“สานพลังพสกนิกรไทย เดิน วิ่ง ปั่น รวมดวงใจ เข้าสู่วันที่ 13” ปลัด มท. ชู “กิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ” คือ กิจกรรมสำคัญที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนไทย ผสานความงดงามในอัตลักษณ์พื้นถิ่นทั่วทุกภูมิภาค เพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (13 มิ.ย. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงรายละเอียดการจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขณะนี้ทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแล้วกว่า 56 จังหวัด รวมระยะทางสะสมแล้ว 7,200 กิโลเมตร พร้อมเชิญชวนพี่น้องพสกนิกรคนไทยทุกคน ร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดขึ้น โดยเริ่มต้นจากจังหวัดชายแดนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 10 จังหวัดต้นทาง (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย บึงกาฬ นครพนม อุบลราชธานี สระแก้ว ตราด สงขลา สตูล และจังหวัดกาญจนบุรี) เพื่อนำธงตราสัญลักษณ์ฯ เส้นทางละ 72 คัน รวม 10 เส้นทาง 720 คัน มุ่งสู่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศไปแล้ว 13 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ซึ่งที่ผ่านมาทุกจังหวัดได้ดำเนินกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ และส่งต่อธงให้กับจังหวัดถัดไป ตามเส้นทาง ทั้ง 10 สาย เพื่อนำขบวนธงตราสัญลักษณ์ฯ เข้ามาสู่กระทรวงมหาดไทย ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้
"ตลอดช่วงเวลาแห่งความปลื้มปิติ ทั้ง 13 วันที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ ทั่วทั้งประเทศ ถือว่าประสบความสำเร็จในหลายด้าน ทั้ง “ด้านความจงรักภักดี” ที่พี่น้องพสกนิกรคนไทยทุกคนได้ออกมาร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ด้านความเป็นหนึ่งเดียวกัน” โดยมี ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ เข้ามาร่วมกิจกรรม และที่มากไปกว่านั้น คือ ในการเดิน วิ่ง ปั่น ของแต่ละจังหวัดซึ่งถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีอุปสรรค ฝนตก แดดร้อน หรือ ปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อสภาพการวิ่งโดยรวมแต่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำให้ทุกเส้นทางเป็นหนทางแห่งการแสดงความรัก ความเมตตาและความเอื้ออาทรระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนแต่อย่างใด เพราะทุกคนต่างรวมใจเป็นหนึ่งเดียวและมีจุดหมายปลายทาง คือ การร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อแสดงออกถึงความรักอันบริสุทธิ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในครั้งนี้" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับ “ด้านความร่วมมือร่วมใจ” อันจะเห็นได้จากในทุกพื้นที่จะมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นำหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และพี่น้องประชาชน ร่วมแรงร่วมใจ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติฯ รวมทั้งได้จัดนิทรรศการ และพิธีเฉลิมฉลองอย่างงดงาม ผสมผสานถึงความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นทุกภูมิภาคได้อย่างลงตัว อาทิ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้จัดจุดเรียนรู้งานพื้นบ้านผ่านการสาธิตและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP จัดแสดงดนตรีของวงออร์เคสตรา การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ไหว้ครูมวยไทยโบราณ แม่ไม้มวยไทย จังหวัดปทุมธานี ที่ได้จัดกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชุด สรวมชีพประณตบทบงสุ์วงศ์จักรี" จากนักเรียนโรงเรียนสามโคก จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้นำการแสดงของ “วงดนตรีศรีนครอัจจะสังขะแบนด์” แชมป์รายการ "ชิงช้าสวรรค์ 2024" เต็มวง จากโรงเรียนสังขะ ร่วมแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดพัทลุง ที่ได้นำการแสดง”โนรา” ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโกลำดับที่ 3 ของไทย มาทำการแสดงเฉลิมพระเกียรติ และรวมไปถึงจังหวัดอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งก็มีการจัดกิจกรรมที่สื่อถึงความหลากหลาย ผสมผสานความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นไว้ในงานอย่างงดงามด้วยเช่นกัน
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเส้นทางของการเดิน วิ่ง ปั่น แต่ละสาย ความเคลื่อนไหวล่าสุดในวันนี้จะพบว่า มีการเดินวิ่งไปแล้วระยะทางสะสมรวม 7,200 กิโลเมตร โดยแต่ละเส้นทางมีรายละเอียดกิจกรรมดังนี้ สาย 1 จังหวัดสุโขทัย: เวลา 09.00 น. จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองฯ จัดนิทรรศการและฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ และทำกิจกรรมจิตอาสา ณ บริเวณโรงเรียนวัดไชยชุมพล ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย สาย 2 จังหวัดพิษณุโลก เวลา 09.00 น. เดิน วิ่ง ปั่น ไปยัง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และ ส่งมอบธง ณ บริเวณพิธีอําเภอพรหมพิราม จ.พิษณุโลกสาย 3 ทำการจัดตั้งธงไว้ยัง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สาย 4 จังหวัดขอนแก่น เวลา 09.00 น. จัดกิจกรรมจิตอาสา ณ บริเวณ วัดธาตุ พระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น และเวลา 14.30 น. จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองฯ จัดนิทรรศการและฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ณ ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สาย 5 จังหวัดบุรีรัมย์ เวลา 07.00 น. เดิน วิ่ง ปั่น ไปยัง อําเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมาและ ส่งมอบธง ณ บริเวณพิธีสนามฟุตบอล แสงเพชรอคาเดมี่ ต.ห้วยแคน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา สาย 6 จังหวัดปทุมธานี ทำการจัดตั้งธงไว้ยัง อาคารศาลารักษ์ปทุม ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี สาย 7 จังหวัดสมุทรปราการ ทำการจัดตั้งธงไว้ยัง ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ สาย 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 08.00 น. เดิน วิ่ง ปั่น ไปยัง วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตําบลเวียง อําเภอไชยา และ จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองฯ จัดนิทรรศการและฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ และทำกิจกรรมจิตอาสา ณ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร สาย 9 จังหวัดชุมพร ทำการจัดตั้งธงไว้ยัง เทศบาลตําบลวังใหม่ ตําบลวังใหม่ อําเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร สาย 10 จังหวัดนนทบุรี ทำการจัดตั้งธงไว้ยัง ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ซึ่งขณะนี้ ทุกจังหวัดที่จะรับช่วงต่อได้เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีฯ และพร้อมให้การต้อนรับพี่น้องประชาชนทุกคนที่จะได้เข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"การจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นความตั้งใจของคนไทยทั้งชาติทั่วประเทศที่ร่วมส่งกำลังใจผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งมาให้กำลังใจตลอดเส้นทาง และที่รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเป็นการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์และสร้างสุขภาพพลานามัยที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ทุกภูมิภาคของประเทศ ได้ร่วมแรงแข็งขัน ร้อยรวมดวงใจเข้าร่วมกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ ที่จะจัดขึ้นในแต่ละจังหวัด เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีของเราทุกคน และแสดงถึงความรักของคนไทยที่มีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา ลุกขึ้นมา เดิน วิ่ง ปั่น ออกกำลังกาย เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทที่ทรงเป็นต้นแบบของการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งนี้ สำหรับหน่วยงาน องค์กร หรือ พี่น้องประชาชนที่มีความปรารถนาตั้งใจอยากจะสนับสนุนอาหาร อาหารว่าง หรือ น้ำดื่ม สำหรับการจัดกิจกรรมของแต่ละจังหวัด สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัด หรือ สำนักงานจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารศาลากลางจังหวัด หรือ แจ้งที่ที่ทำการปกครองอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเชิญชวนในช่วงท้าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี