เมืองกาญจน์อ่วม!

น้ำแควน้อยเอ่อล้น

เตือน6อำเภอรับมือ

แม่ฮ่องสอนดินถล่ม

กรมอุตุฯเตือน 26 จว.ทั่วไทย เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วน จ.กาญจนบุรีน้ำยังท่วม ถนนทองผาภูมิ-สังขละบุรีแม่น้ำแควน้อยเอ่อล้นท่วม บ้านเรือน พร้อมเตือน ปชช.ใน 5 อำเภอ เสี่ยง หลังฝนตกต่อเนื่อง ขณะที่ แม่ฮ่องสอนฝนหนัก ดินสไลด์ น้ำท่วมกว่า 52 แห่ง

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของภาคเหนือ มีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และด้านตะวันตกของภาคกลาง ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.กาญจนบุรี และราชบุรี ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝน/ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา และภูเก็ต ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.กระบี่ ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามการออกประกาศ สทนช.ฉบับที่ 8/2567 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567 โดยมีพื้นที่เฝ้าระวัง ดังนี้ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และอุบลราชธานี ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล

พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.เชียงใหม่ น่าน พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ เลย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครราชสีมา สระบุรี สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี ตราดและระนอง และพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักะลำน้ำสาขาของแม่น้ำน่าน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก ลำน้ำพอง ลำน้ำก่ำ แม่น้ำชี ลำเซบาย แม่น้ำยัง แม่น้ำตราด

ที่ จ.กาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รอง ผวจ.ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังประกาศเตือนประชาชนใน อ.เมือง อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ไทรโยค และ อ.ด่านมะขามเตี้ย รวม 6 อำเภอ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ว่าหลังจากมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าสู่ลำห้วยอู่ล่อง ท่วมถนนทางหลวง หมายเลข 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอทองผาภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร แต่ปัจจุบันน้ำยังไหลหลากเข้าท่วมถนน ระดับน้ำสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงต้องเฝ้าระวังและช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ว่าฝนที่ตกหนักใน อ.ไทรโยค ทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำในแม่น้ำแควน้อย เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนบริเวณท่าเรือปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ทางอำเภอจึงร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อย มีปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ป้องกันทรัพย์สินด้วยการนำขึ้นที่สูง ส่วนชาวแพ ขอให้ผูกแพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันน้ำพัดพาไปจนได้รับความเสียหายได้

วันเดียวกัน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนกล่าวว่า ได้รับรายงานว่าเส้นทางระหว่าง อ.แม่สะเรียง-บ้านเสาหิน ได้เกิดน้ำหลากซึ่งส่วนใหญ่จะผ่านลำน้ำเสาหิน โดยเส้นทางดังกล่าวยานพาหนะต้องวิ่งผ่านไปในลำน้ำถึง 52 จุด บางจุดผู้ขับขี่ต้องช่วยกันหามจักรยานยนต์ข้ามแม่น้ำและบางจุดต้องรอให้น้ำลดก่อนถึงจะสามารถวิ่งผ่านไปได้ ซึ่งนายวรศักดิ์ ได้ประกาศเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางนี้ให้ระมัดระวัง หากน้ำมีปริมาณมากผิดปกติขอให้ยุติการข้ามลำน้ำเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

สำหรับที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้เกิดฝนตกหนักเช่นกัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลันในลำห้วยสายต่างๆ ขณะนี้ อบต.แม่สามแลบ อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากน้ำปริมาณมากก็จะเตือนให้ชาวบ้านพร้อมรับมืออุทกภัยในทันที

ขณะที่นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่บ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา จนเกิดดินสไลด์ทับเส้นทางบ้านห้วยทรายขาว-บ้านห้วยผึ้ง จนรถส่งสินค้าจุดผ่อนปรนบริเวณชายแดนไม่สามารถสัญจรได้ จึงสั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าช่วยเหลือ โดยประสานผู้ประกอบการใช้เครื่องจักรเข้าเคลียร์เส้นทาง คาดว่าภายในวันเดียวกันนี้จะสามารถเปิดสัญจรได้ตามปกติ

อีกด้านหนึ่ง นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดฝนตกหนัก ลมแรง ส่งผลให้มีต้นไม้หักโค่นทับสายไฟฟ้า และดินสไลด์ มีหินถล่มลงมาทับถนนธนะรัชต์ ช่วงประตูด่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ขึ้นมาใกล้น้ำตกเล็ก หลัก กม.ที่ 26 เนื่องจากดินอุ้มน้ำไม่ไหว โดยหินสไลด์จากยอดเขาสูงกว่า 100 เมตร ทับถนนหลายจุดและขวางถนนจนรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลียร์เส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดการจราจรโดยเร็ว