แม่ค้าร้านชำหอบหลักฐานโร่แจ้งตำรวจ สภ.นางรอง บุรีรัมย์ ถูกมิจฉาชีพหลอกรีวิวสินค้าออนไลน์ แต่กลับโดนดูดเงิน 88,000 บาท ซวยซ้ำเจอเพจปลอมศูนย์บริการช่วยเหลือประชาชน อ้างจะช่วยเอาเงินคืนด้วยวิธีการหลอกให้เข้าเว็บพนันออนไลน์สุดท้ายโดนไปอีก 3 หมื่น รวมสองครั้งสูญเงิน 118,000 บาท เจ้าตัวเผยแค่อยากมีรายได้เสริมแต่เกือบหมดตัว

วันนี้ (7 ส.ค.67) น.ส.วนิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปีแม่ค้าร้านชำชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานข้อความการแชทสนทนา หน้าเพจของมิจฉาชีพ และสลิปการโอนเงิน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง ให้ช่วยติดตามแก๊งมิจฉาชีพมาดำเนินคดี และติดตามเงินคืน หลังจากได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้รีวิวสินค้าประเภทเครื่องนอน ที่ขายผ่านออนไลน์ แต่กลับโดนดูดเงินไปจำนวน 88,000 บาท และพอรู้ตัวว่าโดนหลอกก็พยายามค้นหาเพจที่ช่วยเหลือคนตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่กลับโดนเพจปลอมที่ตั้ง "ชื่อว่าศูนย์บริการประชาชน ช่วยเหลือประชาชน" บอกจะช่วยเหลือติดตามเงินคืนให้ด้วยวิธีการให้ผู้เสียหายสมัครเข้าไปในเว็บพนันออนไลน์ เพื่อจะดึงเงินที่ถูกดูดไปกลับคืน แต่สุดท้ายกลับโดนหลอกโอนเงินไปอีก 30,000 บาท รวมสองครั้งสูญเงินไปจำนวน 118,000 บาท จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความ 

น.ส.วนิดา เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ตนได้กดเข้าไปใน Application tiktok ก่อนจะมีสมาชิกใน Application บอกว่าให้ทดลองกดรีวิวสินค้าแล้วจะได้เงินค่าตอบแทนในการรีวิวสินค้า ตามยอดที่ขายได้ ด้วยความที่มีรายได้เสริม จึงตัดสินใจสมัครเข้าไป โดยเสียค่าสมัครเพียง 100 บาท ก็กดสมัครตามที่เขาแนะนำทุกขั้นตอน จากนั้นเขาก็บอกว่าต้องเติมเงินเข้าไปในระบบถึงจะสามารถรีวิวสินค้าได้ จึงโอนไปครั้งแรก 3,000 บาท พอโอนไปแล้วในระบบก็ให้กดยืนยันตัวตนและต้องทำให้ครบทั้งหมด 40 ด่าน ตนก็ทำผ่านไป 39 ด่าน พอถึงด่านสุดท้ายคือด่านที่ 40 ทางระบบแจ้งว่าให้โอนเงินเข้าไปก่อน เพราะรายการสุดท้ายเป็นชุดเครื่องนอนที่มียอดสินค้าประมาณ 88,000 บาท จึงจะได้ผลตอบแทน ทำให้หลงเชื่อโอนเข้าไปตามที่ระบบแจ้ง 88,000 บาท แต่พอโอนเสร็จระบบก็ล็อคอัตโนมัติไม่สามารถทำรายการอะไรได้อีก ติดต่อใครก็ไม่ได้จึงมั่นใจว่าถูกหลอกดูดเงินไปแล้ว 88,000 บาท ด้วยความที่อยากได้เงินคืนก็พยายามค้นหาเพจช่วยเหลือประชาชนที่โดนหลอก 

กระทั่งไปเจอเพจชื่อ "ศูนย์บริการประชาชนช่วยเหลือประชาชน" ก็เข้าใจว่าเป็นเพจของเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์จริงๆ จึงติดต่อเข้าไปเพื่อขอรับการช่วยเหลือ โดยตอนแรกทางศูนย์แนะนำให้ติดต่อทนายก่อน โดยทางศูนย์ฯจะเป็นคนจัดหาทนายให้จึงหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง แต่พอเพจดังกล่าวติดต่อมา ก็แนะนำว่าถ้าอยากได้เงินกลับมาคืน ต้องโอนเงินเข้าไปในเว็นพนันออนไลน์ ทำทีเหมือนว่าเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ แล้วเจ้าหน้าที่จะหาช่องทางดูดเงินกลับมาคืนให้ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นกลอุบายของมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์จริงๆ และก็อยากได้เงินคืนด้วย จึงหลงเชื่อทำตามที่เขาบอก ก็โอนเงินเข้าไปอีก 30,000 บาท 

จากนั้นเขาก็บล็อกการติดต่อทุกช่องทางอีก จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอนซึ่งทั้งสองครั้งรวมสูญเงินไปจำนวน 118,000 บาท ก็อยากจะวิงวอนถึงผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเหลือด้วย   เพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ตนกับแม่ช่วยกันเก็บสะสมจากการขายของชำและอาหารตามสั่ง และทองที่เอาไปขายด้วย เพราะอยากมีรายได้เสริมก็ไม่คิดว่าจะถูกหลอกแทบหมดตัว