น้องอลิสเด็กหญิงวัย 3 ขวบตกน้ำเสียชีวิตปริศนา!ครอบครัวคาใจ ต้องมีเงื่อนงำ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เด็กหญิงอลิส (นามสมมุติ) หรือน้องอลิส จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านค้อ หมู่ที่ 3 ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 800 เมตร จึงเดินทางไปที่บ้านของน้องที่จมน้ำเสียชีวิต คือ หมู่ 11 ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ พอไปถึงได้พบ พ่อและแม่ของน้องที่จมน้ำเสียชีวิต 

โดยนายปริญญา อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องอลิส เปิดเผยว่า ตนมีลูกอยู่ 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย วัย 6 ขวบ คนเสียชีวิตเป็นผู้หญิง วัย 3 ขวบ โดยตนพร้อมภรรยา ทำงานเป็นคนเก็บเงาะ ทุเรียน อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เพิ่งกลับมาพักที่บ้านได้ 4-5 วัน โดยวันเกิดวันที่ 14 มิ.ย. 67 เวลา 12.47 น.ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านว่าลูกของตนหาย ให้ออกไปช่วยตามหาหน่อย ตนได้ยินแบบนั้นจึงรีบออกไปที่โรงเรียน พอไปถึงก็มีคนบอกว่าลูกตนจมน้ำเสียชีวิตอยู่หลังศูนย์เด็กแล้ว พอลงไปดูพบลูกของตนลอยจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำแล้ว ตอนนั้นตนทำอะไรถูกเลย รู้สึกเสียเป็นอย่ามาก

นายปริญญา กล่าวต่อว่า การตายของลูกตนมันดูผิดปกติ ตนและภรรยา พร้อมทางญาติๆ ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ ตนคิดว่าต้องมีคนพาลูกของตนไปเสียชีวิตที่ตรงนั้นเป็นแน่ เพราะลูกตนเป็นเด็กอายุแค่ 3 ขวบ คงไม่สามารถที่จะเดินไปเสียชีวิตได้ไกลถึงขนาด 800 เมตรขนาดนั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างที่จะเดินไปลำบาก และตนมีจุดข้อสงสัยอีกหลายอย่างที่ทำให้ตนคิดว่าการตายของลูกตนผิดปกติ เช่น รองเท้าเด็กที่เจอในที่เกิดเหตุ ไม่ใช้รองเท้าของลูกตน แพมเพิสของลูกตนมีการถอดเรียงกันเรียบร้อยไว้ใกล้กับสระน้ำ ซึ่งถ้าลูกตนใส่รองเท้าคู่นั้นเดินลงไปตรงจุดเกิดเหตุเองก็ต้องมีรอยเปื้อนโคนหรือดินบ้างและต้องมีรอยเท้าเดินไปอันนี้คือไม่มีรอยเท้าของลูกตนเดินไปเลย 

นายปริญญา ยังกล่าวต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานเหมือนจะมีลางสังหอน หรือลางบอกเหตุอะไรบ้างอย่าง เพราะตนถามลูกไปว่าโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร ลูกตนกับตอบกับตนว่า อยากเป็นผี ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดเพียงว่าลูกคงตอบไปตามประสาเด็กก็เท่านั้น

ด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธารยางชุมน้อย และแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตรวจสอบชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย แต่ญาติยังข้องใจในสาเหตุการตาย โรงพยาบาลยางชุมน้อยจึงส่งต่อให้โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป