บ่งบอกความทรยศขายชาติ!‘กมธ.ทหาร สว.’แถลงการณ์ฉบับ 3 จี้‘แพทองธาร’ลาออกจากนายกฯ เซ่นคลิปเสียงหลุด ชงดาบสองยื่น‘ศาลรัฐธรรมนูญ-ป.ป.ช.’ฟันถอดถอนจากตำแหน่ง ซัดผิดจริยธรรมร้ายแรง
19 มิ.ย.68 เวลา11.00น. ที่รัฐสภา พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาขิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะสว. แถลงเรียกร้องขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งว่า ขอแสดงความไม่สบายใจต่อพฤติการณ์ของผู้นำรัฐบาล ที่แสดงออกถึงการด้อยความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ เมื่อวันที่ 18มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คลิปเสียงสนทนาเป็นของตนกับสมเด็จฮุนเซนจริง มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่2ว่า เป็นคน ฝ่ายตรงข้าม ด้อยค่า ไม่ให้เกียรติทหาร กองทัพที่ทำหน้าที่ รักษาอธิปไตย อีกทั้งการสนทนาเป็นการยินยอม อ่อนข้อและอ่อนน้อม ให้อริราชศัตรูผู้รุกรานต่อแผ่นดินไทย แสดงท่าทีพร้อมตอบสนองความต้องการที่สมเด็จฮุนเซนเรียกร้อง
พล.อ.สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า การกระทำของผู้นำรัฐบาลเช่นนี้ทำให้ประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวง ประชาชนหมดความเชื่อถือศรัทธา ที่ผ่านมาพฤติการณ์ผู้นำรัฐบาลส่อถึงความเป็นคนไม่รักชาติ (บ่งบอกความเป็นคนทรยศขายชาติ) บัดนี้ความอดทนคนในชาติสิ้นสุดแล้ว จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกมธ.ทหาร และสว. ขอเรียกร้องให้น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กมธ.ทหารฯเห็นว่า การกระทำของน.ส.แพทองธารอาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้
1.ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา5 ระบุว่า บุคคล มีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ประเทศ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มาตรา52 รัฐต้องพิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศ ไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อย ของประชาชน เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูตและการข่าวกรองที่มี ประสิทธิภาพ มาตรา164 ในการบริหารราชการแผ่นดิน ครม.ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา และปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ ระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม
2.ผิดประมวลกฎหมายอาญา หมวด2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานกบฏ หรือคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐ ต่างประเทศหรือที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ หรือร่วมเป็นข้าศึกของประเทศ และมาตรา257 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง และการตำหนิแม่ทัพภาคที่2 ว่าเป็นคนละฝ่ายกับเรา หมายถึงเป็นคนละฝ่ายกับนายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุนเซนถือเป็นการสร้างความแตกแยกในชาติ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา160 ขาดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กมธ.ทหารและสว.ไม่อาจปล่อยน.ส.แพทองธารที่เป็นบุคคลฝั่งเดียวกับกัมพูชา เป็นฝั่งตรงข้ามกับประเทศไทย ให้บริหารประเทศต่อไปได้ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่ง และยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที
ประธานกมธ.การทหารฯ กล่าวว่า กมธ.ไม่อาจปล่อยให้บุคคลที่เป็นฝั่งตรงข้ามประเทศไทยบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้แม้แต่วินาทีเดียว มีความจำเป็นต้องยื่นถอดถอนน.ส.แพทองธารออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง โดยจะไปยื่นถอดถอนต่อศาลรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช. ในวันที่ 19มิ.ย.ต่อไป ขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างมีสติ อย่า หลงเชื่อข่าวสารที่เป็นข่าวปลอม ปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจผิดจากผู้ไม่หวังดี จะซ้ำเติมสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย กมธ.ทหารและสว.ตระหนักในบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบต่ออธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ด้วยการทำหน้าที่ เพื่อประเทศและประชาชนคนไทยให้ดีที่สุด พร้อมยืนเคียงคู่ประชาชน ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และกองทัพ เพื่อรักษาอธิปไตย และประเทศสุดกำลัง “เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี