วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
พม่าโหด! ลอบเข้าเมือง ขอเงินแม่ค้าร้านชำไม่ได้ จ้วงแทงดับ สามีเข้าช่วยบาดเจ็บ

พม่าโหด! ลอบเข้าเมือง ขอเงินแม่ค้าร้านชำไม่ได้ จ้วงแทงดับ สามีเข้าช่วยบาดเจ็บ

วันจันทร์ ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 17.46 น.
Tag : เมียนมา แนวหน้าออนไลน์ ลักลอบเข้าเมือง
  •  

โหดเหี้ยม! หนุ่มพม่าวัย 22 ปี ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย บุกเข้าร้านค้าขายของชำ ทำทีขอซื้อข้าวสาร ก่อนจะขอเงินจากแม่ค้า แต่ถูกปฏิเสธ กลับใช้อาวุธมีดพกติดตัวกระหน่ำแทง 3 แผลดับ ด้านสามีรีบออกมาช่วยถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุวิ่งหลบหนีทิ้ง รถจจย.ไว้หน้าร้านค้า ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้เพียง 30 นาที เบื้องต้นรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะโมโหหิว และไม่มีเงิน  

เมื่อวันนี้ 3 มิ.ย.2567 ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุชายสัญชาติเมียนมา ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงแม่ค้าขายของชำเสียชีวิต ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.ฯ นายวิชญาน ขวัญนิมิต กำนัน ต.ทุ่งค่าย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง สืบสวน สภ.ย่านตาขาว ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างภักดี จุด อ.ย่านตาขาว


ถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายของชำและเป็นบ้านพัก มีชาวบ้านจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์อยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน เข้าไปภายในร้านค้าบริเวณบนพื้นติดกับชั้นวางสินค้า ซึ่งมีสินค้าตกอยู่กระจัดกระจาย และยังพบร่างของ นางบุญศรี หรือเจ๊ศรี อายุ 53 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในสภาพสวมเสื้อสีกลม นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมถุงเท้า พบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่เหนือราวนมขวา 1 แผล เหนือกลางหน้าอก 1 แผล และบริเวณหน้าอกซ้ายหัวใจอีก 1 แผล รวม 3 แผล ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือ นายวิมล หรือโกมล อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นสามีผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บถูกคนร้ายกระหน่ำแทงได้รับบาดเจ็บ แต่ยังคงรู้สึกตัว ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นาย ออง เส เมน อายุ 22 ปี สัญชาติพม่า หลังจากก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางป่าด้านหลังบ้าน โดยทิ้งรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ 110 สีดำ-แดง ทะเบียนตรัง ซึ่งเป็นยานพาหนะที่คนร้ายใช้ขับขี่มาลงมือก่อเหตุทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าร้านค้า อีกทั้งพื้นและฝาผนังบ้านยังพบรอยคราบเลือดหยดเลือดของผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบภายในบ้านเบื้องต้นไม่มีทรัพย์สินใดๆ สูญหาย

พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก. สภ.ย่านตาขาว เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้หญิง และเป็นเจ้าของร้านขายของชำจนถึงแก่ความตาย จากนั้นสามีที่อยู่ในบ้านได้ยินเสียงการต่อสู้ จึงได้ออกมาช่วยภรรยาที่ถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บไปอีก 1 ราย ส่วนคนร้ายก็ยังได้รับบาดเจ็บบริเวณมือและแขนจากการต่อสู้ถูกคมมีดบาด และถูกสามีของผู้เสียชีวิตกัดระหว่างมีการต่อสู้กัน จากนั้นชุดสืบสวน สภ.ย่านตาขาว ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุ จนสามารถทราบรูปพรรณสัณฐานคนร้าย และได้ทำการปิดล้อมตรวจในพื้นที่เป้าหมาย จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ หมู่ 5 ต.ทุ่งค่าย ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที ในการติดตามไล่ล่าจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งคนร้ายได้ใช้ใบสาบเสือปฐมพยาบาลเพื่อห้ามเลือด  

พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เผยทิ้งท้ายว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจที่ลงมือก่อเหตุ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ได้เข้าไปภายในร้านขายของชำเพื่อซื้อข้าวสาร เมื่อเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้หญิงเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อตักข้าวสารใส่ถุงให้ ปรากฏว่าคนร้ายได้มีการขอเงิน แต่ทางเจ้าของร้านไม่ให้ และบอกให้คนร้ายออกไปจากร้าน ทำให้คนร้ายจึงลงมือใช้อาวุธมีด ที่พกติดตัวทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ขณะเดียวกันสามีของผู้ตายได้ยินเสียงร้องของภรรยา จึงได้เดินออกมาจากภายในบ้าน เมื่อออกมาถึงก็รีบวิ่งจะเข้าไปช่วยเหลือภรรยา จนเกิดการต่อสู้กัน คนร้ายยังได้อาวุธมีพยายามแทงจนได้รับความบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายก็ยังได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปทางป่าหลังบ้าน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูล และใช้ล่ามสอบถามผู้ก่อเหตุ ทราบว่า เป็นแรงงานเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมือง ที่หนีมาจากเมียนมา ฝั่งเมียววดี ผ่านช่องทางธรรมชาติ เข้าประเทศไทยทางอำเภอแม่สอด จ.ตาก จากนั้นมีนายหน้าค้าแรงงานเถื่อนนำมาพักที่ จ.สุราษฎร์ธานี และได้นำตัวมาปล่อยไว้ข้างโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่เกิดเหตุ ที่อยู่ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร และได้พูดคุยกับแรงงานเมียนมาที่ทำงานอยู่ในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา จนได้เข้าไปอาศัยห้องว่างของคนงานเมียนมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะก่อเหตุในครั้งนี้และให้การว่าเป็นการก่อเหตุเป็นครั้งแรก ที่ทำไปเพราะโมโหหิว และไม่มีเงิน

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหารายนี้ไม่สามารถพูดไทยได้ จากการค้นตัวผู้ก่อเหตุ พบเพียงแค่บัตรประจำตัวประชาชน ประเทศเมียนมาเท่านั้น ไม่มีหนังสือเดินทาง และได้มีการตรวจปัสสาวะไม่พบว่าเป็นฉี่ม่วง ซึ่งไม่มีการใช้สารเสพติดแต่อย่างใด ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุอ้างว่าได้โยนทิ้งระหว่างหลบหนี และเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และภายหลังจากนี้หากทาง นายวิมล ผู้เป็นสามีผู้เสียชีวิตสามารถให้การได้ ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เช่น พยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มเติมต่อไป

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ผบช.ภ.1\'ให้โอวาท\'ทีมปราบไพรีอริศัตรูพ่าย\' เตรียมความพร้อมแข่งขันหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 'ผบช.ภ.1'ให้โอวาท'ทีมปราบไพรีอริศัตรูพ่าย' เตรียมความพร้อมแข่งขันหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
  • \'จเรตำรวจฯ\'หารือ\'ตร.ไซเบอร์อินเดีย\' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า 'จเรตำรวจฯ'หารือ'ตร.ไซเบอร์อินเดีย' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า
  • อาการโคม่า! ด.ต.คว้ามีดทำร้ายตัวเอง หนีผิดคดีชิงทองแม่ค้า อาการโคม่า! ด.ต.คว้ามีดทำร้ายตัวเอง หนีผิดคดีชิงทองแม่ค้า
  • เปิดภาพแก๊ง\'บุญรักษา\' ค้ายานรก-\'ผู้สมัคร สท.\'ร่วมด้วย เปิดภาพแก๊ง'บุญรักษา' ค้ายานรก-'ผู้สมัคร สท.'ร่วมด้วย
  • ผบ.ตร.ประชุม คกก.ส่งเสริมงานสอบสวน หาแนวทางแก้ไขปัญหา-พัฒนาระบบให้ครบถ้วนทุกมิติ ผบ.ตร.ประชุม คกก.ส่งเสริมงานสอบสวน หาแนวทางแก้ไขปัญหา-พัฒนาระบบให้ครบถ้วนทุกมิติ
  • จับ\'โชเฟอร์ 6 ล้อ\' เสพยาบ้าขณะขับรถ-ค้นเจออีก 27 เม็ด จับ'โชเฟอร์ 6 ล้อ' เสพยาบ้าขณะขับรถ-ค้นเจออีก 27 เม็ด
  •  

Breaking News

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ศรีสะเกษดัน 'ส้มโอบ้านตาด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค.

ประเดิมคนแรก! 'กกต.-ดีเอสไอ'แปะหมายหน้าประตูห้อง'สว.อลงกต'

ชาวนาบุรีรัมย์ถือฤกษ์ดี ‘วันพืชมงคล’ เริ่มไถนาเพาะปลูกข้าว-เชื่อผลผลิตเจริญงอกงามดี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved