ประชุมใหญ่วิสามัญฯครั้งที่ 1 ร้านสหกรณ์จังหวัดตราดส่อวุ่น มีคนมาร่วมประชุมกว่า 100 คน จากสมาชิกทั้งหมด 1.7 หมื่นราย ก่อนมติขายสาขา 2 เพื่อหาเงินใช้หนี้ 240 ล้าน ขณะที่ตัวแทนจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมฯตั้งข้องสังเกตมติอาจจะไม่ชอบธรรม

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านสหกรณ์จังหวัดตราดสาขาเนินทราย ได้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 ร้านสหกรณ์จังหวัดตราด ท่ามกลางสมาชิกที่เดินทางมาร่วมประชุมเพียง 100 กว่าคน จากจำนวนสมาชิกกว่า 17,000 คน มีนายไกรสีห์ รัตนเศียร ประธานร้านสหกรณ์ฯนายทรงธรรม จันทร์ย้อย รองประธาน และกรรมการ 5 คน พร้อมผู้จัดการร้านฯร่วมประชุม

การประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 มีวาระการประชุมสำคัญในหลายเรื่อง คือ การรับรองแผนการฟื้นฟูสหกรณ์ใน 3-5 ปี ,การปรับแก้ไขระเบียบร้านสหกรณ์จังหวัดตราดในหลายมาตราเพื่อให้เกิดความทันสมัยและเพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการคล่องตัวมากขึ้นเพื่อจะได้แก้ปัญหาภาวะขาดทุนของร้านสหกรณ์จังหวัดตราดที่ขาดทุน และวาระที่สำคัญที่สุดก็คือ การขอมติที่ประชุมเพื่อขายร้านสหกรณ์จังหวัดตราดสาขา 2 และนำเงินมาใช้หนี้ของสถาบันการเงิน และเครือข่ายสหกรณ์ที่มีมากกว่า 240 ล้านบาท

ระหว่างการประชุมมีกรรมการ 3 คนลาออก ทำให้กรรมการที่มีอยู่ 7 คนเหลือเพียง 4 คน อย่างไรก็ตาม การประชุมยังสามารถดำเนินไปได้เนื่องจากองค์ประชุมครบ และระหว่างนั้นยังมีการเลือกกรรมการจำนวน 7 คน เพื่อทดแทนที่หมดวาระและแทนกรรมการที่ลาออก 

นายไกรศรี ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของร้านสหกรณ์ฯที่มีปัญหาและต้องยุบสาขาที่เนินทรายกลับไปใช้ที่สาขาเดิมเพื่อลดค่าใช้จ่าย การดำเนินการประชุมในวาระที่ 3 เรื่องแผนฟื้นฟู 3-5 ปี ถูกสมาชิกติงในเรื่องไม่มีแผนการเงินมาให้ที่ประชุมพิจารณา และมีการถกเถียงกัน สุดท้ายแต่สมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยและลงมติรับรอง

ขณะที่การลงมติขายร้านสหกรณ์จังหวัดตราด นายทรงธรรม กล่าวกับสมาชิกว่า เนื่องจากผลการดำเนินการที่ผ่านมาของร้านสหกรณ์ฯที่ผ่านมาเกิดภาวะขาดทุน และมีหนี้สินกับสถานบันการเงิน และเครือข่ายสหกรณ์รวมกว่า 240 ล้านและร้านสหกรณ์ฯขาดสภาพคล่อง หากไม่ขายสาขา 2 จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมาก จึงขอมติที่ประชุมขายสาขา 2 ไปเพื่อนำเงินที่ขายได้มาใช้หนี้ และที่เหลือนำมาใช้เป็นทุนดำเนินงานของร้านสหกรณ์ต่อไป

แต่สมาชิกในที่ประชุมเสนอให้นับองค์ประชุม ปรากฏว่า ครบองค์ประชุมจึงประชุมต่อไปได้ และมติส่วนใหญ่ให้ขายร้านสหกรณ์ฯสาขา 2 ไป โดยให้ทางพิจารณาในเรื่องราคา และเมื่อพร้อมขายขอให้นำมาเสนอทีทประชุมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ขอให้มีการประเมินราคาในการขายครั้งนี้ด้วย

อนึ่ง เกิดความวุ่นวายขึ้น 2 ครั้ง จากสมาชิกที่เป็นครูและระบุว่า ตนเองยังเป็นสมาชิกอยูาหรือไม่ระหว่างปี 2522-2525 จึงขอตรวจสอบและพบว่า ตรวจสอบไม่ได้ แต่ขอเสนอข้อคิดเห์น แต่สุดท้ายประธานขอให้หยุดการเเสดงความคิดเห็นจนต้องเดินออกไป และอีกคน คือ วิริยะ จงไพศาล อดีตกรรมการที่ลาออกที่ขอเสนอความเห็น และระบุถึงความผิดพลาดของประธานในหลายเรื่อง ซึ่งประธานห้ามไม่ให้เสนอเนื่องจากใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม สุดท้ายต้องหยุดไป

สำหรับการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการร้านสหกรณ์ชุดที่ 71 จะต้องกลับไปทำแผนการเงินให้แล้วเสร็จตามที่ได้แถลงไว้กับที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 รับรองเพื่อให้ดำเนินการของร้านสหกรณ์จังหวัดตราดเดินหน้าต่อไปได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์ประชุมในครั้งนี้ และได้เสนอข้อคิดเห็นในเรื่องการขายร้านสหกรณ์ว่า การมีมติของการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 นร้อาจจะไม่ชอบธรรมนักเนื่องจากร้านสหกรณ์ฯมีสมาชิกกว่า 16,000-17,000 คน แต่การประชุมครั้งนี้มีเพียง 180 กว่าคนมาประชุมเพื่อมีมติขายซึ่งเมื่อเทียบกันน้อยมาก อีกทั้งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ไม่ได้เสนอให้มีการแก้ปัญหาด้วยการขายร้านสหกรณ์จังหวัดตราดสาขา 2 แต่ประการใดตามที่ได้มีการกล่าวในที่ประชุม