ปราจีนฯท่วมอ่วม

200หลังถูกตัดขาด

ระยองน้ำป่าทะลัก

การจราจรติดหนึบ

กรมอุตุฯเตือนฝนถล่ม 39 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนน้ำเขาใหญ่ทะลักท่วมบ้านเรือนใน จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านอพยพวุ่น ด้านอุทยานฯสั่งปิด 3 แหล่งท่องเที่ยวดัง เกิดน้ำป่าหลาก หวั่นเกิดอันตรายกับท่องเที่ยว ส่วน จ.ระยอง น้ำป่าหลากท่วมถนน มีรถเครื่องยนต์ดับ ทำรถติดยาวเหยียด

เมื่อวันที่ 30กรกฎาคมกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ ว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังมีฝนตกหนักบางแห่งบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานีสกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และอุบลราชธานีภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จ.นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตรภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ระนอง พังงา และภูเก็ต ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่

ที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ภายหลังเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลหลากจากน้ำตกแก่งหินเพิง บนคลองใสใหญ่ ลงมายังพื้นที่ ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านสะพาน หมู่ 5 ต.สะพานหิน อ.นาดี ชาวบ้านต้องหนีน้ำกันจ้าละหวั่นซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ ปภ.ปราจีนบุรี และกู้ภัยต้องนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในร่วม 200 หลังคาเรือน หลังจากน้ำท่วมจนถูกตัดขาดโดยการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำแรง นอกจากนี้บางพื้นที่ยังไม่ตัดกระแสไฟฟ้าทำให้ยากต่อการช่วยเหลือ เพราะเจ้าหน้าที่เกรงจะเกิดอันตรายได้

ด้านนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่(พื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี) กล่าวว่า บนอุทยานฯ ฝนตกตลอดต่อเนื่องทั้งวันที่จุดวัดปริมาณน้ำฝนที่เขาเขียวตรวจวัดระดับปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100มิลลิเมตรต่อวัน โดยวันที่ 29กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศแจ้งการงดบริการท่องเที่ยวที่น้ำตกตะคร้อ ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากระดับน้ำแรง เชี่ยวกราก มีปริมาณสูง และอีกแห่งที่คลองใสใหญ่ ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวที่มีการผจญภัยล่องแก่งหินเพิงภายหลังมีระดับน้ำสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจนถึงศาลาแปดเหลี่ยมจุดบริการนักท่องเที่ยว และเอ่อล้นบนถนนแล้ว

นายชัยยา กล่าวอีกว่า ขณะนี้เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก จึงสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่ง ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง พร้อมกับพิจารณาปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกนางรอง จ.นครนายกเพิ่มอีกแห่งรวม 3 แห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตอนล่าง

ส่วนที่ จ.ระยอง เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกหนักและตกสะสม ทำให้น้ำป่าหลากท่วมถนนสายหลัก 3574 บ้านค่าย-บ้านบึง ด้านหน้า ธ.ก.ส.บ้านค่าย ทั้งสองฝั่ง ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถบางคันเครื่องยนต์ดับ สร้างผลกระทบแก่ชาวบ้านและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวเริ่มไหลมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ จนท่วมถนน

นายชาญณรงค์ ระวงษ์พันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เปิดเผยว่า น้ำเริ่มมาตั้งแต่เที่ยงคืนจากนั้นก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้รถเครื่องยนต์ดับไปหลายคัน มวลน้ำดังกล่าวยังไม่หมดแค่นี้ โดยยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ทำให้ตลอดวันถนนตรงหน้า ธ.ก.ส.บ้านค่าย อาจมีน้ำท่วมเส้นทางไม่ลดลง อย่างไรก็ตามในหลายพื้นที่ของ จ.ระยองยังคงมีฝนตกหนักจึงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง