วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เกมพลิก!! เปิดคำวินิจฉัยกฤษฎีกาตีความปลด'บิ๊กโจ๊ก'ออกจากราชการไว้ก่อน

เกมพลิก!! เปิดคำวินิจฉัยกฤษฎีกาตีความปลด'บิ๊กโจ๊ก'ออกจากราชการไว้ก่อน

วันอังคาร ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 18.59 น.
Tag : ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊ก ปลดบิ๊กโจ๊ก ออกหมายจับ
  •  

เปิดคำวินิจฉัยกฤษฎีกาตีความคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรณีให้"บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการไว้ก่อน ระบุนายกฯต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง 

29 พ.ค.67 จากกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีหนังสือหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับการให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยให้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่​


ล่าสุด นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ลงนามในบันทึก  (เรื่องเสร็จที่ 637/2567) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบความเห็นกรณีดังกล่าวโดยมีเนื้อหา ดังนี้

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) ได้พิจารณาข้อหารือของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงาน ก.พ.) และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ตามคำชี้แจงของผู้แทน ตร.ว่า

กรณีตามข้อหารือนี้ ตร.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวตามมาตรา 105,108,119 และ 179 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ในวันเดียวกันกับที่ ตร.มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน        

นอกจากนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ตามคำชี้แจงของผู้แทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าว (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจแล้ว

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) พิจารณาข้อหารือ และข้อเท็จจริงเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว เห็นว่าข้อหารือนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า เมื่อ ตร.มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง และมาตรา 179 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565

ประกอบกับข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 หรือไม่ และจะต้องดำเนินการเมื่อใด ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 2 เห็นว่า มาตรา 131 วรรค 6 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 บัญญัติให้การสั่งให้ข้าราชการตำรวจซึ่งมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญา หรือถูกฟ้องคดีอาญา ออกจากราชการไว้ก่อน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ซึ่งปัจจุบัน ก.ตร.ยังไม่ได้ออกกฎ ก.ตร.ในเรื่องดังกล่าว แต่มาตรา 179 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ได้บัญญัติรองรับไว้ว่า

ในระหว่างที่ยังไม่ได้ออกกฎ ก.ตร.ให้นำกฎ ก.ตร.ซึ่งใช้อยู่เดิมมาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพ.ร.บ.นี้ ด้วยเหตุนี้การดำเนินการเกี่ยวกับการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จึงต้องดำเนินการตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการพ.ศ. 2547 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ. 2547 และใช้บังคับอยู่เดิมต่อไป เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ. 2565

กรณีนี้จึงต้องพิจารณาต่อไปว่าข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ให้ต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันออกจากราชการไว้ก่อน ขัดหรือแย้งกับพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 หรือไม่

ซึ่งมีความเห็นว่า เมื่อมาตรา 140 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 บัญญัติหลักการเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งของข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผบ.ตร.ว่าจะต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง เว้นแต่กรณีที่พ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย เกษียณอายุ หรือพ้นจากราชการเพราะถูกลงโทษ ซึ่งส่งผลให้การสั่งให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ไม่เข้าข้อยกเว้น ที่จะไม่ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง เนื่องจากมิใช่การพ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย เกษียณอายุ หรือพ้นจากราชการเพราะถูกลงโทษ ด้วยเหตุที่การออกจากราชการไว้ก่อน มิใช่โทษทางวินัยตามมาตรา 115 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565

จึงเห็นว่าข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน มิได้ขัด หรือแย้งกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ดังนั้นในการสั่งให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน ตามข้อหารือนี้ จึงต้องดำเนินการตามข้อ 11 แห่งกฎ ก.ตร.ดังกล่าว

กล่าวคือนายกรัฐมนตรี จะต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผบ.ตร.รายดังกล่าว พ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันออกจากราชการไว้ก่อน

สำหรับกรอบระยะเวลาที่จะต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการตำรวจดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งนั้น เมื่อพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565  ไม่ได้บัญญัติระยะเวลาที่จะต้องดำเนินการในกรณีนี้ไว้ จึงเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องพิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบภายในระยะเวลาอันเหมาะสมตามควรแก่กรณีต่อไป   

อนึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) มีข้อสังเกตว่า ในการนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าราชการตำรวจรายใดพ้นจากตำแหน่งนั้น โดยที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีหน้าที่ต้องตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องของการสั่งให้ข้าราชการรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนอย่างรอบคอบ ให้เป็นที่ยุติเสียก่อน

เมื่อในกรณีนี้พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่ใช้บังคับในปัจจุบัน มีผลเป็นการปรับปรุงบทบัญญัติขึ้นมาใหม่ จากที่เคยบัญญัติไว้แต่เดิมในพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 หลายประการ โดยมีเจตนารมณ์สำคัญเพื่อให้การจัดระเบียบข้าราชการตำรวจเป็นไปตามหลักนิติธรรม และเกิดความเป็นธรรม ดังจะเห็นได้จากคำปรารภของพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และมาตรา 60 ที่ได้บัญญัติหลักการใหม่ ให้การจัดระเบียบข้าราชการตำรวจคำนึงถึงระบบคุณธรรม มาตรา 60(4) บัญญัติให้การดำเนินการทางวินัยต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรม และโดยปราศจากอคติ รวมทั้งบัญญัติให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจและคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และพิจารณาเรื่องร้องเรียนประกอบกับมาตรา 120 วรรค 4 ได้เพิ่มหลักการใหม่นอกเหนือจากมาตรา 131 วรรคหนึ่ง

โดยบัญญัติว่าในระหว่างการสอบสวนจะนำเหตุแห่งการถูกสอบสวนมาเป็นข้ออ้างให้กระทบสิทธิของผู้ถูกสอบสวนไม่ได้ เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งพักราชการ หรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งในกรณีนี้ คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีขึ้นในวันเดียวกันกับวันที่มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน และการสอบสวนย่อมเป็นการกระทบสิทธิหลายประการของผู้ถูกสอบสวน

กรณีจึงเห็นได้ว่า การสั่งให้ข้าราชการตำรวจรายนี้ออกจากราชการไว้ก่อนหากเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น ย่อมจะทำให้การพิจารณาเหตุแห่งการกระทบสิทธิของผู้นั้น และความจำเป็นที่จะต้องสั่งให้ผู้นั้นออกจากข้าราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน และการนำความกราบบังคมทูลตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง ย่อมเป็นไปด้วยความชอบธรรม

ลงชื่อ ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

พฤษภาคม 2567

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ออกหมายจับแล้ว 3 สมุน \'สจ.กอล์ฟ\' บังคับลูกหนี้กินลูกปืน ออกหมายจับแล้ว 3 สมุน 'สจ.กอล์ฟ' บังคับลูกหนี้กินลูกปืน
  • ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาคดีอุ้มสังหาร\'ดีเจเตเต้\' พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาคดีอุ้มสังหาร'ดีเจเตเต้' พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก
  • ออกหมายจับ‘เปรมชัย’  พร้อมผู้ต้องหา16ราย  ผู้ออกแบบ/คุมงาน  เอี่ยวตึกสตง.ถล่ม ออกหมายจับ‘เปรมชัย’ พร้อมผู้ต้องหา16ราย ผู้ออกแบบ/คุมงาน เอี่ยวตึกสตง.ถล่ม
  • \'ผกก.บางใหญ่\'เตรียมออกหมายจับ2ทรชน ล่อลวงเยาวชนไปรุมโทรม 'ผกก.บางใหญ่'เตรียมออกหมายจับ2ทรชน ล่อลวงเยาวชนไปรุมโทรม
  • จ่อออกหมายจับเครือข่ายเว็บพนัน\'มินนี่\' ล็อต 2 ลุ้นมีชื่อคนดังในสังคม จ่อออกหมายจับเครือข่ายเว็บพนัน'มินนี่' ล็อต 2 ลุ้นมีชื่อคนดังในสังคม
  • โฆษก ตร.ยันไล่ออก\'บิ๊กโจ๊ก-พวก\'ทำตาม กม. เปิดช่องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้เต็มที่ โฆษก ตร.ยันไล่ออก'บิ๊กโจ๊ก-พวก'ทำตาม กม. เปิดช่องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้เต็มที่
  •  

Breaking News

‘กมธ.ทหาร สว.’จัดหนัก! จี้‘อิ๊งค์’ลาออก ฟันดาบสองยื่นถอดถอนเซ่นปมคลิป‘ฮุนเซน’

รวบแก๊งตุ๋นขายสินค้าทิพย์ก่อคดีอื้อ

'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' เดือดจัด! ลั่นพร้อมพานางงามประท้วง หากไม่ยุบสภาวันนี้

End of the walkway!‘สมชัย’ฟันฉับหมดเวลา‘แพทองธาร’แล้ว ต้อง‘ลาออก’สถานเดียว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved