ยายวุ่นพาหลาน 8 ขวบขึ้นเขาไปหาหน่อไม้ แต่กลับหายตัวไปหลายชั่วโมง ระดมชาวบ้านช่วยกันออกตามหากลับไม่เจอ สุดท้ายต้องบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ค่อยมาพบตัวอีกฝั่งหนึ่งของภูเขา ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ในสภาพเดินจนรองเท้าขาด ไม่รู้มาได้อย่างไร ด้านหนูน้อยเผยเห็นคนเดินตามหา ตะโกนเรียกแต่ไม่มีใครได้ยิน เชื่อเจ้าป่าเจ้าเขาบังตาเพราะไปฉี่บนเขาโดยไม่ได้ขอขมาก่อน

เมื่อเวลา 14.30.น.วันที่ 12 ส.ค.67สถานีตำรวจภูธรตลุกดู่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กวัย 8 ขวบ หายตัวอยู่บริเวณเชิงเขาเพชรผาลาด หมู่ 17 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบริเวณเชิงเขาเพชรผาลาด ซึ่งยังมีสภาพเป็นป่าทึบ มีต้นก่อไผ่อยู่มากมาย  พบกลุ่มชาวบ้านกำลังช่วยกันออกตามหาเด็กวัย 8 ขวบ ทราบชื่อน้องไฮคิว เรียนอยู่ชั้น ป.2 โดยมียายของเด็กชื่อนางนารีรัตน์ หมาตเก้ง บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี อยู่ในอาการกำลังทุกข์ใจ

นางนารีรัตย์ เผยว่า วันนี้ช่วงเวลาเกือบ 09.00 น.ซึ่งเป็นวันหยุดเรียน ยายจะออกไปหาหน่อไม้มาทำอาหาร แต่หลานได้ขอติดตามไปด้วย ตนจึงได้ขับรถจยย.มากับหลาน โดยจอดรถไว้ทางขึ้นเขา แล้วก็เดินเข้าไปพร้อมกัน โดยเลือกหาบริเวณข้างล่างเขา ระหว่างที่อยู่บริเวณเขา ตัวหลานเองได้ปวดฉี่ ตนจึงให้ฉี่บนเขา ต่อมาตัวยายเอง เดินลงมาส่งหลานที่รถ จยย.รอบแรก แล้วบอกกับหลานว่าให้ยืนรออยู่ตรงนี้แป๊บนึง เดี๋ยวยายจะไปหาหน่อไม้ต่อ      ล่าสุดระหว่างที่ยายเดินลงมาจากเขารอบที่ 2 ตัวยายก็ไม่พบเจอตัวหลานอยู่ที่รถ จยย.ตอนนั้นยายก็ทุกข์ใจร้อนรน ได้ตะโกนบอกชาวบ้าน ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อมชาวบ้านช่วยเดินออกตามหาหลาน 2-3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบ จนยายได้พูดบนไว้ในใจว่า ขอให้หลวงพ่อเคลือบวาจาศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้พบเจอหลานด้วย

กระทั่งล่าสุดได้มีชาวบ้านรายหนึ่ง ที่เข้าไปหาหน่อไม้ ได้เดินลงมาจากเขา ได้พบเจอตัวเด็กอยู่เพียงลำพัง นั่งหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้กับพุ่มไม้ ซึ่งติดกับทางขึ้นลงเขาอีกฝั่งหนึ่ง โดยสภาพรองเท้าผ้าใบของหลานขาดทั้ง 2 ข้าง ชาวบ้านจึงได้รีบนำตัวเด็ก ไปส่งที่บ้านของเด็ก ต่อมาวยายเองทราบข่าว ว่า มีชาวบ้านแจ้งมาว่าพบตัวเด็กแล้ว ตัวยายเอง    ได้รีบออกจากป่าเขา ขับรถ จยย.ไปหาหลานที่บ้าน พร้อมกับสอบถามหลานว่า หายไปไหนมา หลานได้บอกกับยายว่า หนูไปอยู่หน้าถ้ำ แต่ไม่ทราบตรงไหน พร้อมกับเห็นทุกคนตอนออกตามหาหลาน  แต่ก็ไม่มีใครได้ยินที่หลานตะโกนเรียกเลย

นางนารีรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าสิ่งลี้ลับเจ้าป่าเจ้าเขาบังตา เนื่องจากรอบแรกที่เข้าไปหาหน่อไม้บนเขา หลานชายได้ไปฉี่ที่บนเขา โดยที่ไม่ได้กราบไหว้ขอขมากับเจ้าที่เจ้าทาง ตนเองคาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น พร้อมกับได้พาหลานไปที่เขาอีกรอบหนึ่ง เพื่อนำธูปเทียนดอกไม้ น้ำแดง เหล้าขาว น้ำ 1 ขวด ไปจุดกราบไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอขมาในสิ่งที่เรามองไม่เห็น พร้อมกับพาหลานไปชี้จุดฝากเขาอีกที่หนึ่งซึ่งเป็นจุดแรก ที่เด็กบอกว่าวิ่งมาจนรองเท้าขาด ซึ่งระยะทางห่างจากจุดที่จอดรถ จยย.ประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร ก่อนที่หลานจะมาหลบซ่อนตัวที่จุดที่สอง ที่ชาวบ้านนั้นมาพบเจอตัวเด็กแล้วนำมาส่งที่บ้าน

ทั้งนี้ ตัวยายเองได้สวมใส่สร้อยคอหลวงพ่อแกะ วัดป่าคา ติดตัวไว้ที่คอหลานตลอด คาดว่าครั้งนี้หลวงพ่อแกะก็น่าจะช่วยหลานตนเอง ใหัแคล้วคลาดปลอดภัยในครั้งนี้ พร้อมก็ขอเตือนชาวบ้านว่าหากไปหาหน่อไม้บนเขา หากเด็ก หรือลูกหลาน ขอไปด้วยอย่าเอาไปเด็ดขาด หวั่นว่าจะเป็นเหมือนตนเองในครั้งนี้