ่นใหม่ 6.เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ท้าทาย ยกระดับการศึกษา สาธารณสุข แก้หนี้ BTS ปัญหาหาบเร่-แผงลอย และเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.กทม.ใหม่ เพื่อนำไปสู่การยกระดับการบริหารราชการ กทม.รูปแบบใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ต่อไปแม้เราจะไม่อยู่บริหารแล้ว จะเกิดประโยชน์กับประชาชน" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวถึงการทำงานอีก 2 ปี ว่า 2 ปีต่อไป มุ่งบูรณาการข้ามหน่วยงาน สร้างกรุงเทพฯเมืองน่าอยู่แห่งอนาคต โดยมุ่งมั่นจะขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ โดยทำงานประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน "ตั้งแต่ประกาศนโยบายและทำงานมา 2 ปี ทำได้ 90% ยังมีเรื่องที่ทำไม่ดี ยังมีปัญหาที่ต้องทำต่ออีกมาก ถ้าให้คะแนนการทำงาน ให้ 5 เต็ม 10 ส่วนคนกรุงเทพฯจะพอใจ หรือวัดว่ามีความสุขเพิ่มขึ้นเท่าไร ต้องให้ประชาชนบอก"
นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 ได้รายงานเมกะโปรเจกต์ที่จะทำในอีก 2 ปี
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ที่จะทำ 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้กรุงเทพฯ มีอากาศสะอาด จะมีการเปลี่ยนรถบริการของ กทม.ไม่ว่าจะเป็น รถเก็บขยะ รถบรรทุกน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ รถบรรทุก 6 ล้อ จากรถที่ใช้พลังงานดีเซลมาเป็นรถพลังงานไฟฟ้าแทน จากการคำนวณรถขยะขนาด 5 ตัน สามารถลดค่าเช่าลงเหลือ 2,240 บาท/คัน/วัน จาก 2,800 บาท/คัน/วัน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหลือ 200 ตัน/ปี จาก 2,256 ตัน/ปี ลดการปล่อย PM2.5 เหลือเป็นศูนย์ จาก 22 กก./ปี และลดต้นทุนพลังงานเหลือ 455 บาท/เที่ยว จาก 1,300 บาท/เที่ยว โดยมีแผนรับมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในปี 67 จำนวน 615 คัน ปี 68 จำนวน 392 คัน และปี 69 อีก 657 คัน และยังเร่งรัดการก่อสร้างโรงเผาเพื่อผลิตไฟฟ้าอ่อนนุช-หนองแขม เพื่อลดการฝังกลบ และลดต้นทุนการจัดการขยะ โดยคาดว่าจะเปิดในปี 69 ซึ่งจะประหยัดเงินค่าจัดการขยะได้ 172,462,500 บาท/ปี
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ได้ประกาศบนเวทีว่า จะลาออกจากตำแหน่งทันที หากมีใครมายืนชี้หน้าว่า "ตนทุจริต" โครงการเช่ารถขยะไฟฟ้า ซึ่งมีข้อซักถามถึงประเด็นการเปลี่ยนรถขยะ กทม.จากดีเซล เป็นรถ EV ว่าให้ตรวจสอบไม่ให้มีการทุจริต
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า 2 ปี จากนี้ คนกรุงเทพฯ จะเดินทางสะดวกขึ้น ด้วยบริการป้ายรถเมล์ดิจิทัล 500 ป้าย การปรับปรุงศาลารถเมล์ 300 หลัง และการติดตั้งจอดิจิทัลในศาลาที่พักผู้โดยสารอีก 200 หลัง เพิ่มตัวเลือกการเดินทาง โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ (Last Mile) ด้วยการเดินทางที่หลากหลาย เช่น รถตุ๊กๆ ไฟฟ้า จักรยาน Shuttle Bus และสกายวอล์ค ด้านการจราจรจะคล่องตัวขึ้น โดยการอัปเกรดสัญญาณไฟจราจรทั่วกรุงเทพฯ ให้เป็น Adaptive Signaling ปรับสัญญาณไฟให้สอดคล้องกับปริมาณจราจร 541 ทางแยก พร้อมทั้งมอนิเตอร์เมือง สังเกต และสั่งการผ่าน Command Center
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า 2 ปีหลังนี้ จะผลักดันโรงพยาบาลเดิม 3 แห่ง โดยเพิ่มเตียงโรงพยาบาลกลาง อีก 150 เตียง โรงพยาบาลบางนาเพิ่ม 324 เตียง โรงพยาบาลคลองสามวา เพิ่ม 268 เตียง และเพิ่มโรงพยาบาลใหม่ในสังกัด กทม.อีก 4 แห่ง โรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี ขนาด 150 เตียง เปิดแล้ว จะเปิดโรงพยาบาลดดอนเมือง ขนาด 200 เตียง โรงพยาบาลสายไหม ขนาด 120 เตียง และโรงพยาบาลทุ่งครุ ขนาด 60 เตียง เพื่อขยายเตียงดูแลคนกรุงเทพฯ ให้ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น อีก 1,272 เตียง และพัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุขให้เข้าถึงง่าย กระจายทั่วกรุงเทพฯ โดยก่อสร้างอาคารใหม่ 21 แห่ง และปรับปรุงใหม่อีก 31 แห่ง นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับปรุงสถานีดับเพลิง 13 แห่ง และสร้างใหม่อีก 3 แห่ง พร้อมทั้งยกะดับ Command Center
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาคน คือการพัฒนาเมือง จะยกระดับจากการศึกษา สู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning) โดยการศึกษาปฐมวัย ปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเริ่มรับเด็กเร็วขึ้น เพิ่มชั้นอนุบาลสำหรับเด็ก 3 ขวบ แผนขยายให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนในปี 69 ส่วนการศึกษาภาคบังคับ พัฒนาห้องเรียนดิจิทัล สร้าง Active Learning ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ส่วนการพัฒนาเมืองเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งช่วยสอดส่อง แจ้งปัญหา ร่วมทำ ร่วมนำเสนอ ผ่านสภาเด็กและเยาวชน สภาเมืองคนรุ่นใหม่ ประชาคมคนพิการ ย่านสร้างสรรค์ เทศกาล อีเวนต์ กิจกรรมดนตรีในสวน และอาสาสมัครเทคโนโลยีประจำชุมชน มี e-participation แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถร่วมสร้างกรุงเทพฯ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี