มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ร่วมกับอำเภอโพธาราม เครือข่ายลาวเวียง ร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เตรียมจัดเทศกาล "เล่นว่าว กินข้าวหนำกัน" วิถีว่าวไทยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นถิ่น ระหว่าง 23 - 24 พ.ย.67 นี้

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กับอำเภอโพธาราม เทศบาลตำบลบ้านเลือก สภาวัฒนธรรมตำบลบ้านเลือก และโรงเรียนเครือข่ายในพื้นที่ตำบลบ้านเลือก โดยมีนายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม นายวิเชษฐ์ ภู่ทอง รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเลือก นายสันทัด สุทธิพงษ์ ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลบ้านเลือก พร้อมผู้บริหารโรงเรียน พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ และ ผศ.ณฐพรภัทร์ อินทร์ศิริพงษ์ รองอธิการบดี อาจารย์รัชนิดา รอดอิ้ว และคณะอาจารย์ทีมวิจัยร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมวัดพระศรีอารย์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี  

เพื่อเตรียมจัดเทศกาลว่าวโพธาราม วิถีว่าวไทย  "เล่นว่าว กินข้าวหนำกัน" ระหว่างวันที่ 23 - 24 พ.ย.67 บริเวณหน้าวัดพระศรีอารย์ โดยทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศ ให้นักศึกษาและอาจารย์ได้เรียนรู้นำทักษะด้านวิชาชีพ และกระบวนการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในชุมชน โดยชุมชนเป็นผู้ให้ความรู้ และเป็นฐานในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เรียนและผู้สอนทุกฝ่ายจึงได้ตกลงทำความร่วมมือทางวิชาการขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนด้านวิชาการและการวิจัย โดยมีการร่วมมือกันพัฒนาและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างพื้นที่ และมหาวิทยาลัยเพื่อการสนับสนุน และให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอน โดยใช้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้และดำเนินการวิจัย เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาเพื่อการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม คุณธรรมจริยธรรม และการบำเพ็ญประโยชน์หรือการรักษาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนและร่วมกันพัฒนาสถาบันสู่สถาบันการเรียนรู้ (KM) เพื่อร่วมกันสนับสนุนภารกิจอื่น ๆ ตามที่ทุกฝ่ายตกลงร่วมกัน 

หลังจากนั้นได้มีการประชุมชี้หารือแจง แนวทางการการจัดงานเทศกาลว่าวโพธาราม วิถีว่าวไทย การขับเคลื่อนภูมิวัฒนธรรมเพื่อการฟื้นฟู อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นถิ่น และการพิจารณารูปแบบการจัดงาน การเตรียมความพร้อมของฝ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมโครงการที่คณะวิจัยดำเนินการสืบค้นข้อมูลทุนพหุวัฒนธรรม ลาวเวียงบ้านเลือก ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณงานวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ชุดโครงการจัดการทุนทางวัฒนธรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น กรอบวิจัยการขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ 

โดยเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ ภายใต้วิทยสถาน “ธัชภูมิ” เพื่อการพัฒนาพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ 2567 ผ่านเทศกาลว่าวโพธาราม วิถีว่าวไทย การขับเคลื่อนภูมิวัฒนธรรมเพื่อการฟื้นฟู อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นถิ่น  มีกิจกรรมทางวัฒนธรรม อาทิ การแข่งขันประกวดว่าวสวยงาม การแข่งขันว่าวชิงแดน การประกวดว่าวสูง เสียงดี ส่ายส่วย การสอนการประดิษฐ์ทำว่าวไทยแก่ผู้สนใจ นิทรรศการว่าวไทยมีชีวิต การแสดงแสงสีเสียง พื้นถิ่นพหุวัฒนธรรมลาวเวียง กีฬาพื้นที่บ้านลาวเวียงเชื่อมความสัมพันธ์ และการประกวด หนุ่ม สาวลาวเวียง โดยเปิดโอกาสให้โรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี ส่งว่าวประดิษฐ์สวยงามเข้าประกวด 

ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าว่า ว่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม แถมยังมีเรื่องอื่นอีก  แต่ต้องอาศัยความรู้ อาศัยงานวิจัยซึ่งมองเห็นทางข้างหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อไป  หากไปข้างหน้าถ้าไม่มีทุนวิจัย แต่ว่าทางมหาวิทยาลัยก็ยังมียุทธศาสตร์ที่จะผลิตและพัฒนาครู ดังนั้นสามารถที่จะต่อยอดกับงานครั้งนี้ ถ้าโรงเรียนจะต่อยอดออกไปสร้างเป็นหลักสูตร หรือไปสร้างเป็นกิจกรรม อยู่ในโรงเรียนเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากกว่าที่เราไปสร้างงานประเพณี แต่ถ้าไปต่อยอดที่โรงเรียนได้ก็จะเป็นหลักสูตรแรก   

ต่อไปก็ไปเอาเรื่องอาหารการกิน ซึ่งเชื่อมโยงไปกับวิถีชีวิตคนที่อยู่ที่นี่ก็จะมีความชัดเจนและสร้างคนที่มาสืบทอดเรื้องนี้ต่อไปได้  ดังนั้นพันธกิจที่ได้รับมอบหมายมาก็คือ สืบสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งหมดนี้คือ บทบาทที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงได้รับมอบ เช่น มอบทั้งงานและมอบทั้งงบประมาณ แต่หากเป็นวิจัยจะต้องเขียนโครงการไปของบ เรื่องการพัฒนาท้องถิ่นจะต้องเสนอโครงการไปว่าแต่ละปี มีอะไรที่เราจะต้องไปเจอ และจะช่วยกันเพื่อที่จะทำให้ชุมชนท้องถิ่นได้รับการพัฒนา งานนี้วิจัยเป็นตัวนำ แต่ว่าสิ่งที่จะตามมาในอนาคตข้างหน้าก็คงเป็นเรื่องผ่านการเรียนการสอน ผ่านงานบริการวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม จะไปต่อได้อย่างต่อเนื่องก็ต้องอยู่ที่การเอ็มโอยูในวันนี้ 

ที่ประชุมได้ประสานโรงเรียนทั้ง 4 แห่งในพื้นที่เตรียมจัดให้มีการเรียนการสอนทำว่าวไทยโบราณ  เช่น ว่าวปักเป้า แก่นักเรียน เพื่อให้ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับการทำว่าวไทยในสมัยโบราณ สามารถทำว่าวเป็น และทำเป็นอาชีพเสริมมีรายได้ช่วงระหว่างปิดเทอมช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง และทางโรงเรียนยังเตรียมทำว่าวไว้จำหน่ายในงาน เพื่อไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ที่ประชุมได้ประสาน ณ สัทธา อุทยานไทย แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในพื้นที่เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมจัดทริปเส้นทางท่องเที่ยวรอบพิเศษช่วงการจัดงานเทศกาลว่าว โดยมีรถรางบริการแก่นักท่องเที่ยว มีการจัดทริปพิเศษ 2 อาทิ เที่ยววัดโบสถ์ สักการะพระบรมราชนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 นำว่าวจุฬากราบสักการะขอพร หรือนำว่าวไปกราบขอพรหลวงพ่อในโบสถ์มหาอุตม์วัดพระศรีอารย์  เที่ยว ณ สัทธา อุทยานไทย ซึ่งได้เตรียมจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษสำหรับทริปเทศกาลงานว่าวที่ต้องห้าม...พลาด